ประกาศ 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก

ประกาศ 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก


เว็บไซต์มูลนิธิ New7Wonders of Nature เปิดเผยผลลงคะแนนให้กับ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ผลปรากฎว่า "ป่าอเมซอน," "อ่าวฮาลอง" หรือฮาลองเบย์ในเวียดนาม, น้ำตกอีกัวซูในประเทศอาร์เจนตินา, เกาะเจจูของเกาหลีใต้, เกาะโคโมโดของอินโดนีเซีย, แม่น้ำเปอร์โต พรินเซซา ในฟิลิปปินส์ และเทเบิล เมาน์เทน ในแอฟริกาใต้ ได้รับเลือกเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก 

ขณะที่สถานที่ธรรมชาติอื่นๆทั่วโลกที่ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นตัวเก็ง กลับตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย อาทิ แนวปะการัง เกรต แบร์ริเออร์ รีฟ ทางชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย, ยอดเขาคิลิมันจาโร ในแทนซาเนีย ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในแอฟริกา, ทะเลเดดซี และแกรนด์ แคนยอน

ประชาชนบนเกาะเจจูกว่า 2,000 คน ต่างร่วมแสดงความยินดีต่อผลดังกล่าว โดยนายกเทศมนตรีจังหวัดเจจูกล่าวว่า นี่จะเป็นการช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเกาะได้อย่างดี รวมถึงการลงทุนด้านสาธารณูปโภค การเกษตร

ผลดังกล่าวได้มาจากการคัดเลือกสถานที่ 440 แห่งทั่วโลกใน 220 ประเทศ แล้วคัดเลือกให้เหลือ 77 แห่ง 28 แห่ง และสุดท้ายคัดเลือก 7 แห่ง ให้เป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก

ทั้งนี้ การลงคะแนนเสียงดังกล่าว นับจากเวลา 11.11 น. ตามเวลามาตรฐานสากล ของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2011  หรือ 11/11/11 เรียงตามตัวอักษร ซึ่งจะมีการประกาศผู้ชนะอย่างเป็นทางการในปีหน้า โดยจะนำไปรวมกับ  7 สิ่งมหัศจรรย์ยุคใหม่ที่มนุษย์สร้างขึ้น ที่ประกาศไปแล้วเมื่อวันที่ 7 เดือน 7 ปี 2007 ซึ่งประกอบไปด้วย

1.ชิเชน อิตซา อัสเทค ไซต์ แห่งยูคาตาน ประเทศเม็กซิโก
2.ไครสต์ เดอะ รีดีมเมอร์ ที่นคร ริโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิล
3.กำแพงเมืองจีน
4.มาชู ปิกชู ประเทศเปรู
5.เมืองโบราณเพตรา จอร์แดน
6.สนามกีฬาโคลอสเซียม กรุงโรม อิตาลี
7.ทัชมาฮาล อินเดีย

1.ป่าอะเมซอน อเมริกาใต้

ป่าอเมซอนกินเนื้อที่กว้างถึง 2 ใน 5 ของทวีปอเมริกาใต้ ครอบคลุมพื้นที่ครึ่งหนึ่งของบราซิล ที่เหลือนั้นแผ่เข้าไปในอีก 8 ประเทศใกล้เคียง คิดเป็นเนื้อที่ป่าได้ราว 2.5 ล้านตารางไมล์ (6.4 ล้านตารางกิโลเมตร) ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม ขนานกับเส้นศูนย์สูตร โดยสิ่งที่แบ่งป่าออกเป็นตอนเหนือกับตอนใต้ก็คือแม่นํ้าอเมซอน ซึ่งมีต้นนํ้าอยู่ที่เทือกเขา แอนดีส (Andes) ของเปรู แล้วไหลจากตะวันตกไปตะวันออก เป็นระยะทางถึง 6,400 กิโลเมตร ลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก แต่ที่น่าตกตะลึงก็คือปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลของมัน ทั้งนี้เพราะมีแควที่ไหลลงมาสู่แม่นํ้านี้ถึง 1,100 สาย และความกว้างของแม่นํ้าอเมซอน ก็มีขนาดใหญ่มาก ในบางพื้นที่จากปากอ่าวเข้าไปในทวีป 1,000 กว่ากิโลเมตร แม่น้ำมีขนาดกว้างถึง 10 กิโลเมตร ขณะที่ความกว้างที่ปากอ่าวมีระยะทางถึง 320 กิโลเมตร


ประกาศ 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก

2.อ่าวฮาลอง ประเทศเวียดนาม

ฮาลอง เบย์ เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย ทางตอนเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ใกล้ชายแดนติดต่อกับสาธารณรัฐประชาชนจีน มีพื้นที่ทั้งหมด 1,500 ตารางกิโลเมตร และมีชายฝั่งยาว 120 กิโลเมตร อยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางตะวันออกประมาณ 170 กิโลเมตร มีชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามเขียนได้ว่า "Vinh Ha Long" หมายถึง "อ่าวแห่งมังกรผู้ดำดิ่ง"

