รับมือโรคฤดูร้อน ป้องติดเชื้อ-ผิวอักเสบ

หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง อาหารสมอง รับมือโรคฤดูร้อน ป้องติดเชื้อ-ผิวอักเสบ

ฤดูร้อนแสงแดดแผดจ้า มักทำให้เกิด "เหงื่อ" ซึ่งในต่างประเทศที่มีสภาพอากาศหนาวมากๆ เมื่อเกิดภาวะ "คลื่นความร้อน" แต่ละปี จะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ส่วนมากจะเป็นผู้สูงอายุ เมื่อเจอกับอากาศร้อนกะทันหัน ร่างกายปรับตัวไม่ทันกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลัน ทำให้เหงื่อออกไม่ทัน จึงเสียชีวิตได้ง่ายๆ

สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า ในร่างกายคนเรามีต่อมเหงื่ออยู่ทั่วตัว ราว 2-4 ล้านต่อม เมื่อเหงื่อออกมากๆ เราจะรู้สึกเพลีย ซึ่งเกิดจากการสูญเสียเกลือแร่ไปกับเหงื่อ เราจึงต้องคอยเก็บ เกลือแร่ไม่ให้ขับออกไปทางปัสสาวะ และทางเหงื่อมากจนเกินไป ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญของไตและต่อมเหงื่อ

โดยเหงื่อที่ออกใหม่ๆ ไม่มีกลิ่น แต่บนผิวหนังจะมีแบคทีเรียอยู่ ซึ่งจะแปลงสารในเหงื่อบางอย่างทำให้มีกลิ่นขึ้นได้

แบคทีเรียมีหลายชนิดที่ชอบความชื้นมาก เพราะฉะนั้นในที่อับชื้นบนร่างกาย เช่น รักแร้ ฝ่าเท้า ซอกนิ้วเท้า จึงอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิดได้ ซึ่งบางครั้งทำให้มีอาการแปลกๆ เช่น ที่ฝ่าเท้ามีรูพรุนเล็กๆ ซึ่งผู้ที่เป็นมักมีกลิ่นเท้ามากกว่าคนทั่วไป หรือคนที่เป็น erythrasma บริเวณรักแร้ ขาหนีบ ซอกนิ้วเท้า ก็จะมีผื่นแดงแห้งๆ ออกน้ำตาล ในบริเวณดังกล่าวได้

กลากเกลื้อน เป็นอีกโรคที่มากับเหงื่อ เกิดจากเชื้อราคนละประเภทกัน กลากชอบความชื้นแฉะ ความอับ พบบ่อยแถวๆ ขาหนีบและฝ่าเท้ารวมทั้งซอกนิ้วเท้า หากเป็นที่ศีรษะ เรียกว่า "ชันนะตุ" ที่ขาหนีบ เรียกว่า "สังคัง" จนถึงเท้าที่บางคน เรียกว่า ฮ่องกงฟุต ผื่นกลากส่วนมากจะคัน ผื่นนี้ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามีลักษณะเป็น "วงแหวน" ฝรั่งจึงเรียกว่า "ring worm"

ส่วนเชื้อเกลื้อน ชอบความมัน เหงื่อ และความร้อน เกิดจากการติดเชื้อที่อยู่บนผิวหนัง เมื่อเข้าหน้าร้อน เกิดผื่นเป็นดวงๆ ขึ้น ส่วนมากเป็นที่หน้าอกและหลัง มักไม่มีอาการ ไม่คัน ไม่แสบ แต่เห็นเป็นดวงๆ จุดๆ มีได้หลายสีตั้งแต่ขาว ชมพู น้ำตาล ม่วง เทา ในคนไทยจะพบสีขาวบ่อยที่สุดทำให้ได้ชื่อว่า เกลื้อนดอกหมาก

ผิวหนังอักเสบ โดยเฉพาะชนิดที่มีผื่นบริเวณข้อพับศอก ข้อพับเข่า เมื่อเล่นกีฬาเหงื่อออกมาก หรือแม้แต่โดนแดดมากก็อาจมีผื่นเห่อขึ้นได้ ผื่นลักษณะที่ว่านี้ร้อนจัด หนาวจัดก็เห่อ แห้งมากก็คัน ผื่นผิวหนังอักเสบอีกชนิดซึ่งเห่อได้บ่อย เวลาโดนแดดมากๆ คือ seborrheic dermatitis มักอยู่บริเวณร่องข้างจมูก หว่างคิ้ว หน้าหู หลังหู และบางคนเป็นร่วมกับรังแค

ผื่นที่หน้านั้นอาจเห่อมากขึ้นเมื่อได้รับแสงแดดจัด ทำให้ผู้ป่วย บางรายได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคลูปัส หรือ โรคพุ่มพวง ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับแสงแดดโรคหนึ่ง

นอกจากนี้ยังมีผื่นชนิดอื่นๆ ที่มากับหน้าร้อน ภาวะเหงื่อออกมาก ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังเท่านั้น

ที่มา : นสพ.ข่าวสด