อย่า!..อย่าทำแบบนี้เด็ดขาด!หากไม่อยาก ความจำสั้นสมองเสื่อม

1.ไม่ทานอาหารเช้า ทุกวันนี้หลายๆ คนอาจจะไม่ยอมทานข้าวเช้า อาจเพราะด้วยบริบทในสังคม รูปแบบในการใช้ชีวิต ที่ต้องเร่งรีบ ไม่ว่าจะตื่นนอน กินข้าว เดินทาง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงาน ที่ส่วนใหญ่ไม่ทานอาหารเช้า แต่เลือกทาน ขนมปัง กับกาแฟแทน ซึ่งจริงๆ แล้วไม่สามารถทดแทนอาหารเช้าได้ รู้มั้ย? การไม่ทานอาหารเช้านั้น เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สมองไม่ไดรับสารอาหารมาเลี้ยงอย่างเพียงพอ สมอไม่มีกำลังในการทำงาน นานๆ เข้าจะส่งผลให้เกิดโรคสมองเสื่อม (อัลไซเมอร์)

2.โกหกเป็นประจำ การโกหกนั้น ต้องทำให้สมองทำงานหนักกว่าผิดปกติ เพราะสมองต้องคอยจำในสิ่งที่โกหกเอาไว้ จึงส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง โดยในความเป็นจริงแล้วสมองคนเรายิ่งทำงานหนักถือว่ายิ่งดี แต่มีข้อมูลยืนยันมาว่า 'การใช้สมองทำงานหนักในทางที่ไม่สร้างสรรค์นั้น ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง''

3.ความเครียด เป็นภัยร้าย ตัวการที่ทำให้ชีวิตไม่มีความสุข นอกจากจะทำลายสุขภาพแล้ว ยังส่งผลต่อสมองด้วย เคยสังเกตตัวเองกันมั้ยเวลาที่มีเรื่องเครียดๆ ประสิทธิภาพในการทำงาน การเรียนหนังสือจะลดลง ยกตัวอย่างเช่น อ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง ขาดสมาธิ หลงๆ ลืมๆ โดยปกติแล้วมนุษย์เราสามรถทนต่อความเครียดได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้ามีเรื่องเครียดมากๆ บ่อยๆ ก็จะเกิดสะสมจนร่างกายไม่สามารถปรับตัวรับกับความเครียดได้ อนุมูลอิสระ และสารเคมีที่หลั่งออกมาในภาวะเครียด จะกลายเป็นตัวเพิ่มความเสี่ยงโรคเรื้อรังต่างๆ อาทิ โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน ทางที่ดีควรหาเวลาพักผ่อนบ้าง อาจจะออกกำลังกาย ทำสมาธิ ดูหนัง ฟังเพลง เพื่อเป็นการผ่อนคลาย หรืออีกวิธีที่เป็นผลวิจัยทางการแพทย์คือ รับประทานวิตามินบีในปริมาณสูง


อย่า!..อย่าทำแบบนี้เด็ดขาด!หากไม่อยาก ความจำสั้นสมองเสื่อม

4. กินอาหารมากเกินไป หากกินอาหารปริมาณมากเกินความต้องการของร่างกาย จัทำให้หลอกเลือดแดงในสมองเกิดการแข็งตัว ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคความจำสั้น ดังนั้นพยายามอย่าทานจุกจิก หรือทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์

5.ทานของหวานมากเกินไป ของหวานหากทานเยอะเกินไปจะเข้าไปขัดขวาง การดูดกลืนของโปรตีน และสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และสมองได้ อีกทั้งยังเป็นสาเหตุให้เป็นโรคขาดสารอาหาร และขัดขวางการพัฒนาของสมองด้วย

6.ขาดการใช้ความคิด หากอยู่เฉยๆ ให้ผ่านไปวันๆ โดยที่ไม่คิดอะไรใหม่ๆ บ้างนั้น จะส่งผลให้การทำงานของสมองลดลงอย่างหนัก เพราะไม่ได้ถูกใช้งาน บ่อยๆ เข้าจะสูญเสียเซลล์สมอง หรือเส้นใยประสาท ยิ่งไม่ใช่บ่อยเท่าไร สมองก็จะเริ่มฝ่อมากขึ้นเรื่อยๆ

7.มลภาวะสภาพแวดล้อมแย่ สภาพแวดล้อมก็มีผลต่อสมองเช่นกัน หากต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ๆ ที่ไม่ปลอดโปร่ง เต็มไปด้วยมลภาวะเป็นพิษ ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะทางอากาศ ทางเสียง ฯล หรือ หากมลภาวะอากาศเป็นพิษอยู่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรม นานๆ เข้าสมองก็จะได้รับสารเคมี ทำให้อันตรายต่อสมองได้ หรือบรรากาศไม่น่าอยู่แออัด บรรยากาศไม่เอื้ออำนวยให้รู้สึกอยากคิดอยากสร้างสรรค์ สมองจึงไม่เจริญเติบโตไม่มีการพัฒนา เพราะไม่ได้ใช้ความคิด ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม คุณควรสร้างบรรยากาศที่อาศัยให้น่าอยู่ อาจจะหาต้นไม้สีเขียวๆ มาวางไว้ตามมุมบ้าน มุมห้องพัก การได้มองอะไรสีเขียวๆเป็นเวลา 15-30 นาทีจะช่วยให้สมองปลอดโปร่งได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ!