ตำนานพื้นบ้านกล่าวไว้ว่า ในอดีตนานมาแล้วระหว่างที่ชาวเวียดนามกำลังต่อสู้กับกองทัพชาวจีนผู้รุกราน เทพเจ้าได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยปกป้องแผ่นดินเวียดนาม มังกรเหล่านี้ได้ดำดิ่งลงสู่ท้องทะเลบริเวณที่เป็นอ่าวฮาลองในปัจจุบัน ทำให้มีอัญมณีและหยกพุ่งกระเด็นออกมากลายเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายอยู่ทั่วอ่าวเป็นเกราะป้องกันผู้รุกราน ทำให้ชาวเวียดนามปกป้องแผ่นดินได้สำเร็จ และก่อตั้งประเทศ ซึ่งต่อมาคือเวียดนามในปัจจุบัน


ประกาศ 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก

3.น้ำตกอีกัวซู  บราซิล/อาร์เจนตินา

ชื่ออีกัวซู มาจากคำว่า Guarani แปลว่า น้ำ และคำว่า uasu แปลว่า ใหญ่ มีตำนานเล่าขานกันมาว่า สมัยนนั้นพระเจ้าทรงวางแผนจะแต่งงานกับ Naipi สาวพื้นเมืองแสนสวย แต่สาวเจ้าหนีไปด้วยเรือ canoe กับชายคนรักชื่อ Taroba ทำให้พระเจ้าทรงพิโรธ พระองค์จึงตัดแม่น้ำออก ทำให้เกิดเป็นน้ำตกใหญ่มหึมา และสาบแช่งคู่รักสองคนนั้นให้ตกลงไป ในน้ำตกนั้นชั่วกัลปาวสาน

น้ำตกอีกัวซูมีความสูงเฉลี่ย 62 - 82 เมตร โดยมีน้ำตกขนาดเล็กและใหญ่ทั้งสิ้น 275 น้ำตก เรียงรายอยู่ในอาณาบริเวณใกล้เคียงกัน และมีความยาวทั้งสิ้น 2.7 กิโลเมตร


ประกาศ 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก

4.เกาะเจจู  ประเทศเกาหลีใต้

เชจูโด หรือเกาะเชจู ซึ่งอยู่ทางใต้ของกรุงโซล เป็นหนึ่งในจังหวัดทั้งเก้าของเกาหลีใต้  เกาะได้รับการขนานนามว่า "เกาะแห่งความฝัน" ยังมีชื่อเสียงไปทั่วโลกในเรื่องของภูมิทัศน์อันงดงาม ที่ประกอบด้วยชายฝั่งที่ยาวถึง 256 กิโลเมตร น้ำตก ภูเขาไฟดับแล้ว และป่าเขารกครึ้ม


ประกาศ 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก

5.อุทยานแห่งชาติโคโมโด ประเทศอินโดนีเซีย

อุทยานแห่งชาติโคโมโด (Taman Nasional Komodo) เป็นอุทยานแห่งชาติในประเทศอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ใกล้หมู่เกาะซุนดาน้อย ระหว่างจังหวัด East Nusa Tenggara และ West Nusa Tenggara อุทยานประกอบด้วยเกาะใหญ่ 3 เกาะ คือ เกาะโคโมโด เกาะริงกา และเกาะปาดาร์ รวมทั้งยังมีเกาะเล็กๆอีกมากมาย ซึ่งเกาะเหล่านี้กำเนิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟ มีพื้นที่รวมทั้งหมด 1,817 ตารางกิโลเมตร (ส่วนที่เป็นแผ่นดิน 603 ตารางกิโลเมตร) มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 4,000 คน ก่อตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อ พ.ศ. 2523 เพื่ออนุรักษ์มังกรโคโมโด ภายหลังยังจัดเป็นพื้นที่สำหรับอนุรักษ์สัตว์ป่าและสัตว์ทะเลชนิดอื่นๆอีกด้วย ใน พ.ศ. 2534 อุทยานได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ


ประกาศ 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก

6.แม่น้ำใต้ดิน เปอร์โต ปรินเซซา ประเทศฟิลิปปินส์

เปอร์โต ปรินเซซา หรืออุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินเปอร์โต ปรินเซซา  ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาเซนต์ พอล ทางตอนเหนือของเกาะปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ ได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อปี 1992 อุทยานประกอบด้วยเทือกเขาหินปูนจำนวนมาก โดยมีแม่น้ำใต้ดินไหลอยู่เบื้องล่างเป็นระยะทางยาว 8.2 กม. ก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเลจีนใต้ องค์การยูเนสโกได้ยกย่องให้อุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินเปอร์โต ปรินเซซา เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 1999


ประกาศ 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก

7.เทเบิลเมาท์เทน ประเทศแอฟริกาใต้

ภูเขาโต๊ะ ตั้งอยู่เหนือเมืองเคปทาวน์ ทางตอนใต้ของประเทศแอฟริกาใต้ โดยได้ชื่อมาจากยอดเขาที่แบนราบ มองดูเหมือนโต๊ะ มีความยาว 2 กิโลเมตร สูง 1,086 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเทเบิลเมาน์เทน (Table Mountain National Park) รวมอยู่ใน Cape Floral Region ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของแอฟริกาใต้ในปี พ.ศ. 2004


ประกาศ 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์