ผู้ใช้สมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตน่าจะเคยเห็นหรือใช้งาน Airplane Mode หรือภาษาไทยเรียกว่า “โหมดเครื่องบิน” กันดีนะครับ โดยโหมดนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปิดการใช้งานระบบเชื่อมต่อแบบไร้สายทั้งหมด (สัญญาณโทรศัพท์, WiFi, Bluetooth) สำหรับใช้เวลาขึ้นเครื่องบิน (ที่บังคับให้ปิดสัญญาณโทรศัพท์) แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า Airplane Mode นั้น สามารถใช้ประโยชน์กับสถานการณ์อื่นๆ ได้อีกครับ ดังนี้…
ประโยชน์ของ Airplane Mode (โหมดเครื่องบิน) 3 ข้อ ที่คุณอาจไม่รู้ !?
การเปิด Airplane Mode จะส่งผลให้ระบบปิดการใช้งานระบบเครือข่ายมือถือ, ระบบ WiFi และ Bluetooth ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าฟีเจอร์พวกนี้อาศัยการใช้งานแบตเตอร์รี่มาก ดังนั้นในเวลาที่เราไม่ได้ใช้การเชื่อมต่อดังกล่าว ก็จะช่วยให้ประหยัดแบตเตอร์รี่ได้มากขึ้น โดยเฉพาะการอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ (เช่น การไปเที่ยวป่า เที่ยวเกาะกลางทะเล) จะได้ไม่ต้องให้เครื่องทำงานหนักเพื่อค้นหาสัญญาณเครือข่าย โดยไม่ต้องปิดเครื่อง ซึ่งทำให้เราสามารถใช้ฟีเจอร์อื่นๆ ของสมาร์ทโฟน อย่างเช่น การถ่ายรูป หรือฟังเพลงได้ตามปกติ
2.ช่วยทำให้ชาร์จแบตฯ ได้เร็วขึ้น
การชาร์จแบตที่ไวที่สุดคือการทำให้เครื่องรับกระแสไฟฟ้าเข้าไปอย่างเดียว แต่ถ้าหากชาร์จไปด้วยแล้วกำลังใช้ไปด้วยจะทำให้ใช้เวลาในการชาร์จมากขึ้น ส่งผลให้แบตเตอร์รี่ร้อนและเสื่อมอายุการใช้งานเร็วขึ้นอีกด้วย ดังนั้นถ้าอยากชาร์จแบตให้เต็มเร็วๆ ควรเปิด Airplane Mode ไว้ครับ …แต่ถ้าเป็นโทรศัพท์ ใครโทรมาตอนนั้นก็จะโทรไม่ติดนะครับ ต้องวางแผนดีๆ
3.ตัดการรบกวนจากโลกภายนอก
สำหรับใครที่ต้องการความสงบ ไม่อยากรับรู้ความเป็นไปของโลกภายนอก (Social Network) หรือไม่ต้องการให้ใครโทรหา ไม่ต้องถึงกับปิดเครื่อง เพียงแค่เปิดการใช้งาน Airplane Mode ก็น่าจะตอบโจทย์นี้ได้ดีทีเดียวครับ หรือใครที่ต้องการเฉพาะปิดเครือข่ายมือถือไม่ให้คนอื่นโทรหา แต่ยังอยากเล่นเน็ตผ่าน WiFi อยู่ ก็สามารถทำได้ครับ โดยการเปิด Airplane Mode ก่อน แล้วค่อยไปเปิด WiFi ตามทีหลัง
ที่มา – Gizmodo