อย่า!..อย่าทำแบบนี้เด็ดขาด!หากไม่อยาก ความจำสั้นสมองเสื่อม

8.การอดนอน การนอนหลับถือเป็นการทำให้สมองได้พักผ่อน สมองได้ฟื้นบำรุงจากการโดยทำร้ายระหว่างวัน หากคนเราอดนอนต่อเนื่องกันก็จะทำให้สมองขาดการพักผ่อน เซลล์สมองอาจตายได้ อาจจะทำให้คิดอะไรได้ช้า เบลอ หลงๆ ลืมๆ ดังนั้นควรหาเวลานอนหลับให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เพื่อจะได้ชาร์จพลังงานอย่างเต็มที่!!!

9.การนอนคลุมโปง การนอนคลุมโปงนั้น เป็นการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากขึ้น และลดออกซิเจนให้น้อยลง ส่งผลต่อการทำงานของสมองโดยตรง

10.สมองถูกกระแทก หากสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง อาจจะด้วยแรงกระแทก ส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุ การตกจากที่สูง ถือว่าเป็นการทำร้ายสมองอย่างตรงจุด อาจทำให้เลือดคั่งในสมอง สมองบวม ความจำอาจเสื่อม และเซลล์ในสมองบางส่วนจะถูกทำลาย ดังนั้นแล้วอย่าให้มีอะไรมากระแทกหัวของเราแบบรุนแรง

11.ดื่มแอลกอฮอล์ หากดื่มมากเกินไป จะทำให้สมองฝ่อ เป็นโรคประสาท ฤทธิ์ของแอลกกอฮอล์นั้นจะเข้าไปกดประสาท ส่งผลให้สมองทำงานช้าลง ขาดสติ ประสาทหลอน พูดจาไม่รู้เรื่อง เมื่อสมองทำหน้าที่ผิดปกติก็จะส่งผลถึงการทำงานของอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายด้วย เช่น กล้ามเนื้อส่วนปลาย แขน ขา อ่อนแรง โรคซึมเศร้า เป็นต้น

12.ดื่มกาแฟมากเกินไป อาหารเช้าของหลายๆ คน การดื่มกาแฟคงเป็นเมนูฮิตอันดับต้นๆ เลยก็ได้ว่า จริงๆ แล้วการดื่มกาแฟนั้นมีผลดีช่วยกระตุ้นระบบประส่วนกลางทให้ไม่รู้สึกง่วง แถมยังช่วยให้มีสมาธิในการทำงานมากขึ้นด้วย แต่ก็ไม่ควรดื่มจนมากเกินไป นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าปริมาณสารคาเฟอีนที่คนเรากินในกาแฟไม่ควรเกิน 250-600 มก. ต่อวัน ดังนั้นควรดื่มในปริมาณพอเหมาะวันละไม่เกิน 2-3 แก้วก็พอแล้ว

ศ .ดร.แดเนียล จี.เอแมน ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา และพฤติกรรมมนุษย์ จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอเนียร์ เออไวน์ สหรัญอเมริกา กล่าวไว้ว่า ''การดื่มเหล้า กาแฟ ทำลายสมองเท่าๆ กับผู้ที่ใช้ยาเสพติดอย่างกัฐชา และโคเคน โดยสารในเครื่องดื่มเป็นตัวการกั้นไม่ให้เลือดไปหล่อเลี้ยงบางส่วนของสมอง'' อย่างไรก็ตาม ก็ใช่ว่าสมองจะเกิดขึ้นกับสมองของทุกคน ทางที่ดีที่สุดควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะจะดีกว่า

13.โรคที่สัมพันธ์กับสมอง นอกจากพฤติกรรมแล้ว โรคภัยไข้เจ็บก็ทำร้ายสมองได้เช่นกัน โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับสทอง อาทิ เนื้องอกในสมอง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคชัก เป็นต้น บางโรคเป็นแล้วรักษาหายขาดได้ บางโรคก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นแล้วคุณควรใส่ใจกับสุขภาพของตัวเอง และคนใกล้ตัวอย่างเคร่งครัด

14.โทรศัพท์มือถือทำลายสมอง นักวิจัยพบว่า คลื่นจากมือถือนั้น เป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคมากมาย อาทิ อัลไซเมอร์ เป็นหมัน มะเร็ง โดยเฉพาะวัยรุ่นที่ใช้มือถือคุยนานๆ เกินวันละ 2 ช.ม. มีอัตราความเสี่ยงที่จะเป็นโรคขี้หลงขี้ลืมก่อนวัยอันควร เพราะคลื่นโทรศัพท์มีผลต่อร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะเซลล์สมอง และเซลล์สืบพันธุ์ เพราะมีความไวต่อการรับความรู้สึกนั่นเอง นอกจากนี้การวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ตัวขณะนอนหลับ คลื่นแม่เหล็กก็จะไปรบกวนสมอง ทำให้สมองทำงานได้น้อยลงด้วย


อย่า!..อย่าทำแบบนี้เด็ดขาด!หากไม่อยาก ความจำสั้นสมองเสื่อม

ข้อมูลจาก: ตำราสมอง ฉบับย่อยง่าย สำหรับการเป็นนักจำขั้นเทพ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่www.mbookstore.com ,yenta4.com



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์