สิงคโปร์ใกล้แชมป์อภิมหาเศรษฐีมากสุด

หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง อาหารสมอง สิงคโปร์ใกล้แชมป์อภิมหาเศรษฐีมากสุด

'สิงคโปร์' ใกล้โค่น 'โตเกียว' ผงาดขึ้นเป็นเมืองที่มีอภิมหาเศรษฐีมากที่สุดในเอเชีย และเป็นอันดับสองของโลก

6 มี.ค. 57 สิงคโปร์กำลังจะโค่นกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ในการครองบัลลังก์แชมป์เมืองที่มีคนมีฐานะระดับอภิมหาเศรษฐี (ultra-high-net-worth) มากที่สุดในเอเชีย ภายในเวลา 10 ปี ตามสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นในฐานะของการเป็นศูนย์กลางทางการเงินกับการเติบโตในภูมิภาค

จากรายงานของ ไนจ์ แฟรงค์ แอลแอลพี บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์อิสระชั้นนำของโลก ระบุว่า สิงคโปร์กำลังจะมีประชากร 4,878 คน ที่มีฐานะระดับมหาเศรษฐี มีมูลค่าทรัพย์สินตั้งแต่ 30 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 1 พันล้านบาทขึ้นไป แต่ไม่รวมที่อยู่อันเป็นหลักแหล่งสำคัญ ภายในปี 2566 // แต่ในระดับโลก จะตามหลังแค่ลอนดอนเท่านั้น ส่วนจำนวนของอภิมหาเศรษฐีในกรุงโตเกียว จะเพิ่มขึ้น 8 เปอร์เซ็นต์ เป็น 3,818 คน เป็นอันดับที่ 4 ของโลก รองจากนิวยอร์ก

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ผลสำรวจที่มีชื่อว่า " เวิลด์ไวด์ คอสต์ ออฟ ลิฟวิ่ง เซอร์เวย์ " จัดทำโดย สถาบันวิจัย อิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต หรือ อีไอยู ที่อยู่ในเครือของนิตยสาร ดิ อิโคโนมิสต์ ระบุว่า สิงคโปร์เตรียมโค่นกรุงโตเกียว ผงาดขึ้นเป็นนครใหญ่ที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก อันเนื่องมาจากปัจจัยสนับสนุนจากการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์สิงคโปร์ , ค่าใช้จ่ายในการมีรถยนต์ไว้ในครอบครองสูงลิบ และการที่ต้องนำเข้าเสื้อผ้าแบรนด์ยุโรปเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าฐานะดี ก็พลอยทำให้ค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าแบรนด์หรูเหล่านี้พลอยสูงตามไปด้วย

ส่วนจำนวนของอภิมหาเศรษฐีในนครโฮจิมินห์ ของเวียดนาม ก็กำลังจะเพิ่มเกือบ 3 เท่า ในปี 2566 โดยเพิ่มจาก 90 คน เป็น 246 คน ที่ถือว่าเป็นตัวเลขที่เติมโตมากที่สุดในบรรดากว่า 80 เมือง ที่สำรวจโดยไนจ์ แฟรงค์ แต่ยังตามหลังกรุงจาการ์ตา ที่จะเพิ่มขึ้นถึง 148 เปอร์เซ็นต์ เป็น 857 คน

อลิส ตัน หัวหน้าที่ปรึกษาและนักวิจัยของไนจ์ แฟรงค์ ประจำสิงคโปร์ ระบุว่า ด้วยสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ , ระบบการจัดเก็บภาษี , เสถียรภาพทางการเมืองและความเจริญรุดหน้าในฐานะศูนย์กลางทางการเงินหลักในภูมิภาค ได้ดึงดูดบรรดามหาเศรษฐีในการเข้าไปลงหลักปักฐานในสิงคโปร์ โดยพบว่า บรรดาอภิมหาเศรษฐีเกือบ 1 ใน 4 ในเอเชีย กำลังพิจารณาที่จะซื้อบ้านหลังที่สองของพวกเขาในสิงคโปร์ ภายใน 12 เดือนข้างหน้า และพบว่า สิงคโปร์ตามหลังเพียงแค่สหราชอาณาจักร ในเรื่องความนิยมในการเข้าไปซื้อบ้านหลังที่ 2 ของเหล่าเศรษฐี

เศรษฐกิจของสิงคโปร์ ขยายตัวปีละ 6.1 เปอร์เซ็นต์ จากการเติบโตในภาคการผลิตเนื่องจากรัฐบาลคาดการณ์ว่า ความต้องการในต่างประเทศจะปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้

ผลสำรวจของ ไนจ์ แฟรงค์ ระบุว่า กรุงลอนดอน ของอังกฤษ ได้รับการคาดหมายว่า

จะมีคนที่มีฐานะระดับอภิมหาเศรษฐีเป็นอันดับ 1 ของโลก คือ 4,940 คน ภายในปี 2566 , สิงคโปร์ อันดับ 2 จำนวน 4,878 คน นิวยอร์ก อันดับ 3 จำนวน 3,825 คน โตเกียวอันดับ 4 จำนวน 3,818 คน ส่วนฮ่องกง มีจำนวนอภิมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้น 37 เปอร์เซ็นต์ รั้งอันดับที่ 5 ด้วยจำนวน 3,502 คน

เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก