มากกว่านั้น เมื่อเราตกลงกันว่า จะนำเสนอในรูปแบบแอนนิเมชั่น กำลังคนในการผลิตจึงเป็นความยากลำดับต่อมา ก่อนที่จะมีการรับสมัครอาสาสมัครที่มีความสามารถในเรื่องของ อินโฟกราฟิกส์ (infographics) เข้ามาช่วยงานอีกครั้งหนึ่ง
"สิ่งที่คิดมาโดยตลอดว่า การผลิตชิ้นงานออกมาแล้ว คนดูจะต้องไม่ตื่นตระหนก มีความเป็นธรรมชาติ เน้นเข้าใจเป็นหลัก เพราะที่ผ่านมา คนที่เสพข้มูล ต่างเสพแต่เนื้อหาที่ดราม่า ดูแล้วเครียด ทั้งนี้ ต้องสามารถตอบสนองความกระหายในเรื่องของความชัดเจนให้ได้" สุขพัฒน์ กล่าว
ส่วนขั้นตอนของการทำงานจะประกอบไปด้วย การรวบรวมข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ แล้วนำมาพูดคุยกันถึงเนื้อหาที่จะนำเสนอ โดยคิดว่าเราอยากรู้อะไร และใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ใครก็ดูได้ ก่อนจะมาตกลงกันว่าจะนำเสนอในรูปแบบของแอนนิเมชั่น แบ่งเป็นกี่ตอน แต่ละตอนจะเสนออะไร แล้วลงมือผลิต และหาทีมงานที่เข้ามาช่วยกันทำงาน โดยมีทีมงานอยุประมาณ 40-50 คน สลับกันเข้ามา รวมถึงอาสาสมัครด้วย และมีตนและเพื่อนๆ อีกประมาณ 20 คน เป็นแกนหลักในการบริหารงาน
จากนั้นก็เข้าสู่การเผยแพร่ผลงานผ่านสังคมออนไลน์ (Social Media) ซึ่งการตอบรับนั้น ต้องบอกว่าเกินจากที่ตั้งเป้าหมายไว้ ทำให้มีกำลังใจในการทำงานต่อไป และอีกไม่นานจากนี้ไป ก็จะมีการเผยแพร่งานชิ้นที่ 4 เตรียมใจสู้ พร้อมอยุ่กับน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ว่า เราจะสามารถอยู่กับสถานการณ์น้ำท่วมได้อย่างไร และหลังจากนั้น ประมาณอาทิตย์หน้า ก็จะมีการเผยแพร่ชิ้นที่ 5 โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับการอพยพ หรือตอบโจทย์คนที่ช่วยตัวเองไม่ได้ ว่าควรจะทำอย่างไรเมื่อน้ำทะลักเข้ามาแล้ว
การที่ใช้ปลาโลมานั้น ก็ต้องการสื่อว่า น้ำปริมาณมาก ขณะเดียวกัน ปลาโลมาแม้จะเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่ทำร้ายใคร เป็นสัตว์ที่น่ารัก และเป็นมิตรกับคนดูด้วย
เช่นเดียวกับคำว่า "รู้สู้ flood" ก็น่าจะเป็นชื่อที่คิดว่าสื่อความเข้าใจได้ดี คำไม่รุนแรง สามารถรับรู้ได้ง่าย เพราะก่อนหน้านี้ก็มีการคิดชื่ออื่นเหมือนกัน ก่อนจะมาลงตัวในชื่อดังกล่าว
เมื่อถามว่าจะมีการผลิตชิ้นที่ 6 อีกหรือไม่นั้น "สุขพัฒน์" บอกว่า ยังไม่แน่ ต้องขอดูสถานการณ์ก่อน แต่มีแนวโน้มว่าจะมี ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น ต้องขอดูอีกทีก่อน แต่ความเป็นไปได้ก็คือ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการฟื้นฟูหรือการปฏิบัติหลังน้ำลด
อย่างไรก็ตาม สุขพัฒน์ อยากฝากไปถึงคนที่รับข้อมูลข่าวสารว่า "เนื่องจากมีข้อมูลจำนวนเยอะมาก ฉะนั้น ในการเชื่อข้อมูลก็ขอให้มีการพิจารณาก่อน ทั้งนี้ การที่เรามีสติก็จะผ่านไปได้ แม้กระทั่งการเตรียมตัว การเรียนรู้ในการใช้ชีวิต การปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ก็จะเป็นสิ่งที่ดี มากกว่านั้น หากใครมีแรง มีเวลาในการช่วยเหลือ ก็ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องไปตักทรายใส่กระสอบอย่างเดียว แต่เราสามารถเอาความรู้ ความถนัดที่เรามีอยู่มาช่วยเหลืออย่างอื่นได้"