![เกร็ดละคร คุณพี่เจ้าขาฯ กินหมาก ใช่จะตัดขาด เลิกกันง่ายๆ](img9/270940.jpg)
เกร็ดละคร คุณพี่เจ้าขาฯ กินหมาก ใช่จะตัดขาด เลิกกันง่ายๆ
![เกร็ดละคร คุณพี่เจ้าขาฯ กินหมาก ใช่จะตัดขาด เลิกกันง่ายๆ](img9/270940.jpg)
เพิ่งผ่านไปสด ๆ ร้อน ๆ กับฉากที่หลายคนชื่นชอบในละคร คุณพี่เจ้าขาดิฉันเป็นห่านมิใช่หงส์ เมื่อ "หลวงทุกขราษฎร์" ยอมตัดใจไม่กินหมาก ไม่ฟันดำ ขัดฟันขาวเพื่อพิชิตใจ "บุญตา" ให้ได้
ซึ่งการกระทำนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ชายทุกคนในสมัยนั้นจะยอมทำ เพราะการกินหมาก เป็นประเพณีที่อยู่กับคนไทยมานาน คนไทยชอบเคี้ยวหมากมากมาเนิ่นเนิน การเคี้ยวหมาก เคี้ยวพลูถือเป็นส่านหนึ่งของวัฒนธรรม รากเหง้า และ ประเพณีไทยเลยก็ว่าได้
ย้อนวัฒนธรรมการกินหมากในไทย
การกินหมากเป็นวัฒนธรรมที่แนบแน่นอยู่กับวิถีชีวิตของคนไทยมาตั้งแต่อดีต หลักฐานทางประวัติศาสตร์และวรรณคดีแสดงให้เห็นว่าการกินหมากแพร่หลายในทุกชนชั้น ตั้งแต่กษัตริย์ เจ้านาย ขุนนาง ไปจนถึงชาวบ้านทั่วไป โดยเฉพาะในอดีต คนไทยนิยมกินหมากตั้งแต่วัยหนุ่มสาวไปจนถึงวัยชรา และถือเป็นกิจวัตรประจำวัน
หลักฐานทางประวัติศาสตร์และวรรณคดี
เอกสารโบราณหลายฉบับ รวมถึงกฎหมายและวรรณกรรมไทย เช่น ขุนช้างขุนแผน กล่าวถึงการกินหมากอย่างเด่นชัด ตัวละครอย่างขุนแผนและนางพิมเคยเคี้ยวชานหมากของกันและกันเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ในขณะที่ สี่แผ่นดิน ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ก็มีฉากที่แม่พลอยห่อหมากส่งให้พี่เนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงมิตรภาพและความใกล้ชิด
นอกจากนี้ พงศาวดารและตำนานต่าง ๆ ยังกล่าวถึงความสำคัญของหมากพลูในราชสำนัก ตัวอย่างเช่น พระนางจามเทวีแห่งหริภุญชัย (ลำพูน) เคยเสกหมากเสกพลูให้ขุนวิลังคะยอมจำนน หรือกรณีของท้าวศรีสุดาจันทร์ที่เคยใช้หมากเป็นสื่อรักกับพันบุตรศรีเทพ นำไปสู่เหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา
การกินหมากและบทบาทในสังคมไทย
1. สัญลักษณ์ของมิตรภาพและไมตรีจิต
การกินหมากในอดีตไม่ใช่เพียงแค่พฤติกรรมส่วนบุคคล แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของสังคม การแบ่งปันหมากจากเชี่ยนหมากเดียวกันเป็นสัญลักษณ์ของความสนิทสนมและไมตรีจิต ผู้ใหญ่จะให้หมากแก่เด็กหรือผู้มาเยือนเพื่อแสดงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
2. เครื่องราชบรรณาการและของขวัญในพิธีการสำคัญ
ในอดีต หมากพลูถูกใช้เป็นเครื่องราชบรรณาการในการทูตไทย-จีน และไทย-พม่า อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของพิธีแต่งงาน โดยเจ้าบ่าวต้องแต่งขันหมากพลูไปสู่ขอเจ้าสาว ซึ่งขันหมากนี้มักจัดเป็นชุดสวยงาม ประกอบด้วยหมาก พลู ปูนแดง และเครื่องประกอบอื่น ๆ
3. บทบาททางศาสนาและไสยศาสตร์
ในบางพื้นที่ หมากพลูถูกใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา พระเกจิอาจารย์หรือหมอผีบางคนจะปลุกเสกชานหมากเพื่อใช้เป็นเครื่องรางของขลัง เชื่อกันว่าชานหมากของพระอาจารย์บางรูปมีอำนาจคุ้มครองผู้ครอบครองจากภัยอันตราย
ความเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมการกินหมาก
ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมา การกินหมากเริ่มลดลง เนื่องจากมีการรณรงค์ให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าวเพื่อสุขอนามัย รวมถึงความเปลี่ยนแปลงของรสนิยมที่รับอิทธิพลจากตะวันตก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเลิกเสวยหมาก และสนับสนุนให้ประชาชนหันมาดูแลสุขภาพช่องปากมากขึ้น ส่งผลให้คนไทยยุคใหม่เลิกกินหมากไปโดยปริยาย
ปัจจุบัน การกินหมากยังคงพบเห็นได้ในบางพื้นที่ชนบท โดยเฉพาะในหมู่ผู้สูงอายุที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิม
![เกร็ดละคร คุณพี่เจ้าขาฯ กินหมาก ใช่จะตัดขาด เลิกกันง่ายๆ](img9/270942.jpg)
![เกร็ดละคร คุณพี่เจ้าขาฯ กินหมาก ใช่จะตัดขาด เลิกกันง่ายๆ](img9/270943.jpg)
![เกร็ดละคร คุณพี่เจ้าขาฯ กินหมาก ใช่จะตัดขาด เลิกกันง่ายๆ](img9/270944.jpg)
![เกร็ดละคร คุณพี่เจ้าขาฯ กินหมาก ใช่จะตัดขาด เลิกกันง่ายๆ](img9/270945.jpg)
![เกร็ดละคร คุณพี่เจ้าขาฯ กินหมาก ใช่จะตัดขาด เลิกกันง่ายๆ](img9/270946.jpg)