เผยปีใหม่นี้ปชช. 39.3% ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นของขวัญ

เผยปีใหม่นี้ปชช. 39.3% ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นของขวัญ


เอแบคโพล์ระบุ ของขวัญปีใหม่ที่อยากได้จากรัฐบาลคือความซื่อสัตย์สุจริต เห็นประโยชน์ของส่วนรวม 

ส่วนประชาชน 39.3% ตั้งใจจะซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นของขวัญ


สิ่งที่น่าพิจารณาคือ ตัวอย่างจำนวนมากหรือ39.3% ตั้งใจจะซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า ไวน์ เป็นของขวัญปีใหม่ อย่างไรก็ตาม รองลงมาคือ 28.0% จะซื้อเครื่องแต่งกาย เช่น ผ้าพันคอ เสื้อ กางเกง 20.1% จะซื้อเป็นกระเช้าของขวัญ 19.7% จะซื้อผลไม้ 19.5% จะซื้อคุ้กกี้ ขนมเค้ก 13.5% จะให้เงิน 13.2% จะซื้อการ์ดอวยพร 9.6% จะซื้อเครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อย กำไล ต่างหู และรองๆ ลงไปคือ ของใช้ เช่น ชุดกาแฟ ปากกา ของตกแต่งบ้าน เช่น กรอบรูป ของตั้งโชว์ และเครื่องดื่มสุขภาพ ตามลำดับ

 ส่วนใหญ่หรือ 70.8% จะมอบของขวัญให้พ่อแม่ รองลงมาคือ 47.4% จะมอบให้ญาติ 34.9% จะมอบให้พี่น้อง 24.8% จะมอบให้แฟนหรือคนรัก  20.0% จะมอบให้เพื่อน 15.5% จะมอบให้ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ และ 3.9% จะมอบให้ครูอาจารย์ ตามลำดับ

โดยส่วนใหญ่หรือ57.8% จะใช้เงินไม่เกิน 2,000 บาท 28.6% จะใช้เงินระหว่าง 2,001 – 5,000 บาท และ 13.6% จะใช้เงินมากกว่า 5,000 บาทขึ้นไป

โดยสิ่งจูงใจอันดับแรกในการเลือกซื้อของขวัญได้แก่ 29.6% ระบุด้านผลิตภัณฑ์ เช่น เป็นที่นิยม มีประโยชน์ มีคุณค่า มีความหมาย 24.7% ด้านราคา มีความเหมาะสม ไม่แพงหรือถูกเกินไป 19.3% ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย หาซื้อง่าย13.7% ด้านการส่งเสริมการขาย มีลด แลก แจกแถม และ 12.6% ระบุจากโฆษณาที่เขามอบเป็นของขวัญปีใหม่กัน

 โดยส่วนใหญ่หรือ 89.3% ต้องการให้ผู้รับมีความสุข 86.0% เป็นการกระชับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น 85.5% มีความสุขที่ได้ให้ 80.1% แสดงความกตัญญูแก่ผู้มีพระคุณ 79.3% เลือกซื้อของขวัญที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 76.6% ระบุให้ของขวัญปีใหม่เพราะเป็นเรื่องปกติใครๆ ก็ทำกัน รองๆ ลงไปคือ ให้ของขวัญแก่คนที่ท่านเคารพนับถือเท่านั้น จะเลือกซื้อของขวัญที่เป็นสิริมงคล มีโชคลาภ แสดงความรุ่งเรือง และเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องให้ของขวัญปีใหม่กัน
 

ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามว่า ถ้าของขวัญปีใหม่จากรัฐบาลได้อย่างเดียว จะขออะไร ผลสำรวจพบ 5 อันดับแรกได้แก่ อันดับที่หนึ่ง 43.3% ขอให้รัฐบาลซื่อสัตย์สุจริต เห็นประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ อันดับที่สองคือ 21.7% ทำให้บ้านเมืองสงบสุข เกิดความสามัคคี ปรองดองของคนในชาติ อันดับที่สามได้แก่12.7% กระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น เพิ่มราคาพืชผลทางการเกษตร และดอกเบี้ยเงินฝาก อันดับที่สี่ ได้แก่11.8% แก้ปัญหาสังคมจริงจังต่อเนื่อง เช่น ยาเสพติด และอาชญากรรม และอันดับที่ห้า ได้แก่6.2% ระบุขึ้นเงินเดือนให้กับข้าราชการ และนโยบายรัฐบาลเรื่องค่าจ้างแรงงาน กับเงินเดือนปริญญาตรี ตามลำดับ

จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่าตัวอย่าง 45.1% เป็นชาย และ54.9% เป็นหญิง 12.9% มีอายุ 18-24 ปี 19.1% มีอายุ 25-35 ปี 19.7% มีอายุ 36-45 ปี 20.2% มีอายุ 46-55 ปี 16.4% มีอายุ 56-65 ปี และ 11.7% มีอายุ 66 ปีขึ้นไป รายได้ 20.7%

Source : bangkokbiznews


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี MCOT สำนักข่าวไทย


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์