ใครที่ดื่มแอลกฮอล์แล้วมาโกหกกันว่าไม่ได้ดื่มมีสิทธิ์ถูกจับได้ชนิดไม่มีทางปฏิเสธแล้ว เพราะกำลังจะมีการทดสอบในห้องปฏิบัติการแบบใหม่ที่ตรวจได้แม้กระทั่งดื่มสุรามานานถึง 1 เดือนก็ตาม
โดยธรรมชาติแล้ว แอลกฮอล์ถูกทำลายและขับถ่ายจากร่างกายค่อนข้างเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าดื่มในปริมาณทั่วๆ ไปในสังคม เช่น การสังสรรค์ แอลกอฮอล์จะหมดจากร่างกายโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง พอหลังจากนี้การจะตรวจว่าใครดื่มไปแล้วบ้าง ทำไม่ได้ง่ายๆ นอกจากจะตรวจทางอ้อม อย่างเช่น การตรวจหาเอนไซม์บางตัวของตับ แต่วิธีนี้ไม่ชี้ชัด เพราะไม่เจาะจงลง มีหลายภาวะที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเอนไซม์ดังกล่าวได้ ไม่ว่าจะเป็นสารพิษ(toxin) การตั้งครรภ์ ฯลฯ สามารถทำให้ค่าที่ได้ผิดปกติได้ทั้งสิ้น. มาถึงปัจจุบัน นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัย Basel ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้คิดค้นการตรวจสารจำเพาะบางตัวที่เกิดขึ้นขณะแอลกฮอล์ถูกทำลาย อย่างเช่น ethyl glucoronide (EtG) สารตัวนี้จะเริ่มสะสมในเลือดเมื่อระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเริ่มลด และสาร EtG ตัวนี้จะคงอยู่ให้ตรวจพบในปัสสาวะได้นานถึง 5 วัน ดังนั้นเราสามารถตรวจได้ว่า ใครคนนั้นมีแอลกอฮอล์อยู่ในร่างกายหรือไม่ขณะเกิดเหตุเมื่อ 2- 3วันก่อนได้
สารอื่นอีกตัวหนึ่งที่ช่วยในกรณีนี้คือ phosphatidyl ethanol( Peth) สารตัวนี้ สามารถอยู่ให้ตรวจได้เป็นเวลานานถึง 3 สัปดาห์ แต่มีข้อแม้ว่า คนๆ นั้นต้องดื่มแอลกอฮอล์เท่ากับปริมาณเบียร์ 3 ขวดต่อวันเป็นอย่างน้อย. ข้อดีของการตรวจสารนี้ นอกจากเรื่องเวลาที่มีโอกาสให้ตรวจได้ยาวนานแล้วก็คือ ไม่พบว่ามีผลลบลวง.
ดังนั้น ใครที่มาสมัครเป็นพนักงานบริษัทจะปกปิดนิสัยการดื่มไม่ได้แล้ว.