ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเล็บ มี 4 ปัญหาหลักดังนี้
1. เล็บขบ
เกิดจากการตัดเล็บที่ลึกจนเกินไป จึงทำให้เล็บที่งอกขึ้นมาใหม่นั้นแทงเข้าไปในผิวหนัง จนเกิดอาการบวมแดง และเจ็บปวด ดังนั้นเวลาตัดเล็บไม่ควรจะตัดเล็บให้สั้นจนเกินไป และไม่ควรตัดเล็บด้านข้าง แต่ควรที่จะตัดตามรูปเล็บ และเมื่อรู้สึกเจ็บให้ตัดเล็บห่างจากเนื้อเล็บ
2. เล็บเปราะ
ปัญหานี้จะพบกันบ่อย ๆ ซึ่งสาเหตุนั้นเกิดมาจากการที่เล็บประกอบไปด้วยเซลล์เคราติน (Keratin Cells) ที่ตายแล้ว ถูกรวมเข้าด้วยกันโดยไขมันกับน้ำ และการสูญเสียน้ำกับไขมันนั่นเองที่ส่งผลให้เซลล์เคราตินกระจายออกจากกัน จนทำให้เล็บมีความแห้ง เปราะ และหักในที่สุด น้ำยาล้างเล็บคือศัตรูอันดับหนึ่ง ที่มีฤทธิ์ที่จะทำให้เล็บแห้ง เพื่อป้องกันมิให้เล็บหัก เล็บเปราะ ก็ไม่ควรที่จะใช้น้ำยาล้างเล็บบ่อย ๆ และทางที่ดีควรนวดเล็บ และบริเวณโคนเล็บด้วยครีมบำรุงเล็บอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้เล็บ
3. เล็บติดเชื้อรา
การที่เล็บต้องไปสัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ นานา จึงมีโอกาสที่จะติดเชื้อราได้ง่าย และเมื่อเล็บติดเชื้อรา ก็ให้สังเกตง่ายๆ ว่า เล็บจะมีความหนา มีสีที่เปลี่ยนไป และจะหักง่าย ซึ่งการติดเชื้อราที่เล็บนี้สามารถจะรักษาให้หายได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ที่มีสรรพคุณในการกำจัดเชื้อรา ซึ่งก็ควรจะต้องให้อยู่ในความดูแลของแพทย์เฉพาะด้านอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัย
4. หนังที่โคนเล็บฉีกขาด
สำหรับคนที่มีพฤติกรรมที่ชอบกัดเล็บ และลอกหนังบริเวณเล็บ ในเวลาที่เครียด กระสับกระส่าย หรือทำเพราะความเคยชินควรระมัดระวัง เพราะพฤติกรรมเช่นนี้จะทำให้ผิวหนังที่โคนเล็บซึ่งมีความบอบบาง แห้ง แตกเป็นขุย และฉีกขาด ซึ่งจะส่งผลให้แสบบริเวณนั้น อีกทั้งยังง่ายต่อการติดเชื้ออีกด้วย เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายกับผิวหนังบริเวณนั้นก็ควรจะหมั่นนวดผิวหนังที่โคนเล็บด้วยครีมบำรุงผิวอยู่เสมอ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด แถมยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนังบริเวณนั้นไว้เสมอ
ดูแลรักษาเล็บอย่างไรให้แข็งแรงและสวยงามอยู่เสมอ
-เมื่อจะทำงานบ้านอะไรก็ตาม ควรจะสวมถุงมือเพื่อป้องกันเล็บเกิดความเสียหาย หรือถ้าไม่อาจสวมถุงมือได้ ก็ควรใช้ความระมัดระวัง และหาอุปกรณ์ทุ่นแรงที่เหมาะสมกับงาน
-ตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ หากต้องตะไบเล็บควรจะตะไบไปในทิศทางเดียวกัน อย่าตะไบกลับไปมา เพราะอาจจะทำให้เล็บเกิดความเสียหายได้
-ควรทาน้ำยาเคลือบเล็บเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของเล็บ และไม่ควรที่จะใช้น้ำยาเคลือบที่มีอาซีโตน ซึ่งเป็นสารเคมีที่รุนแรงเพราะจะทำให้เล็บเสียหาย
-ไม่ควรปล่อยให้มือและเล็บเปียกน้ำอยู่นาน ควรรีบเช็ดให้แห้งด้วยผ้าขนหนูสะอาดและหนานุ่มทันที หลังจากนั้นก็ให้ใช้ครีมบำรุงมือและเล็บเพื่อรักษาความชุ่มชื้น
-ควรจะตัดแต่งเล็บหลังจากอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ เพราะช่วงนี้เล็บจะอ่อนนุ่ม ทำให้ง่ายต่อการตัดแต่ง
-ไม่ควรทาเล็บบ่อย ๆ รวมไปถึงการใช้น้ำยาล้างเล็บบ่อย ๆ ด้วย เพราะสารเคมีในน้ำยาจำพวกนี้จะสร้างอันตรายแก่เล็บ
-ระมัดระวังในการหยิบจับสิ่งของ เพราะอาจจะทำให้เล็บฉีกขาด และอาจเกิดการติดเชื้อราที่ติดอยู่ในสิ่งของนั้น