แฟนๆทุเรียนฟังทางนี้ กินทุเรียนอย่างไร ให้ได้สุขภาพดี และไม่อ้วน ...
ทุเรียน ผลไม้ที่หลายต่อหลายคนชื่นชอบ แต่คุณผู้อ่านบางคนก็ยังมีความกังวลกับเรื่องน้ำหนักตัว ที่อาจเพิ่มตามปริมาณการกินทุเรียนได้ ผู้เขียนจึงขอแนะให้ผู้บริโภคทุเรียนมีความรู้วิธีการกินทุเรียนอย่างไรให้สุขภาพดี เนื่องจากทุเรียนได้รับการยอมรับว่าเป็นราชาแห่งผลไม้ไทย เป็นผลไม้ที่มีความอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการ และได้รับความนิยมสูง อีกทั้งทุเรียนยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ถ้ากินในปริมาณที่พอดีและกินให้ถูกจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย มาอ่านกันว่ากินทุเรียนอย่างไรไม่ให้อ้วนและมีสุขภาพดี
ในเนื้อเหลืองอวบของทุเรียน ประกอบด้วย 3 อย่างหลัก คือ 1.แป้ง จากเนื้อเหลืองแน่นที่กินแล้วหวานมันอร่อยลิ้น
2.ไขมัน มีปนมาอยู่บ้างซึ่งมากกว่าพืชทั่วไป แต่การมีไขมันนี้ทำให้ทุเรียนมีวิตามินอีเยอะ
3.วิตามินแร่ธาตุและกำมะถัน หรือซัลเฟอร์ โดยกำมะถันตัวนี้เองคือตัวร้อน เป็นผู้ร้ายที่ทำให้เกิดอาการร้อนในและกลิ่นไร้เทียมทาน
สรรพคุณของทุเรียน
1. ช่วยฆ่าเชื้อ จากกำมะถันในเนื้อเป็นเสมือนยาปฏิชีวนะอ่อน ๆ
2. ช่วยเผาผลาญ จากความร้อนของกำมะถันและน้ำตาลในเนื้อ
3. ช่วยระบาย จากกากที่เป็นเส้นใยยุ่บยั่บในเนื้อ
นอกจากนี้ทุเรียนยังมีฤทธิ์ไล่พยาธิได้ ด้วยกำมะถันที่รุ่มร้อนทำให้ลำไส้ไม่เป็นบ้านแสนสุขของพยาธิอีกต่อไป อีกทั้งกากใยในเนื้อที่ช่วยขัดล้างลำไส้ด้วย
ดังนั้น การกินทุเรียนเพื่อสุขภาพ ควรกินครั้งละไม่เกิน 2 เม็ด ขนาดกลาง น้ำหนักเฉพาะเนื้อประมาณ 100 กรัม จะให้พลังงานสูงถึง 187 กิโลแคลอรี ให้ไขมัน 4.1 กรัม โปรตีน 2.5 กรัม และให้แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และวิตามินเอ ประมาณ 18 มิลลิกรัม 36 มิลลิกรัม 1 มิลลิกรัม และ 22 มิลลิกรัม.ตามลำดับ แต่ ถ้าหากกินครั้งละ 2-3 พู เท่ากับ 4-6 เม็ด หรือเกือบครึ่งลูก ก็จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานจากความหวานของทุเรียนมากเกินไปถึงประมาณ 400 กิโลแคลอรี ซึ่งพอ ๆ กับกินข้าว 5 ทัพพี หรือกินน้ำอัดลมเกือบ 2 กระป๋อง หรือก๋วยเตี๋ยวหมู 1 ชาม
สำหรับคนที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด ให้ระมัดระวังในการกินทุเรียน กินได้แต่ในปริมาณที่น้อยกว่าคนปกติ
สิ่งที่ต้องระมัดระวังในการกินทุเรียน คือ ต้องไม่กินร่วมกับการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด เพราะในทุเรียนมีสารกำมะถันหรือซัลเฟอร์อยู่มาก ซึ่งจะละลายได้ดีในแอลกอฮอล์ ทำให้แอลกอฮอล์เข้าสู่กระแสเลือดได้เร็ว ทำให้เมาเร็วและเมาหนักขึ้น ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อระบบหายใจ เสี่ยงเสียชีวิตหรือเกิดอาการร้อนใน เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
ส่วนความเชื่อที่ว่า กินทุเรียนแล้วให้กินมังคุดตามเพื่อแก้ร้อนใน ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ดี แม้จะไม่มีงานวิจัยรองรับ แต่คิดว่าเป็นกุศโลบายของคนรุ่นเก่า ที่คิดว่าทุเรียนเป็นของร้อน แล้วให้กินมังคุดเป็นของเย็นแก้กัน และคงต้องการให้คนกินผลไม้ที่หลายหลากชนิดด้วย
ดังนั้นสำหรับคนที่กินทุเรียนจนร้อนใน ควรกินอาหารธาตุเย็นที่มีฤทธิ์แก้ร้อนในตามลงไป ซึ่งมีให้เลือกมากมายตามความเหมาะสมและความชอบของคุณ เช่น
- ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ บางคนชงน้ำเกลือเจือจางดื่มสักแก้วก็ดีขึ้นได้เช่นกัน
- กินผักสดต่างๆ ให้มากขึ้น
- กินผลไม้ที่มีน้ำเยอะ ประเภทแตงโม แตงล้าน หรือผลไม้รสเปรี้ยวหรือหวานอมเปรี้ยว เช่น ส้ม สับปะรด มะนาวให้มากขึ้น หลายคนนิยมกินมังคุดตามหลังกินทุเรียน
- ดื่มเครื่องดื่มสมุนไพรต่าง ๆ ที่มีฤทธิ์ช่วยแก้ร้อนใน เช่น น้ำเก๊กฮวย น้ำหล่อฮั่งก๊วย น้ำรากบัว น้ำมะนาว น้ำใบบัวบก น้ำใบเตย เฉาก๊วย
แนะนำเคล็ดในการกินทุเรียนให้ไม่อ้วน และสุขภาพดี
1.เลือกทุเรียนห่ามจะดีเพราะมีน้ำตาลน้อย แต่ถ้าเลือกไม่ได้ก็กินทุเรียนสุก เนื่องจากงานวิจัยพบว่า ทุเรียนมีสารต้านอนุมูลอิสระชื่อเคอซิทิน ซึ่งเป็นตัวเดียวกับในหอมใหญ่และองุ่น ทั้งนี้พลังต้านอนุมูลอิสระของทุเรียนสุกจะมีมากกว่า มังคุด ลิ้นจี่ ฝรั่ง มะม่วง ตามลำดับ
2. ถ้าจะกินเพื่อสุขภาพก็ให้กินได้ครั้งละไม่เกิน 2 พูต่อสัปดาห์ และถ้ามื้อไหนกินทุเรียน ก็ไม่ต้องกินข้าวมาก
3.ทุเรียนน้ำกะทิควรหลีกเลี่ยง เพราะอุดมไปด้วยน้ำตาลทั้งจากทุเรียน ข้าวเหนียว และไขมันจากกะทิ และอาจทำให้เกิดอาการร้อนในได้ด้วย
4.ขอให้กินทุเรียนกับผลไม้เนื้อเย็นน้ำเยอะ เช่น มังคุด ลองกอง แตงโมเพราะจะช่วยดับร้อนได้ดี




กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday