เลือกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายอย่างไรดี?

เลือกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายอย่างไรดี?



ท่ามกลางสภาพอากาศที่แปรเปลี่ยนอยู่เสมอ และกิจกรรมที่หลากหลายรูปแบบทำให้สาวๆ มักจะกังวลกับใต้วงแขนอยู่เสมอ ขาดความมั่นใจที่จะสวมใส่เสื้อผ้าหรือทำกิจกรรมที่ต้องโชว์ใต้วงแขน

         
ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่จะช่วยแก้ปัญหาความกังวลใจ แต่ด้วยผลิตภัณฑ์นั้นมีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายแบรนด์ ทำให้สาว ๆไม่รู้จะเลือกใช้อย่างไรดี

       
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น3 กลุ่ม คือ

            1. กลุ่มของสารลดการขับเหงื่อ
            2. กลุ่มสารระงับกลิ่นกาย
            3. กลุ่มสารระงับกลิ่นกายที่มีส่วนผสมของกลุ่มสารระงับเหงื่อด้วย

        
มาในรูปแบบโรลออนลูกกลิ้ง โรออนสเปรย์ โรออนสติก ซึ่งมีทั้งข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตามควรเลือกให้เหมาะกับตนเองมากที่สุด

      1. สาวๆ ที่ผิวแพ้ง่าย และสาวๆที่มีปัญหาใต้วงแขนคล้ำ ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่มีส่วนผสมของกลุ่มลดการขับเหงื่อแอลกอฮอล์และน้ำหอม เพราะกลุ่มลดการขับเหงื่อ แอลกอฮอลล์และน้ำหอมจะทำร้ายผิวใต้วงแขนเมื่อเสียดสีกับเสื้อผ้าทำให้บอบช้ำ และคล้ำลงได้

      2. สาวๆ ที่เหงื่อออกเยอะ ต้องมั่นดูแลรักษาความสะอาด เพราะเหงื่อจะไปทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียทำให้เกิดกลิ่นกายควรเลือกผลิตภัณฑ์ช่วยระงับกลิ่นกายชนิดสเปรย์ หรือชนิดแห้งเร็ว ในกลุ่มระงับกลิ่นและลดการขับเหงื่อเพราะจะไม่ทำให้เสื้อเป็นคราบ และเลือกสวมใส่ผ้าฝ้ายที่โปร่งสบาย จะช่วยระบายเหงื่อออกได้ง่าย

      3. สาวๆ ที่มีปัญหาขนคุดง่าย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพราะจะช่วยบำรุงและทำให้ผิวนุ่มง่ายต่อการถอนและการงอกของเส้นขน ใช้วิธีการถอนหรือแว็กซ์แทนการโกน เพราะจะช่วยชะลอการงอกของเส้นขนให้นานขึ้นอีกด้วย

      4. สาวๆ ที่ไม่มีกลิ่นกายแต่อยากให้ใต้วงแขนดูเนียนนุ่ม ใช้เบบี้ออยล์ทาทุกเช้าเย็น เพิ่มความชุ่มชื่น หรือเลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ปราศจากน้ำหอม

    Tips :
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ก่อนนอนบริเวณใต้วงแขน ให้ผิวได้รับความชุ่มชื่นและมีสุขภาพที่ดีขึ้น
             - หากมีกลิ่นกายควรเลือกน้ำหอมที่กลิ่นไม่ฉุนฉีดเพื่อช่วยระงับกลิ่นกาย
             - ลองขัดผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดแลคติคจะทำให้ผิวใต้วงแขนใสขึ้น



ขอบคุณ : Seventeen

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์