เมื่อใด ไร้ตัว...ไร้ตน ชั่วขณะ เมื่อนั้น...ก็ละกิเลสได้

เมื่อใด ไร้ตัว...ไร้ตน ชั่วขณะ เมื่อนั้น...ก็ละกิเลสได้


"เมื่อใด ไร้ตัว...ไร้ตน ชั่วขณะ เมื่อนั้น...ก็ละกิเลสได้"
(ไร้ตัว...ไร้ตน ในที่นี้หมายถึง การไม่ยึดมั่นถือมั่นในตัวเรา ว่าเป็นของเรา)


วันพระนี้..จึงเขียนมาเพื่อ "มองให้เห็น...เห็นในการมอง"
คำว่ามองให้เห็นคือ เห็นว่าไร้ตัว...ไร้ตน เช่นนี้เรียกว่า ความไม่เที่ยง ไม่แน่นอน (อนิจจัง)

อธิบายดังนี้..
ถ้านำน้ำแข็งใส่แก้วใบหนึ่ง วางไว้กลางแจ้งสักหนึ่งเดือน น้ำแข็งในแก้วนี้จะเป็นอย่างไร?
เหลือเท่าเดิมไหม? หรือว่าเหลือแต่แก้วเปล่า...เปล่า... ให้ย้อนกลับไปค่อย..ค่อย...พิจารณา
ตั้งแต่เริ่มแรกใส่น้ำแข็งในแก้ว น้ำแข็งนั้นสามารถจับต้องได้ (นี่คือตัว....คือตน) ผ่านไป
๑ - ๒ ชั่วโมง น้ำแข็งจะละลายเป็นน้ำ ยังเห็นได้และตอบได้ด้วยสายตา ผ่านไป......
ผ่านไป ๑ เดือน น้ำแข็งอยู่ไหน น้ำอยู่เท่าเดิมหรือไม่

เอาใหม่นะ...“คนป่าหาธรรม” ขณะเขียนวันพระเขาเรียกว่า "คน" ผ่านไป...ผ่านไป....
ไม่มีลมหายใจ เขาเรียกว่า " ศพ " เอาไปเผาเขาเรียกว่า " ผี " นี่แสดงให้เห็นถึงความไม่เที่ยง
ไม่แน่นอน (อนิจจัง) "เกิดขึ้น ตั้งอยู่ เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แล้วก็ดับไป" ถามว่า
สุดท้าย....ของสุดท้าย ไหนคือตัว..ไหนคือตน?

ฉะนั้น วันนี้...วันพระ...
ขอให้เธอทั้งหลาย พิจารณาขณะหนึ่ง แบบนิ่ง ๆ ว่า ตัวเรา...อยู่ตรงไหน ผ่านไป...ผ่านไป
อยู่ไหน แล้วต่อไปล่ะ...แล้วต่อไปอีกล่ะ...
พิจารณาแรก ๆ อาจจะทำให้โศกเศร้าเสียใจ พิรีพิไรรำพัน หรือหดหู่ หรือกลัว...ถูกต้องแล้ว
ให้พิจารณาใหม่อีกครั้ง...อีกครั้ง เพื่อให้เห็นสภาวะสองสภาวะ คือ

๑) สภาวะธรรมดา คือ เป็นเรื่องธรรมดา เกิดขึ้นกับทุก ๆ คนบนโลกใบนี้
๒) สภาวะธรรมชาติ คือ ทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ ย่อมเป็นไปตามธรรมชาติ
ไม่มีใคร ไม่มีผู้ใดเปลี่ยนแปลงได้



เมื่อเข้าใจสภาวะนี้จริง ๆ จะเห็นว่า....
สภาวะที่ไร้ตัว..ไร้ตน แล้วจะค้นหาสิ่งใด..มาเพื่ออะไร..เพื่อใคร.. เพียงชั่วขณะหนึ่ง
ของจิตที่เข้าสู่สภาวะที่เห็นสภาพที่แท้จริง.... จิตก็กลับสู่จิตเดิม (จิตเป็นประภัสสร)
แค่นี้..ใจเธอก็สะอาดขึ้น เนื่องจากความโลภ..ความโกรธ..ความหลง..ก็จะน้อยลง...
นี่คือ "เมื่อใด ไร้ตัว...ไร้ตน ชั่วขณะ เมื่อนั้น...ก็ละกิเลสได้" (ชั่วคราว)


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์