และเพลงที่ 6 “เกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย” ทำนอง : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 26 ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองขณะประทับ ณ วังไกลกังวล ใน พ.ศ.2500 เพื่อพระราชทานเป็นเพลงประจำวงดนตรี "อ.ส. วันศุกร์" ใช้บรรเลงเป็นเพลงสุดท้ายก่อนเลิกเล่นดนตรี ได้พระราชทานให้นำออกบรรเลงในงานสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศสวนอัมพร เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2500 ผู้ประพันธ์คำร้องภาษาไทย คือ นายวิชัย โกกิลกนิษฐ
ต่อมา ใน พ.ศ.2506 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นาย Rual Maglapus อดีตสมาชิกวุฒิสภาของประเทศฟิลิปปินส์ ประพันธ์คำร้องภาษาอังกฤษ ใน พ.ศ.2514 บ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานให้ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค แต่งคำร้องภาษาไทย "เกิดเป็นไทย ตายเพื่อไทย" เพื่อปลุกจิตสำนึกให้คนไทยรักและหวงแหนแผ่นดินไทย อย่างท่อนเพลงที่ว่า
“เกิดเป็นไทยแล้วใจต้องสู้ ถิ่นไทยเรารู้เรารักยิ่ง
ศัตรูหน้าไหนไม่เกรงกริ่ง หากมาช่วงชิงตายเสียเถิด
เผ่าไทยเดิมล้วนคนใจเด็ด แกร่งดังเหล็กเพชรชูชาติเชิด
ต่างรักษาไว้แดนกำเนิด เกิดเป็นไทยแล้วจำใส่ใจ“
ส่วนน้ำเสียงของผู้ร้องเพลงปลุกใจที่เป็นเอกลักษณ์ และมีความขลังปลุกเร้าหัวใจได้ทุกครั้งที่ฟัง คือ น้ำเสียงอันทรงพลังของ สันติ ลุนเผ่ หรือ เรือตรีไพศาล ลุนเผ่ นักร้องประจำคณะดุริยางค์แห่งกองทัพไทย เจ้าตัวเล่าถึงประวัติก่อนมาเป็นสัญลักษณ์แห่งเสียงเพลงปฏิวัติว่า
“เกิดที่บ้านในย่านวัดราชบพิธ กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของหม่องลุนเผ่ ซึ่งเป็นนักร้องละครชาวพม่า อพยพมาอยู่ ณ จังหวัดลำปาง พ่อนำชื่อ ลุนเผ่ มาใช้เป็นชื่อสกุล ก่อนย้ายรกรากมาอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ผมได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก จนสำเร็จชั้นมัธยมศึกษาในปี 2496 และศึกษาต่อที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผมชอบดนตรีคลาสสิกมาตั้งแต่เด็ก พ่อผมชอบฟังคารูโซเป็นผู้สอนร้องเพลงให้ ตอนเรียนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผมได้ร่วมวงดนตรีวายุบุตร ของ เชาว์ แคล่วคล่อง และสอบชิงทุนยูธ ลีดเดอร์ชิป (Youth Leadership) ไปศึกษาด้านการเรียบเรียงเสียงประสานที่ประเทศอิสราเอลเป็นผลสำเร็จ"
"จากนั้นจึงกลับมาร่วมวงดนตรีวายุบุตร ในตำแหน่งนักกีตาร์ โดยเล่นประจำที่โรงแรมเอราวัณ ผมฝึกฝนดนตรีคลาสสิกจากการร้องเพลงในโบสถ์คริสต์ ฝึกสอนโดย แมรี คลิฟฟอร์ด เจฟฟรีย์ มิชชันนารีชาวอเมริกัน จากการฝากฝังโดย หม่อมดุษฎี บริพัตร ณ อยุธยา และได้ร่วมเป็นนักร้องเสียงเทเนอร์ในวงดนตรี The Bangkok Combined Choir (BBC) เป็นคนไทยเพียงคนเดียวในวง เพลงปลุกใจเป็นเพลงที่ต้องเร้าให้คนฟังเกิดความฮึกเหิม เสียงผมมันมีตรงนั้น เพลงเหล่านี้ใช้ในโอกาสพิเศษเท่านั้น ไม่ค่อยมีใครนำมาร้อง เลยกลายเป็นเสียงผมคนเดียวที่ถูกหยิบมาเปิด"....
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////