การค้นพบสิ่งใหม่ที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาในโลกสร้างอารมณ์ตื่นเต้นให้แก่ผู้ค้นพบและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทุกครั้งไป ยิ่งเป็นการค้นพบเวชภัณฑ์ใหม่ๆ หรือวิธีการรักษาโรคใหม่ๆ ที่ได้ผลดี (กว่าเดิม) อย่างวิธีการป้องกันโรคเอดส์ด้วยแล้ว วงของความยินดีนั้น แผ่ขยายออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา แทบจะเรียกได้ว่าทุกมุมโลก ยกเว้นแต่ขั้วโลกใต้เท่านั้นเพราะเป็นที่เดียวบนโลกที่ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่
ที่กล่าวมาเช่นนี้เพราะมีข่าวดีสำหรับมวลมนุษยชาติ ที่จะมีทางออกสำหรับการป้องกันเชื้อไวรัส เอชไอวี ซึ่งเป็นต้นตอของโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือรู้จักกันในชื่อ "เอดส์" ที่ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อทั่วโลก 35 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ถึง 3.3 ล้านคน เมื่อดอกเตอร์แบรี โอคีฟ รองหัวหน้าห้องปฏิบัติการโมเลกุลาร์ ทาร์เก็ตส์ แห่งศูนย์วิจัยมะเร็ง สถาบันวิจัยมะเร็งแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (เอ็นซีไอ) เปิดเผยในการประชุมเอ็กซ์เพอริเมนทัล ไบโอโลยี 2014 ณ เมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ค้นพบโปรตีนป้องกันเชื้อเอชไอวีเชื่อมต่อเข้ากับทีเซลล์ ในร่างกายมนุษย์ และโปรตีนเหล่านั้นซุกซ่อนอยู่ในแนวปะการังนั่นเอง
หลังจากที่ทีมงานของเอ็นซีไอศึกษาโปรตีนในรูปแบบต่างๆ หลายพันชนิดที่สกัดมาจากสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติหลายพันตัวอย่าง ในที่สุดทีมงานก็พบว่าโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในสัตว์ในไฟลัมไนดาเรีย(cnidaria) ชั้นแอนโทซัว (anthozoa) หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ปะการังนิ่ม" ที่นำตัวอย่างมาจากแนวปะการังในเขตแนวปะการังออสเตรเลียทางตอนเหนือ สามารถทำตัวเป็นเกราะกำบังไม่ให้เชื้อไวรัสไร้ชีวิตเหล่านี้เกาะติดเข้ากับเซลล์ในระบบป้องกันสิ่งแปลกปลอมของร่างกาย
ทั้งนี้ เชื้อไวรัสเป็นสิ่งไม่มีชีวิต เป็นเพียงกลุ่มของสารพันธุกรรมที่ล่องลอยอยู่ทั่วไป เชื้อชนิดนี้จะไม่มีอันตรายหากอยู่เพียงลำพัง แต่หากเชื้อไวรัสสามารถเกาะเข้ากับเซลล์ของสิ่งมีชีวิตแล้ว จะทำการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของเซลล์สิ่งมีชีวิตให้กลายเป็นเจ้าบ้านของเชื้อไวรัส และบังคับให้เซลล์ของสิ่งมีชีวิตแตกตัวออกมาสร้างเชื้อไวรัสรุ่นใหม่ ทั้งยังทำให้เซลล์สิ่งมีชีวิตทำงานผิดปกติไปตามแต่ชนิดของพันธุกรรมในเชื้อไวรัสแต่ละชนิด ข้อดีอีกประการหนึ่งคือโปรตีนสกัดจากปะการังอ่อนในทะเลยังไม่ทำให้เชื้อไวรัสดื้อยาต้านเชื้ออีกด้วย ทำให้นี่คือเครื่องมือป้องกันเชื้อเอชไอวี/เอดส์ในฝันของนักวิจัยทั่วโลก
ทีมงานชุดนี้คิดวิธีการใช้โปรตีนปะการังอ่อนในการป้องกันเชื้อเอชไอวี ด้วยการนำไปผสมกับสารหล่อลื่นสำหรับช่องคลอดผู้หญิงและเป็นสารหล่อลื่นที่ใช้เคลือบผิวถุงยางอนามัยของผู้ชาย ด้วยวิธีนี้จะช่วย "ป้องกัน" เชื้อเอชไอวีไม่ให้เข้าไปเกาะติดกับทีเซลล์ ในร่างกายได้เป็นอย่างดี แต่โปรตีนชนิดนี้ไม่ใช่ยารักษาโรคเอดส์ ดังนั้น ผู้ที่มีเชื้อและแสดงอาการของโรคเอดส์แล้ว คงต้องรอยารักษาอาการต่อไป
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
