ขับรถเที่ยวอย่างไร ให้สุขใจสบายกระเป๋า

เข้าสู่เดือนเมษายนแบบนี้ เชื่อว่าสิ่งที่หลายคนคิดถึงคือ การขับรถท่องเที่ยว เพราะเดือนนี้เป็นเดือนที่มีวันหยุดยาวมากที่สุดของปี แต่การขับรถไปเที่ยวเองก็มีค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อย หากเรารู้วิธีขับรถอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยให้ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายไปได้มากเลยล่ะค่ะ

1. ศึกษาเส้นทางก่อนออกเดินทาง “เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” คำกล่าวนี้ใช้ได้ดีกับหลายสถานการณ์ รวมทั้งการขับรถท่องเที่ยว เราควรศึกษาเส้นทางในการเดินทางท่องเที่ยวให้ดีก่อนออกเดินทาง ทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรอง เพราะในช่วงเทศกาลหยุดยาว ถนนสายหลักมักมีรถหนาแน่น การใช้เส้นทางสายรองจะช่วยให้ประหยัดเวลาและค่าน้ำมันได้มากขึ้น รวมทั้งไม่เสียอารมณ์จากการรถติดอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ ใครที่มีมือถือ Smartphone ก็สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมหรือแอพ (Application) เพื่อตรวจสอบเส้นทางและการจราจรของเส้นทางที่เราจะเดินทางไปได้ค่ะ

2. เลือกรถให้เหมาะกับแหล่งท่องเที่ยว เมื่อเลือกได้แล้วว่า จะไปท่องเที่ยวที่ไหน การเลือกรถให้เหมาะกับสถานที่ที่เราจะไปก็เป็นสิ่งสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น หากตั้งใจไปเที่ยวป่า แบบบุกตะลุย การขับรถยนต์ไปอาจจะไม่เหมาะนัก ควรต้องเป็นรถแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ นอกจากนี้ หากไปเที่ยวกันหลายคน ก็ต้องมีการเลือกรถและจัดสรรคนนั่งให้เหมาะสม เช่น หากไปเที่ยวกัน 5 คน แล้วมีรถให้เลือกระหว่างซิตี้คาร์กับซีดาน แม้ว่ารถซิตี้คาร์จะประหยัดน้ำมันมากกว่า แต่ก็มีขนาดที่เล็กกว่ารถซีดาน นั่งไปนานๆ จะทำให้เมื่อยและเที่ยวไม่สนุกได้ กรณีนี้ แนะนำให้เลือกขับรถซีดานดีกว่าค่ะ

3. ตรวจเช็ครถก่อนเดินทาง เมื่อ ขับรถไปเที่ยว เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้รถเสียหรือตายกลางทาง วิธีหนึ่งที่จะช่วยป้องกันได้คือการตรวจสภาพรถ ซึ่งอาจทำได้หลายวิธีทั้งการนำรถไปเข้าศูนย์หรืออู่ เพื่อให้ช่างตรวจเช็คให้ นอกจากนี้ บางครั้งหน่วยงานราชการอย่างขนส่งทางบกก็จัดให้มีการตรวจเช็คสภาพรถฟรี ซึ่งจะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ลงได้ โดยแนะนำให้ไปตรวจสภาพรถแต่เนิ่นๆ เพราะหากไปตรวจใกล้ๆ กับช่วงเทศกาล อาจมีผู้มาใช้บริการเยอะ ทำให้ไม่สามารถตรวจสภาพรถได้อย่างที่ตั้งใจได้ค่ะ

4. ขับรถด้วยความเร็วที่เหมาะสม การลดความเร็วในการขับรถจะช่วยให้เราประหยัดน้ำมันไปได้ไม่น้อย ถ้าเราลดความเร็วจาก 110 กม./ชม. เป็น 90 กม./ชม. จะประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 25% เลยทีเดียว และยังช่วยที่ลดความเสี่ยงที่เราจะขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดได้ด้วย นะคะ นอกจากนี้ การขับรถด้วยความเร็วสม่ำเสมอ ไม่ออกรถกระชาก ก็จะช่วยให้เราประหยัดน้ำมันได้ โดยการออกรถกระชาก 10 ครั้ง จะทำให้เราสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มถึง 100 ซีซี ซึ่งน้ำมันปริมาณเท่านี้ทำให้รถวิ่งได้ 700 เมตร เลยทีเดียวค่ะ

5. พกเบอร์สายด่วนสำหรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน อุบัติเหตุ และเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่อุบัติเหตุเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก การมีเบอร์สายด่วนสำหรับแจ้งเหตุฉุกเฉินจึงเป็นสิ่งจำเป็น เช่น เบอร์ตำรวจทางหลวง โทร 1193 หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน โทร 1669 หรือสถานีวิทยุ จส.100 โทร 1137 ค่ะ