“ศปภ.”ยันน้ำไม่เข้ากทม.เตือนโจรอย่าก่อการ

“ศปภ.”ยันน้ำไม่เข้ากทม.เตือนโจรอย่าก่อการ


ศปภ.แถลงชาวกทม.โล่งอกน้ำไม่ท่วม แต่ยังห่วง“นวนคร”หลังระดับน้ำเพิ่มสูงเชื่อเอาอยู่ ชี้ปชช. น้ำมัน-ก๊าซ มีพอเพียงไร้กังวล  เตือนโจรอย่าซ้ำเติมคนทุกข์ยาก

วันนี้ (16 ต.ค.) เมื่อเวลา 22.00 น. ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ท่าอากาศยานดอนเมือง นายวิม รุ่งวัฒนจินดา พร้อมด้วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ และ พล.อ.พลางกูร กล้าหาญ โฆษกศปภ. ร่วมกันแถลงผลการประชุมช่วงค่ำที่มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผอ.ศปภ.ทำหน้าที่เป็นประธานโดยนายวิม กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในการซ่อมแซมประตูน้ำคลองบ้านพร้าวนั้น  ศปภ.ยืนยันว่าจากผวจ.ปทุมธานีว่าได้รับการซ่อมเรียบร้อยและสามารถปิดกั้นน้ำที่จะไหลเข้าพื้นที่ จ.ปทุมธานี เรียบร้อยแล้ว และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้ ได้มีระดับน้ำลดลงแล้ว ส่วนเรื่องของปริมาณที่ไหลเข้าคลองเปรมประชากรและไหลเข้าคลอง 1 จ.ปทุมธานีจนถึงรังสิตตอนบน ขณะนี้มีปริมาณน้ำปรับระดับสูงขึ้นประมาณ 30 ซม. แต่ไม่เกิน 50 ซม. ในพื้นที่ลุ่มและต่ำ ซึ่งมีข่าวก่อนหน้านี้ว่ามีปริมาณน้ำท่วมในบริเวณตลาดไทบางส่วน ตนขอชี้แจงว่า มวลน้ำที่ไหลลงมาจากอ.วังน้อยและ อ.บางประอินทร์บางส่วนนั้นจะมาปะทะกับคลองกั้นน้ำที่เรียกว่าคลองระพีพัฒน์ฝั่งตะวันตกที่จะไหลลงผ่านประตูเชียงรากน้อย ที่มีแนวกั้นน้ำเพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร  และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต รวมทั้งบางส่วนของ ถ.พหลโยธิน  แต่ประตูเชียงรากใหญ่ ซึ่งมีอาณาเขตติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ติดกับ อ.บางไซ จ.พระนครศรีอยุธยา

ศปภ.สั่งให้มีการระบายน้ำลงสู่อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งก่อนหน้านี้ประตูคลองบ้านพร้าวได้แตกและมีน้ำไหลดเข้าท่วมบริเวณนี้อยู่แล้ว
 
แม้ว่าขณะนี้จะมีการปิดประตูน้ำส่วนนี้ลงได้ แต่ว่า ศปภ.ได้มีการเจรจากับประชาชนว่าของให้น้ำไหลลงสู่ประตูน้ำคลองเชียงรากใหม่ และประตูน้ำเล็กๆที่ไม่สามารถเข้าไปซ่อมบำรุงได้ เพราะเกิดการแตกเสียหายไปก่อนหน้านี้ โดยน้ำจะไหลเข้าสู่พื้นที่อ.สามโคก และไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาบางส่วน โดยน้ำที่หลายคนเกรงว่าจะไหลเข้านิคมฯนวนครนั้น ขอให้เบาใจได้ เพราะได้รับการยืนยันจากนายธีระ วงศ์ สมุทร รมว.เกษตรฯ และ นายชลิต ดำรงศักดิ์อธิบดีกรมชลประทานว่าน้ำจะไม่ไหลเข้าบริเวณดังกล่าว
               

นายวิม กล่าวอีกว่า สำหรับน้ำที่ไหลเข้าบริเวณคลอง 1 จ.ปทุมธานี และคลองเปรมประชากรนั้น กทม.ได้มีการระบายน้ำบางส่วนออกแม่น้ำเจ้าพระยา

