ไขปริศนาทำไมคนโบราณ ถึงนอนสองรอบ!


ไขปริศนาทำไมคนโบราณ ถึงนอนสองรอบ!


คุณเคยสงสัยไหมว่าคนในยุคกลางเขานอนกันแบบไหน? เชื่อหรือไม่ว่าพวกเขาไม่ได้นอนยาวรวดเดียวเหมือนเราในปัจจุบัน แต่กลับนิยมการ "นอนสองรอบ" หรือที่เรียกว่า First Sleep และ Second Sleep
พฤติกรรมการนอนสุดแปลกนี้ไม่ใช่เพราะนอนไม่หลับ แต่กลับเป็นเรื่องปกติที่สอดคล้องกับธรรมชาติอย่างไม่น่าเชื่อ!

ลองจินตนาการภาพคนในยุคกลางดูสิ พวกเขาจะเริ่มหลับตั้งแต่หัวค่ำประมาณสองทุ่มถึงสามทุ่ม จากนั้นก็จะตื่นขึ้นมากลางดึกช่วงเที่ยงคืนถึงตีสอง เพื่อทำกิจกรรมสารพัด ไม่ว่าจะเป็นการสวดมนต์ เขียนหนังสือ ทำงานบ้าน หรือแม้แต่พูดคุยกับคนในครอบครัว แล้วค่อยกลับไปนอนต่อรอบที่สองจนถึงเช้าตรู่ พฤติกรรมนี้ดูแปลกตาสำหรับเราในยุคนี้ แต่สำหรับพวกเขาแล้วนี่คือเรื่องธรรมดา!

เบื้องหลังการนอนแบบสองช่วงนี้ ไม่ได้เกิดจากปัญหานอนไม่หลับแต่อย่างใด แต่มันเป็นผลลัพธ์โดยตรงจาก "นาฬิกาชีวิต" ที่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในยุคที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ เมื่อแสงประดิษฐ์ยังไม่เข้ามารบกวน ฮอร์โมน เมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เราง่วง จะหลั่งออกมาสูงในช่วงหัวค่ำ ทำให้คนในยุคนั้นเข้านอนเร็ว และหลังจากหลับไปสักพัก ระดับเมลาโทนินก็จะลดลงตามธรรมชาติ ส่งผลให้ร่างกายตื่นขึ้นมากลางดึกโดยอัตโนมัติ


ข้อมูลอันน่าทึ่งนี้ไม่ได้มาจากแค่การคาดเดา แต่ถูกค้นพบจากบันทึกเก่าแก่กว่า 700 ปี ทั้งในตำราทางศาสนา จดหมายส่วนตัว และงานเขียนทางการแพทย์ นักวิชาการปัจจุบันเชื่อว่า การนอนสองรอบนี้อาจเป็นรูปแบบการนอนดั้งเดิมของมนุษย์ ที่ค่อยๆ หายไปและถูกลืมเลือน หลังจากที่เราก้าวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมและการใช้ไฟฟ้าที่ทำให้กลางคืนสว่างไสวราวกับกลางวัน

บางทีการนอนสองรอบในยุคกลาง อาจเป็นรูปแบบการนอนที่ร่างกายมนุษย์ถูกออกแบบมาให้เป็นเช่นนั้นก็ได้นะ น่าคิดไหมล่ะว่าถ้าไม่มีไฟฟ้า ชีวิตการนอนของเราจะเป็นอย่างไร?



ไขปริศนาทำไมคนโบราณ ถึงนอนสองรอบ!

เครดิต :
เครดิต : ที่นี่ดอทคอม ทันทุกเรื่องฮิต


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์