ธรรมะที่ใช้ในการทำงาน

ธรรมะที่ใช้ในการทำงาน


ธรรมะที่ใช้ในการทำงาน


ถาม :
ขอธรรมะที่ใช้ในการทำงาน

ตอบ : เบื้องต้นของการทำงานต้องมี อิทธิบาท ๔ คือ ยินดีและพอใจที่จะทำ ๑ ตั้งหน้าตั้งตาทำ ๑ กำลังใจปักมั่นอยู่กับงาน ๑ ไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอว่าทำไปถึงไหนแล้ว ๑

ส่วนข้อที่สอง ต้องมีความอดทนอดกลั้น ตรงนี้เป็นธรรมะหลักของพระพุทธศาสนาเลย พระพุทธเจ้าเริ่มโอวาทปาฏิโมกข์ก็ขึ้นด้วยขันติ การกระทบกระทั่งกันในการทำงาน ต้องมีเป็นปกติอยู่แล้ว

ประการที่สาม รับผิดชอบงานในหน้าที่เราให้ดีที่สุด นอกเหนือจากงานของเราแล้วอย่าไปยุ่งกับใคร โดยเฉพาะแต่ละคนจะมีความภูมิใจในงานของตนเองอยู่ ถ้าหากว่าเราไปยุ่งกับงานคนอื่นเมื่อไร จะกลายเป็นเราก้าวก่ายหน้าที่เขา แล้วเขาจะไม่ชอบใจ ฟังแล้วหนักใจไหม ?

ถาม : หนักใจมาก

ตอบ : หลายคนฝืนใจทำงาน ถ้าเราฝืนใจทำงาน ทำเท่าไรก็ไม่มีความสุข ให้คิดว่านี่เป็นงานที่เราต้องทำ และต้องทำให้ได้ดีด้วย แล้วทุ่มเททำไป มีภาษิตอยู่บทหนึ่งว่า ในเมื่อไม่สามารถที่จะแก้ไขศัตรูให้เป็นมิตรได้ เราก็เป็นมิตรกับศัตรูเสียเอง เพราะฉะนั้น..ถึงงานจะแย่แค่ไหน ไม่ชอบแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าเราจะทำงานนั้นให้สำเร็จ ก็จะกลายเป็นว่าเราต้องชอบงานนั้นไปเอง

ถ้าเราทำงานด้วยความชอบ ทุกอย่างจะเบาลง ไม่เครียด แต่ถ้าเราไปทำแบบฝืนใจทำจะเครียดอยู่ตลอดเวลา พอหลายวันเข้าเดี๋ยวสติแตก ต้องเข้าใจว่ามีงานทำดีกว่าไม่มี

ถาม : อย่างบางครั้งเราเข้ากับเขาไม่ได้

ตอบ : ได้ยินก็เหมือนว่าไม่ได้ยิน ถ้าได้ยินทุกเรื่องก็เครียดอีกเหมือนกัน เพราะเราได้ยินแล้วจัดการกับความคิดตัวเองไม่ได้ มีแต่จะไปนึกคิดปรุงแต่งแล้วตัวเองก็เครียดเพิ่มเรื่อย ๆ ต้องไปนึกถึงเรื่องสามก๊กที่เล่าปี่บอกว่า คนทำโง่ไม่เป็น เป็นใหญ่ไม่ได้

เขาว่าอะไรมาก็เรื่องของเขา ถ้าเขาเหนื่อยเขาก็เลิกไปเอง อาตมาโดนเขาประชุมสงฆ์ด่าท่ามกลางชาวบ้าน อาตมาก็เป็นคนถือไมค์เดินไปส่งให้ทีละคน "ใครมีอะไรจะด่าอีก นิมนต์ครับ" จนกระทั่งเขาไม่มีปัญญาจะด่าแล้ว ปรากฏว่าพระลูกศิษย์ท่านโกรธแทน อาตมาบอกว่า ไม่ต้องไปโกรธหรอก ปล่อยเขา ใครทำใครได้อยู่แล้ว เรื่องที่เขาพูดกันเราก็รู้อยู่ว่าไม่เป็นความจริง เราโกรธไปจะมีประโยชน์อะไร

เดินถือไมค์ถามทีละคนเลย "มีใครต้องการพูดอีกไหม ?" จนกระทั่งทุกวันนี้พวกเขายังสงสัยว่าอาจารย์เล็กโกรธไม่เป็นหรือ ? โกรธเป็นเหมือนกัน เพียงแต่ว่าพวกเอ็งยังมีความสามารถไม่พอเท่านั้น ถ้ามีความสามารถพอต้องทำให้ข้าโกรธได้..!

สมัยที่อยู่ วัดท่าซุง ก็มีคนมาด่าต่อหน้า แต่เขาไม่รู้จักอาตมา อาตมาจึงช่วยเขาด่าตัวเองด้วย เขาไปฟังข่าวลือมาว่า พระเล็กเป็นคนที่ใช้ไม่ได้ ชอบทะเลาะกับชาวบ้าน สร้างความเสื่อมเสียให้กับวัดท่าซุงมาก อาตมาก็บอกว่าใช่ เป็นคนที่แย่ที่สุด ตั้งแต่บวชมาสร้างความเดือดร้อนให้กับทางวัดมาโดยตลอด ช่วยเขาซ้ำไปเรื่อย จนกระทั่งตอนหลังเขามารู้ว่าเป็นอาตมาเอง ก็เลยทำหน้าประหลาดๆ

คนเรามีมุมมองของเขาเอง และมีความเชื่ออย่างนั้นเสียแล้ว ในเมื่อเป็นดังนั้น โอกาสที่เราจะไปแก้เขาให้กลับเป็นดีก็ยาก อธิบายไปก็เสียเวลาเปล่าๆ ก็เลยช่วยเขาด่าด้วย เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว ถ้าตอนหลังเขารู้ เขาก็จะรู้เองว่าอะไรเป็นอะไร

มุมมองแต่ละคนเห็นไม่เหมือนกัน เราไปเจอเรื่องเดียวกันมา ก็ยังเล่าไปคนละอย่างเลย เพราะแต่ละมุมที่เราเห็นไม่เหมือนกัน เพียงแต่ว่าเนื้อหาจะออกมาแนวเดียวกันเท่านั้น

ในสายตาของเราตอนนั้นก็คือรักษาของสงฆ์ ป้องกันไม่ให้ชาวบ้านขโมยปลาหน้าวัด แต่ในสายตาของชาวบ้านก็คือ เราเป็นนักบวชที่ใช้ไม่ได้ เขาหากินมาตลอดทั้งชีวิต ทำไมเราจะต้องไปขับไล่เขาด้วย มองไปคนละมุมกัน


สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๔





ขอบคุณบทความจาก วัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์