8.การอดนอน การนอนหลับถือเป็นการทำให้สมองได้พักผ่อน สมองได้ฟื้นบำรุงจากการโดยทำร้ายระหว่างวัน หากคนเราอดนอนต่อเนื่องกันก็จะทำให้สมองขาดการพักผ่อน เซลล์สมองอาจตายได้ อาจจะทำให้คิดอะไรได้ช้า เบลอ หลงๆ ลืมๆ ดังนั้นควรหาเวลานอนหลับให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เพื่อจะได้ชาร์จพลังงานอย่างเต็มที่!!!9.การนอนคลุมโปง การนอนคลุมโปงนั้น เป็นการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากขึ้น และลดออกซิเจนให้น้อยลง ส่งผลต่อการทำงานของสมองโดยตรง
10.สมองถูกกระแทก หากสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง อาจจะด้วยแรงกระแทก ส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุ การตกจากที่สูง ถือว่าเป็นการทำร้ายสมองอย่างตรงจุด อาจทำให้เลือดคั่งในสมอง สมองบวม ความจำอาจเสื่อม และเซลล์ในสมองบางส่วนจะถูกทำลาย ดังนั้นแล้วอย่าให้มีอะไรมากระแทกหัวของเราแบบรุนแรง
11.ดื่มแอลกอฮอล์ หากดื่มมากเกินไป จะทำให้สมองฝ่อ เป็นโรคประสาท ฤทธิ์ของแอลกกอฮอล์นั้นจะเข้าไปกดประสาท ส่งผลให้สมองทำงานช้าลง ขาดสติ ประสาทหลอน พูดจาไม่รู้เรื่อง เมื่อสมองทำหน้าที่ผิดปกติก็จะส่งผลถึงการทำงานของอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายด้วย เช่น กล้ามเนื้อส่วนปลาย แขน ขา อ่อนแรง โรคซึมเศร้า เป็นต้น
12.ดื่มกาแฟมากเกินไป อาหารเช้าของหลายๆ คน การดื่มกาแฟคงเป็นเมนูฮิตอันดับต้นๆ เลยก็ได้ว่า จริงๆ แล้วการดื่มกาแฟนั้นมีผลดีช่วยกระตุ้นระบบประส่วนกลางทให้ไม่รู้สึกง่วง แถมยังช่วยให้มีสมาธิในการทำงานมากขึ้นด้วย แต่ก็ไม่ควรดื่มจนมากเกินไป นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าปริมาณสารคาเฟอีนที่คนเรากินในกาแฟไม่ควรเกิน 250-600 มก. ต่อวัน ดังนั้นควรดื่มในปริมาณพอเหมาะวันละไม่เกิน 2-3 แก้วก็พอแล้ว
ศ .ดร.แดเนียล จี.เอแมน ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา และพฤติกรรมมนุษย์ จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอเนียร์ เออไวน์ สหรัญอเมริกา กล่าวไว้ว่า ''การดื่มเหล้า กาแฟ ทำลายสมองเท่าๆ กับผู้ที่ใช้ยาเสพติดอย่างกัฐชา และโคเคน โดยสารในเครื่องดื่มเป็นตัวการกั้นไม่ให้เลือดไปหล่อเลี้ยงบางส่วนของสมอง'' อย่างไรก็ตาม ก็ใช่ว่าสมองจะเกิดขึ้นกับสมองของทุกคน ทางที่ดีที่สุดควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะจะดีกว่า
13.โรคที่สัมพันธ์กับสมอง นอกจากพฤติกรรมแล้ว โรคภัยไข้เจ็บก็ทำร้ายสมองได้เช่นกัน โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับสทอง อาทิ เนื้องอกในสมอง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคชัก เป็นต้น บางโรคเป็นแล้วรักษาหายขาดได้ บางโรคก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นแล้วคุณควรใส่ใจกับสุขภาพของตัวเอง และคนใกล้ตัวอย่างเคร่งครัด
14.โทรศัพท์มือถือทำลายสมอง นักวิจัยพบว่า คลื่นจากมือถือนั้น เป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคมากมาย อาทิ อัลไซเมอร์ เป็นหมัน มะเร็ง โดยเฉพาะวัยรุ่นที่ใช้มือถือคุยนานๆ เกินวันละ 2 ช.ม. มีอัตราความเสี่ยงที่จะเป็นโรคขี้หลงขี้ลืมก่อนวัยอันควร เพราะคลื่นโทรศัพท์มีผลต่อร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะเซลล์สมอง และเซลล์สืบพันธุ์ เพราะมีความไวต่อการรับความรู้สึกนั่นเอง นอกจากนี้การวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ตัวขณะนอนหลับ คลื่นแม่เหล็กก็จะไปรบกวนสมอง ทำให้สมองทำงานได้น้อยลงด้วย