เจ้าพ่อเขาหลัก เรื่องเล่า ขนหัวลุก จาก อุทยานเขาหลัก พังงา




























































































































































































































































































































































เจ้าพ่อเขาหลัก เรื่องเล่า ขนหัวลุก จาก อุทยานเขาหลัก พังงา
"นายพริ้ง" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากอุทยานเขาหลัก พังงา
         ผมเป็นคน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สมัยเด็กๆ พ่อเล่าให้ฟังว่าบนอุทยานเขาหลัก แหล่งท่องเที่ยววิวสวยงาม มีศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งที่ชาวบ้านเคารพนับถือมาก คือศาลเจ้าพ่อเขาหลัก ชาวพังงารู้จักกันดีทั้งนั้นครับ
เอ่ยถึง "ศาลพ่อตา" ตามภาษาถิ่นก็หมายถึง ศาลเจ้าพ่อเขาหลัก นั่นเอง ทางบ้านผมจะเรียกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หรือศาลสำคัญนี้ว่า "พ่อตา"
สมัยก่อน ศาลพ่อตายังอยู่แถวๆ ทางลงเขา มีรูปร่างเป็นหินทรงเจดีย์ สูงประมาณ 7 เมตรได้ ชาวบ้านจะไปกราบไหว้หรือบนบานศาลกล่าวก็ต้องเดินลงเขาไปหาเพราะศาลอยู่ต่ำลงไปค่อนข้างมาก
มีคนเคยเห็นชายร่างใหญ่ผิวดำนั่งตระหง่านอยู่บนยอดหินนั้น และยกมือซ้ายขึ้นทำท่าเหมือนจะกวักเรียกกันหลายคน!
ในที่สุด ชาวบ้านจึงช่วยกันสร้างศาลเจ้าพ่อเขาหลักขึ้นบนเขา หล่อรูปท่านและหินจำลองไว้ข้างๆ มีคนศรัทธาเลื่อมใสไปกราบไหว้และขอพรต่างๆ เช่น ขอให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ ขอให้มีโชคลาภต่างๆ แม้แต่ไปขอให้มีบุตร ฯลฯ ส่วนมากมักจะสมปรารถนาทั้งนั้น
ยกเว้นใครมาขอบนไม่ให้เป็นทหาร รับรองว่าจับได้ใบแดงหมด เพราะเจ้าพ่อเขาหลักเคยเป็นทหารเอกมาก่อน
การแก้บนคือฉายหนังกลางแปลง การเล่นมโนราห์ ถวายไก่ต้ม ผลไม้ รวมทั้งหมากพลู บางทีมีหนังฉายบ่อยๆน่าสนุก เพราะชาวตะกั่วป่าล้วนแต่เคารพนับถือเจ้าพ่อกันทุกคน
แปลกกว่าที่อื่นก็คือห้ามบนด้วยสุราและอาหารคาวทุกชนิดเพราะท่านไม่ชอบ ส่วนการแก้บนก็จะทำกันในวันอังคารกับวันเสาร์ ถือว่าเป็นวันแรง อังคารหมายถึงดาวทหาร วันเสาร์ก็เด่นทางไสยศาสตร์ จนมีคำว่า "เสาร์ห้า" ซึ่งขลังนักในการทำเครืองรางของขลับต่างๆ
ที่น่ากลัวคือมีเสียงเล่าลือต่อๆ กันมาว่าใต้หินหลักเดิมเก็บอัฐิของท่านไว้
ข้อสำคัญที่ทำให้หลายๆ คนตาลุก ก็คือเชื่อว่ามีลายแทงขุมทรัพย์บ้าง จนถึงมีสมบัติล้ำค่าฝังอยู่นานแล้ว คนโลภหรืออยากรวยทางลัดก็ชวนกันไปขุดหาในตอนดึกๆ แต่ก็ไม่ปรากฏว่ามีใครพบสมบัติอะไรเลย
น่าสยองกว่านั้นก็เพราะคนที่อุตริไปขุดหาเงินทอง ซึ่งเท่ากับไปลบหลู่เจ้าพ่อเขาหลักต้องประสบกับภัยพิบัติต่างๆ ทุกคนไป!
บางคนเพ้อคลั่ง เอะอะโวยวายว่าจะมีใครมาเอาชีวิต
บางคนก็จับไข้จับหนาว ไม่ช้าก็สิ้นใจตาย
หลายคนกลับถึงบ้านได้ไม่นานก็ร้องโอดโอยโหยหวน ก่อนจะกระอักเลือดตายอย่างน่ากลัว
ในที่สุดก็ไม่มีใครกล้าไปรบกวน "ศาลพ่อตา" อีกต่อไป นอกจากจะไปกราบไหว้เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจ หรือไม่ก็ไปขอพรบ้าง บนบานศาลกล่าวด้วยความเคารพบ้าง แม้แต่นักท่องเที่ยวต่างถิ่น ได้ยินกิตติศัพท์ของท่านก็จะแวะเข้าไปกราบไหว้ ขอให้เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ
สาเหตุสำคัญคือ บริเวณอุทยานเขาหลักมีถนนคดเคี้ยว ขนาดหักเป็นข้อศอกก็มีหลายแหล่ง ใครประมาทพลาดพลั้งก็ประสบอุบัติเหตุหนักบ้างเบาบ้าง จนถึงกับพิกลพิการหรือเสียชีวิตไปเลยก็มี
คนที่ขับรถผ่านไปแถวนั้น ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน บ้างก็เห็นเสือ บ้างก็เห็นงูใหญ่ บ้างก็เห็นสัตว์ป่าชนิดต่างๆ ข้ามถนนตัดหน้ารถในระยะกระชั้นชิดจนต้องเบรกกันตัวโก่ง
เมื่อสร้างศาลเจ้าพ่อเขาหลักเสร็จใหม่ๆ (ราว 20 ปีมาแล้ว) ก็เกิดเรื่องน่าขนหัวลุกกับคนใกล้ๆ บ้านผมนั่นเอง <

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์