คนรุ่นใหม่อาจจำได้ไม่แน่ชัด
แต่คนรุ่นเก่า (แต่ไม่แก่) คงคุ้นหูกับชื่อยาสีฟัน "ดาร์กี" (Darkie)
ที่มีรูปโลโก้เป็นชายหน้าดำกำลังยิ้มเป็นอย่างดี สินค้าตัวนี้มีชื่อเป็นภาษาจีนแปลว่า "คนดำ"
|
|
|
"ดาร์กี" ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "ดาร์ลี" (Darlie)
หลังจากที่บริษัทฮอว์ลีย์แอนด์ฮาเซิลผู้ผลิต เดิมบนเกาะฮ่องกง ถูกบริษัทสินค้าอุปโภคยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ จากสหรัฐ อเมริกา ซื้อกิจการไปเมื่อปี1985
|
|
สาเหตุที่ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนชื่อนั้น
มาจากการที่คอลเกต-ปาล์มโอลีฟถูกกดดันอย่างหนัก จากคนผิวสีและนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนที่เห็นว่าการตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ที่กล่าวถึงเชื้อชาติของคนนั้นเป็นการเหยียดผิว
ว่ากันว่าผู้ที่จุดเพลิงให้กระแสความไม่พอใจกระพือขึ้นจนขยายวงกว้าง ก็คือบริษัทคู่แข่งยักษ์ ใหญ่ซึ่งนำยาสีฟันสูตรใหม่ออกวางตลาดในเวลาเดียวกันกับดาร์กีนั่นเอง
|
|
เนื่องจากภาพลักษณ์มีผลกระทบอย่างมากต่อรายได้
คอลเกต-ปาล์มโอลีฟจึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อยาสีฟันเป็นดาร์ลี และปรับปรุงภาพโลโก้จากเดิมที่เป็นภาพชายผิวดำหน้าตาคล้าย อัล โจลสัน นักร้องนักแสดงชาวอเมริกันชื่อดังแห่งศตวรรษที่ 20 มาเป็นภาพผู้ชายที่ระบุไม่ได้แน่ชัดว่าเป็นคนเชื้อ ชาติใด
|
|
บรรดาผู้วิพากษ์วิจารณ์ชาวตะวันตกรู้สึกพอใจกับการเปลี่ยนชื่อ และอ้างว่ายาสีฟันขายดีขึ้น
หลังจากนั้น แต่ที่หลายๆ คนไม่รู้ก็คือ ชื่อภาษาจีนของยาสีฟันยี่ห้อนี้คือ "黑人牙膏" ซึ่งแปลว่า "ยาสีฟันคนดำ"
ยังคงไม่เปลี่ยน โดยมีการออกโฆษณารณรงค์ว่า
"ยาสีฟันคนดำยังคงเป็นยาสีฟันคนดำอยู่" เนื่องจากคำว่า "黑人" ในภาษาจีนนั่นไม่ได้มีความหมาย ในทางดูถูกดูหมิ่นคนเชื้อสายแอฟริกันแต่อย่างใด
|
|
ทั้งนี้ ปัจจุบันยาสีฟันยี่ห้อนี้
ยังคงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหลายประเทศในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะที่ฮ่องกงและไต้หวัน |
|