ยุงชอบกัดคนประเภทไหน

ยุงชอบกัดคนประเภทไหน



คุณเคยสังเกตพบว่ายุงชอบกัดคนบางคนมากกว่าเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ด้วยกัน สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะผลจากการวิจัยพบว่า :-
  • ยุงชอบกัดคนที่มีเหงื่อออกมาก
  • ยุงชอบกัดคนที่ตัวร้อน (อุณหภูมิบริเวณผิวหนังสูง)
  • ยุงชอบกัดคนที่หายใจแรง เพราะคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมากับลมหายใจเป็นตัวดึงดูดยุง
  • ยุงชอบกัดเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ เพราะกลิ่นและลักษณะผิวหนัง
  • ยุงชอบกัดผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพราะฮอร์โมนแตกต่างกัน
  • ยุงชอบกัดคนที่ใส่เสื้อผ้าสีเข้ม เช่น สีดำ กรมท่า แดง เขียว มากกว่าสีขาว
ทำไมยุงกัดแล้วคัน
      สาเหตุของการคันคือ น้ำลายของยุง โดยที่ยุงจะฉีดน้ำลายลงไปในบริเวณที่เจาะดูดเลือด เพื่อทำให้เลือดเจือจางลง จะได้ดูดขึ้นไปได้ง่าย น้ำลายของยุงทำให้คนเราเกิดอาการแพ้ต่างๆ กัน บางคนแค่มีอาการคัน แต่บางคนแพ้มากเกาจนเป็นแผลลุกลาม ติดเชื้อได้ง่าย 

      
ในน้ำลายของยุงอาจมีเชื้อโรคร้าย เป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้แก่ เชื้อไวรัสเดงกี ไวรัสเจอี หรือเชื้อสปอร์โรซัว หรือ หนอนพยาธิ ก่อให้เกิดโรคต่างๆ เช่น โรคไข้เลือดออก โรคไข้สมองอักเสบเจอี โรคมาลาเรีย โรคฟิลาเรีย หรือโรคเท้าช้าง ฯลฯ

ป้องกันไม่ให้ยุงกัดได้อย่างไร 

• จัดสภาพบ้านให้เรียบร้อย ไม่เป็นแหล่งอาศัยของยุง และป้องกันไม่ให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงบริเวณบ้าน
• ไม่เลี้ยงสัตว์ไว้ใต้ถุนบ้าน เพราะยุงบางชนิด เช่นยุงพาหะโรคไข้สมองอักเสบชอบกัดสัตว์ จึงเป็นการดึงดูดยุงเข้ามากัดคนได้
• นอนในมุ้งหรือติดมุ้งลวด หรือใช้พัดลมเป่าไม่ให้ยุงเข้าใกล้
• ใช้สารไล่แมลง หรือสารป้องกันแมลง (repellents) ซึ่งผลิตจากสารธรรมชาติ เช่น ตะไคร้หอม ไพล ขมิ้นชัน มะกรูด ยูคาลิปตัส ฯลฯ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติสามารถป้องกันยุงได้ประมาณ 30 นาที - 4 ชั่วโมง ในการพัฒนาตำรับต้องนำมาเติมสารตรึง (fixative) จึงจะป้องกันยุงได้นานขึ้น
• ใช้ผลิตภัณฑ์ทาป้องกันยุงซึ่งผสมสารเคมีสังเคราะห์ที่ไม่เป็น อันตราย เช่น Ethyl Butylacetylaminopropionate, Picaridin, Deet , Dimethyl Phthalate (DMP), Ethyl Hexanediol ฯลฯ ทาบริเวณแขน ขา จะป้องกันยุงได้ประมาณ 2-8 ชั่งโมง
• ใช้ยาจุดกันยุง เครื่องไล่ยุงไฟฟ้า
• หากพบว่ามียุง ใช้ไม้ตียุงไฟฟ้า หรือใช้น้ำยาล้างจาน 1 ส่วนผสมน้ำ 4 ส่วน ใส่กระบอกฉีดพ่น
• ใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดยุงกระป๋อง ฉีดเฉพาะบริเวณมุมอับ ใต้เตียง ใต้โต๊ะ ทิ้งไว้ 15-30 นาที ก่อนเข้าไปในห้อง 

fwdder

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์