ชายอังกฤษเป็นเหยื่อไททานิคสูงกว่าอเมริกัน

นักวิจัยเชื่อว่า ผู้ชายอังกฤษจำนวนมากเสียชีวิตไปกับเรือไททานิค เหตุเพราะมัวแต่เข้าคิวรอลงเรือชูชีพอย่างสุภาพ

นักวิจัยของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งควีนส์แลนด์นายเดวิด ซาเวจ ศึกษาสาเหตุการตายของผู้โดยสารเรือไททานิค พบว่าชายอังกฤษเสียชีวิตไปพร้อมกับเรือไททานิค มีจำนวนมากกว่าชายอเมริกัน เพราะพฤติกรรมของชายอังกฤษ มีแนวโน้มที่จะเป็นสุภาพบุรุษ คิดถึงผู้อื่นก่อนตนเอง ขณะที่ชายอเมริกันจะคิดถึงตัวเองก่อนผู้อื่น

กลุ่มคนที่รอดชีวิตมากที่สุดคือ ผู้หญิงที่มีลูกมาด้วย จะมีโอกาสรอดมากกว่าผู้ชายถึง 70%

นักวิเคราะห์ได้ศึกษาบันทึกของผู้รอดชีวิตที่เป็นผู้หญิง ส่วนใหญ่เล่าว่าสามีจะส่งภรรยาลงเรือชูชีพ จากนั้นบรรดาสามีก็ไปรวมตัวกันสูบซิการ์อยู่ที่ท้ายเรือไททานิค ขณะที่เรือไททานิคค่อยๆจมลง

อีกกรณีมีพยานเห็นผู้ชายลักษณะเหมือนเศรษฐี ได้ส่งภรรยาลงเรือชูชีพ จากนั้นชายผู้นั้นได้กลับไปใส่เสื้อสูททักซิโด แล้วขึ้นไปสูบซิการ์ที่ชั้นดาดฟ้าเรือ คล้ายกับว่าขอตายเยี่ยงสุภาพบุรุษและแต่งกายสุภาพ

จากบันทึกของพยานผู้รอดชีวิตระบุว่า ขณะที่เรือกำลังจมลง กัปตันเรือไททานิคนายเอ็ดเวิร์ด จอห์น สมิธ ยังคงตะโกนว่า “ Be British boys, Be British ” หรือ อย่าทิ้งมาดอังกฤษนะพวก

เหตุที่พฤติกรรมของชายชาวอังกฤษบนเรือไททานิคเป็นเช่นนั้น นักวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นเพราะอิทธิพลของยุคนั้น ซึ่งถูกเรียกว่า “ยุคเอ็ดเวอร์เดียน” เป็นยุคสมัยที่ผู้ชายอังกฤษถูกสอนให้ปฏิบัติตนเยี่ยงสุภาพบุรุษ ต้องคิดถึงผู้หญิงและเด็กก่อนตนเอง จึงเชื่อว่าน่าจะมีสุภาพบุรุษอังกฤษจำนวนไม่น้อยที่เข้าคิวอย่างสุภาพ เพื่อรอลงเรือชูชีพ แต่ว่าไม่ทันการณ์ เรือไททานิคจมลงเสียก่อนจึงจมลงพร้อมกับเรือ

เรือไททานิคจมลงเมื่อปีพ.ศ.2455 ในการเดินทางเที่ยวแรกของเรือ โดยเรือชนกับภูเขาน้ำแข็ง มีจำนวนผู้สูญหาย 1,500 คน