หากตัดเล็บผิดรูปผิดทรง เช่น ตัดเล็บสั้นเกินไปทำให้มุมเล็บไม่สูงพ้นผิวหนังด้านข้างเล็บ ไม่ตะไบมุมเล็บให้หมดคม อย่างนี้เสี่ยงที่มุมเล็บแหลมๆ จะกดทับเนื้อเยื่อใต้เล็บ เมื่อเกิดกดทับบ่อยๆ ก็นำความเจ็บปวดมาให้ หรือกรณีสวมรองเท้าที่บีบรัดแน่นช่วงนิ้วเท้ามากเกินไป ก็ยังเป็นเหตุให้ขอบเล็บกดทับลงที่เนื้อเยื่อใต้เล็บด้วยเช่นกัน
ลักษณะและอาการข้างต้นเรียกว่า เล็บขบ บางคนอาจปวดระบมมากทันทีที่สัมผัสถูกบริเวณเล็บขบ ทางแก้ให้หายเล็บขบ เริ่มจากสำรวจเล็บของนิ้วที่เกิดปัญหาว่าส่วนปลายเล็บช่วงขาวขุ่นและที่ไม่เจ็บนั้นยาวหรือไม่ ถ้ายาวได้ระดับที่ต้องตัดก็ตัดออกอย่าให้สั้นหรือยาวเกินไป เพื่อไม่ให้เป็นที่กักเก็บของสิ่งสกปรก ที่อาจทำให้ผิวหนังอักเสบรุนแรงขึ้นไปอีก
จากนั้นเช็ดทำความสะอาดโดยรอบด้วยแอลกอฮอล์ 70% ตามด้วยการใช้ตะไบอันบางๆ ยกเล็บส่วนที่ขบขึ้นจากผิวหนังใต้หรือข้างเล็บ หากมีมุมแหลมให้ค่อยๆ ตัดส่วนแหลมออก แต่ถ้าไม่มีมุมแหลมหรือตัดออกไปแล้ว สอดสำลีชิ้นเล็กๆ ขั้นไว้ระหว่างเนื้อเยื่อใต้เล็บกับคมเล็บที่จิกขบ พักนิ้วเลี่ยงการสัมผัสหรือกดทับระยะหนึ่ง สามารถกินยาแก้ปวดช่วยอีกทางหนึ่งได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเริ่มรู้สึกว่าเล็บขบ ควรรีบจัดการให้เรียบร้อย อย่าปล่อยจนเล็บขบหนัก จนปวดลามไปกว่าเดิม เพราะอาจต้องไปพบแพทย์และถูกถอดเล็บออกได้ ขณะที่การถอดเล็บออกก็มิได้น่ากลัวจนเกินไป เนื่องจากแพทย์จะใช้ยาชาเพื่อระงับความรู้สึกตอนถอดเล็บ เมื่อถอดเล็บออกแล้วจะรู้สึกปวดน้อยกว่าตอนเล็บขบเสียอีก
ส่วนใครถูกมุมเล็บกดเสียจนเป็นแผลมีเลือดซึมต้องระวังเชื้อบาดทะยักตามมา ทางที่ดีพบแพทย์เพื่อรับการฉีดยากันบาดทะยักจะแน่นอนกว่า.
นสพ.เดลินิวส์