เชื้อ HPV คืออะไร มีความร้ายแรงอย่างไรบ้าง หากไปฉีดวัคซีน HPV จะป้องกันการติดเชื้อได้ทั้งหมดหรือไม่ ไปดูกันเลย
หลายคนคงเคยรู้จัก ไวรัส HPV กันดีอยู่แล้ว เพราะนี่เป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ที่เกิดขึ้นได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย โดยมีไวรัส HPV กว่า 40 ชนิดที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อที่บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์และทวารหนักได้ แต่ถึงอย่างนั้นบางคนก็ยังคงสงสัยอยู่ว่า HPV คืออะไร และสามารถป้องกันได้หรือไม่
ก่อนอื่นเราคงจะต้องมาทำความรู้จักกับ HPV กันก่อน โดย นพ.ธีรศักดิ์ ธำรงธีระกุล สูติ-นรีแพทย์ โรงพยาบาลวิภาวดี ได้ระบุว่า เชื้อ HPV หรือ Human Papilloma Virus เป็นไวรัสตัวหนึ่งที่มีสายพันธุ์มากกว่า 100 ชนิด แต่ละสายพันธุ์จะก่อให้เกิดโรคได้ต่างชนิดกัน โดยสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อบริเวณอวัยวะสืบพันธ์และทวารหนักที่ รู้จักกันดีคือ สายพันธุ์ เบอร์ 6,11,16 และ 18 ซึ่งการติดเชื้อบริเวณ อวัยวะสืบพันธุ์และทวารหนักจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่บริเวณมดลูกและ สามารถนำไปสูการเกิดมะเร็งที่ปากมดลูกในที่สุด โดยเบอร์ 6 และ 11 เป็นสายพันธุ์ที่ไม่รุนแรงก่อให้เกิดมะเร็งได้ต่ำ (Low-risk) ขณะที่สายพันธุ์เบอร์ 16 และ 18 นั้นเป็นสายพันธุ์ที่รุนแรงที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้สูง (High-risk)
การติดเชื้อ HPV
นายแพทย์กมล ภัทราดูลย์ สูติ-นรีแพทย์ด้านมะเร็ง โรงพยาบาลเวชธานี เผยว่า เชื้อ HPV เป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้น ทั้งหญิงและชายหากมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ ก็สามารถติดเชื้อ HPV ได้ทุกทาง ซึ่งสามารถติดต่อและก่อให้เกิดมะเร็งในอวัยวะสืบพันธุ์ส่วนอื่น ๆ ได้เช่นกัน เช่น ในผู้หญิงก่อให้เกิดมะเร็งช่องคลอด, อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก และทวารหนักได้ ส่วนในผู้ชาย สามารถก่อให้เกิดมะเร็งที่องคชาติได้เช่นกัน
นอกจากนี้ยังพบว่า เด็กแรกเกิดก็สามารถติดเชื้อ HPV ได้เช่นกัน ในขณะที่คลอดผ่านช่องคลอดของมารดาที่มีเชื้อนี้อยู่ ซึ่งอาจทำให้ติดเชื้อ HPV ที่กล่องเสียงได้
โรคจากการติดเชื้อ HPV
ปัจจุบันพบว่าการติดเชื้อ HPV เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยที่สุด จะพบเชื้อนี้ในช่องคลอดสตรี และปากมดลูกมากกว่าบริเวณอื่น แต่การติดเชื้อนี้ส่วนมากจะหายเองได้ภายในระยะเวลาประมาณ 2 ปี เมื่อร่างกายสร้างภูมิต้านทานเชื้อนี้ขึ้นมาได้อย่างเพียงพอ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะคงอยู่และทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา เช่น
หูดหงอนไก่ (Condyloma accuminata) จะมีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ ผิวไม่เรียบ หลาย ๆ ตุ่มกระจายเต็มอวัยวะเพศภายนอก อาจมีอาการคันได้ ส่วนมากพบได้ที่บริเวณปากช่องคลอด ช่องคลอด ปากมดลูก นอกจากนั้นอาจพบในลำคอ คอหอย
มะเร็งปากมดลูก (Cervical cancer) ปัจจุบัน มีหลักฐานมากมายที่บอกว่ามะเร็งปากมดลูกมีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อ HPV ซึ่งประมาณ 70% ของมะเร็งปากมดลูกทั้งหมดมักจะเกิดจากสายพันธุ์ 16 และ 18 มากที่สุด โดยเชื้อจะทำให้เซลล์ปากมดลูกเปลี่ยน แปลงไปเป็นเซลล์มะเร็งได้
มะเร็งเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์อื่นๆ เช่น มะเร็งอวัยวะเพศหญิง มะเร็งช่องคลอด โรคมะเร็งอวัยวะเพศชาย หรือ มะเร็งองคชาต และโรคมะเร็งที่ทวารหนัก เป็นต้น