เพราะฉะนั้นปริมาณน้ำเข้าและปริมาณน้ำออกมีความสัมพันธ์กันจึงทำให้ไม่มีปริมาณน้ำล้นขึ้นมา หรืออาจจะมีปริมาณน้ำล้นบริเวณคอขวดเท่านั้น ซึ่งเป็นการล้นชั่วคราว ส่วนน้ำที่ไหลมาบริเวณคลอง 1 ที่มีการเออท่วมตลิ่งปริมาณ 30-50 ซม. นายอำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานีได้รายงานว่าขณะนี้น้ำได้เริ่มปรับระดับลดลงแล้ว เพราะว่ากรมชลประทานได้มีการเปิดประตูระบายน้ำคลอง2 ,3,4,5,8,9, และคลอง 10 เพื่อระบายน้ำเข้าไปสู่คลองระพีพัฒน์แยกตกและคลองต่างๆ จะทำให้ปริมาณน้ำในคลอง1ลดระดับลง ขอให้ประชาชนวางใจได้ว่าศปภ.จะเร่งระบายน้ำออกคลอง 1 ให้เร็วที่สุด ส่วนที่มีความวิตกกังวลว่าน้ำจะไหลลงมาชนประตูน้ำจุฬาลงกรณ์จะมีการไหลข้ามเข้ามากทม.หรือไม่นั้น กรมชลประทานได้รายงานว่าประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ปิดบางส่วนและเปิดบางส่วนเพื่อให้ไหลเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยา  เพราะฉะนั้นน้ำที่ไหลลงมาจากคลอง1จะมาชนถนนรังสิต-นครนายกที่เป็นพนังกันน้ำไม่สามารถทะลุถนนได้ ชาวกทม.ไม่ต้องตื่นตระหนก ขอให้สบายใจได้ว่าปริมาณน้ำที่มีการควบคุม และแผนระบายน้ำจะไม่ทำให้น้ำเข้าท่วมกทม.อย่างแน่นอน แต่อาจจะมีบางพื้นที่ที่น้ำเออล้นหรือซึมเข้ามาตามคูคลอง ซึ่งสามารถสูบออกไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาได้

นายวิม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวลือว่าคลังน้ำมันของบริษัทบางจาก ที่ อ.บางประอินทร์ จ.พระนครศรีอยุธยา ต้องหยุดให้บริการนั้น เนื่องจากอาจขาดแคลนปริมาณน้ำมันที่จะให้บริการกับประชาชน ทางศปภ.ได้รับการยืนยันจากนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน ว่า ขณะนี้บริษัทการปิโตรเลียม หรือปตท.มีปริมาณน้ำมันและก๊าซเพียงพอต่อการให้บริการกับประชาชนอย่างทั่วถึง ขอให้ประชาชนไม่ต้องเป็นห่วงและตื่นตระหนก

ด้านพล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ศปภ.ดำเนินการด้วยความระมัดระวังรอบคอบ เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดและคำนึงถึงความทุกข์ยากของประชาชนเป็นสำคัญโดยดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งอาจจะมีการอพยพประชาชน หรืออาจจะมีผลกระทบต่อประชาชน ทางผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอจะมีการนำเรียนประชาชนให้ทราบล่วงหน้า เพื่อเตรียมความพร้อม  ขอให้มั่นใจการดำเนินการของศปภ. ทั้งนี้ได้มีการบูรณาการกำลังพลเข้าพื้นที่เต็มรูปแบบเพื่อดูแลประชาชน ให้เป็นไปอย่างทั่วถึง สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ใน อ.สามโคก  หรือพื้นที่ใกล้เคียงที่น้ำเริ่มเข้าพื้นที่นั้น ทางราชการได้จัดที่พักพิงชั่วคราวให้กับประชาชน 3 แห่งล่าสุด คือ ทีวีโดม มหาวิทยาลัยเทคโลยีราชมงคลธัญบุรี และอาคารเทมินอล 2 ใกล้ท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งเชื่อว่าหากประชาชนสามารถละทิ้งบ้านเรือน หรือมีการเตรียมการไว้ก่อนก็สามารถใช้บริการได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ ทั้งนี้เพื่อความไม่ประมาณทางการได้เตรียมความพร้อมพื้นที่ปลอดภัยไว้รองรับประชาชน  นอกจากนี้หากประชาชนพบเบาะแสอาชญากรรมโจรที่พายเรือเข้าไปบริเวณบ้านเรือของประชาชนที่น้ำท่วมขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่นำเรือออกตรวจตราบ้านเรือนประชาชนตลอดทั้งคืน จึงขอเตือนคนที่ทำร้ายประชาชนในยามทุกข์ยากว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ละเว้นและดำเนินการอย่างเด็ดขาดภายใต้กรอบกฎหมาย

ขณะที่พล.อ.พลางกูร กล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี ว่า น้ำมีระดับเพิ่มขึ้นอีก มีการเตรียมการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
 
พร้อมทั้งปรับการดำเนินการให้ทันต่อสถานการณ์น้ำช่วงนี้ที่น่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตามได้มีการประสานขอกระสอบทรายจากวิทยาลัยการปกครอง 20,000 กระสอบ เพื่อเสริมคันกั้นน้ำ และมั่นใจว่าการต่อสู้กับน้ำที่นิคมนวนครน่าจะบรรลุผล ขอให้ประชาชนมั่นใจได้  ส่วนการช่วยเหลือประชาชนที่จ.ปทุมธานีมีผู้อพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวประมาณ 7,000 คน และคืนนี้คาดว่าจะทยอยเข้าเพิ่มอีก มีการเตรียมการอาสาสมัครเพื่ออำนวยความสะดวก อย่างไรก็ตามขณะนี้มีบางพื้นที่มีน้ำท่วมขังเป็นเวลานานจนเกิดน้ำเสียจึงได้ประสานความร่วมมือระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงกลาโหม โดยในวันที่ 17 ต.ค.นี้จะมีการประชุมเพื่อจัดทำพีเอ็มเพื่อบำบัดน้ำเสียด้วย


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์