8 จุดชมวิวโคตรสวยและโคตรเสียว

หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง อาหารสมอง 8 จุดชมวิวโคตรสวยและโคตรเสียว

ขอบคุณเนื้อหาดีๆ และภาพประกอบ
จาก www.painaidii.com

อยากได้รูปสวยๆ ต้องแลกมาด้วยความเสียว !!! หากพูดถึง “จุดชมวิว” เชื่อได้เลยว่า บริเวณนั้นต้องการันตีได้ถึงความงามของทิวทัศน์เบื้องหน้าที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้น แต่บางครั้ง “จุดชมวิว” ก็ทำเราหวาดเสียวไม่น้อย เพราะจุดชมวิวส่วนใหญ่ ยิ่งสวย ก็มักจะยิ่งสูงตามมาเป็นของคู่กัน ว่าแต่จุดชมวิวของไทย จะมีที่ไหน ที่ทั้งโคตรสวยและโคตรเสียวจนขึ้นชื่อกันบ้างนั้น ตาม PaiNaiDii มาได้เลย

1. ผาแต้ม อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชธานี

ผาแต้ม อุบลราชธานี เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงที่สวยงามตามธรรมชาติ ด้วยความสูงของพื้นที่ การเดินทางค่อนข้างลำบาก ทำให้แต่เดิมเชื่อกันว่าบริเวณผาแต้มแห่งนี้ เป็นเขตต้องห้าม เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นภูผาแห่งความตาย ใครล่วงล้ำเข้าไปมักมีอันเป็นไป อาจเจ็บไข้หรือเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

แต่ปัจจุบันเมื่อได้มีการบรรจุพื้นที่นี้เป็นอุทยานแห่งชาติก็ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวได้มากขึ้น ไฮไลท์ของจุดชมวิวแห่งนี้อยู่ที่วิวแม่น้ำโขงที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตากั้นเป็นพรมแดนของไทย – ลาว รวมทั้งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยมากอีกแห่งหนึ่ง นอกจากนี้บริเวณด้านล่างของผาแต้มยังเป็นที่ตั้งของภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ที่มีอายุราว 3,500 – 4,000 ปี อีกด้วย การถ่ายรูปบริเวณนี้เนื่องจากเป็นหน้าผาสูงชัน การถ่ายภาพจึงควรระมัดระวังไม่เข้าไปยังจุดปลายของผามากนัก เพราะอาจจะเป็นอันตรายได้

2. ผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ

ผามออีแดง ตั้งอยู่ในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ อยู่ใกล้กับทางเดินขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร ตัวผามีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชันกั้นเขตแดนประเทศไทยกับประเทศกัมพูชาออกจากกัน บริเวณโดยรอบของผามออีแดงมีระยะทางประมาณ 300 ม. ณ บริเวณนี้สามารถมองเห็นทัศนียภาพของปราสาทเขาพระวิหารได้อย่างชัดเจน

รวมไปถึงทัศนียภาพของประเทศกัมพูชาซึ่งอยู่เบื้องล่างได้อีกด้วย นอกจากนี้บริเวณด้านล่างของผามีภาพแกะสลักนูนต่ำเป็นรูปคน 3 คน ในเครื่องแต่งกายแบบชาวกัมพูชา เชื่อกันว่าภาพแกะสลักนี้สร้างขึ้นก่อนปราสาทเขาพระวิหาร ราวกลางศตวรรษที่ 11 มีอายุประมาณ 1,500 ปี แม้บริเวณหน้าผาแห่งนี้จะมีการสร้างกำแพงรั้วขึ้นมา 1 ชั้นเพื่อป้องกันอันตรายแล้ว แต่การไปถ่ายรูป หรือ ชมวิว ณ ผาแห่งนี้ ก็ควรใช้ความระมัดระวัง โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่พื้นดินอาจจะลื่น หากไปอยู่บริเวณริมหน้าผามากๆ อาจจะเกิดอันตรายได้

3. ลานหินปุ่ม อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก

ลานหินปุ่ม ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ ภูหินร่องกล้า โดยอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 4 กิโลเมตร ตัวลานหินอยู่บริเวณริมหน้าผา ลักษณะของลานหินนี้มีความพิเศษทางธรรมชาติ กล่าวคือ เป็นลานหินซึ่งมีหินผุดขึ้นมาเป็นปุ่ม เป็นปม ขนาดไล่เลี่ยกัน จำนวนมากจนเต็มพื้นที่ ลักษณะพิเศษนี้คาดว่าเกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติของหิน เดิมพื้นที่บริเวณนี้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ได้ใช้เป็นสถานที่พักฟื้นคนไข้

เนื่องจากโรงพยาบาลตั้งอยู่บนหน้าผาจึงทำให้มีลมพัดเย็นสบาย การมา ณ ลานหินปุ่มแห่งนี้ นอกจากจะได้ชื่นชมธรรมชาติอันแปลกตาของเหล่าบรรดาก้อนหินมากมายที่ผุดขึ้นมาชนิดที่เรียกได้ว่า มีแห่งเดียวในเอเชียแล้ว ที่นี่ยังเป็นอีก 1 จุด ที่สามารถมองเห็นทะเลหมอกงามยามเช้าได้ดีอีกด้วย แต่ด้วยภูมิประเทศที่อยู่บริเวณหน้าผาสูง บวกกับพื้นผิวที่ไม่เรียบมีหินเล็กใหญ่มากมาย ทำให้ที่นี่เป็นอีก 1 จุดชมวิว ที่ทั้งสูงและทั้งเสียว ต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะเข้าชม

4. ผาเดียวดาย อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

จุดชมวิวโคตรสวยและโคตรเสียว ลำดับถัดไป ไปต่อกันที่ ผาเดียวดาย ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ความเสียวของที่นี่ เริ่มต้นกันตั้งแต่เส้นทางการเดินทางที่เต็มไปด้วยถนนสูงชันและโค้งหักศอก ตัวหน้าผามีความสูงชันและมีความน่าหวาดเสียวสุดๆ เพราะมีเพียงลานหินเล็กๆ ที่ยื่นออกไปจากหน้าผา ให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสไปถ่ายภาพความหวาดเสียวอวดสายตาชาวโลก ผาเดียวดายแห่งนี้ นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องความหวาดเสียวสุดๆแล้ว ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของทัศนียภาพเบื้องล่าง เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวป่าเขาที่สวยงามมากอีกจุดหนึ่งของไทย นอกจากนี้บริเวณใกล้ๆยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ให้เหล่านักท่องเที่ยวหัวใจอนุรักษ์ได้ศึกษาอีกด้วย

5.วัดภูทอก" หรือ "วัดเจติยาคีรีวิหาร" จังหวัดบึงกาฬ

“วัดภูทอก" หรือ "วัดเจติยาคีรีวิหาร" ตั้งอยู่ที่ บ้านคำแคน ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ เป็นสถานที่สำหรับปฏิบัติธรรมที่มีความเงียบสงบ สวยงาม ความอัศจรรย์ของที่นี่คือตั้งอยู่บนภูเขาสูง ทางขึ้นรายล้อมไปด้วยหุบเหว มีเพียงทางเดินเล็กๆ ทำเป็นสะพานไม้และบันไดสำหรับไต่ขึ้นไป ด้วยความสูงของ “ภูทอก” และธรรมชาติที่รายล้อมอยู่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ทำให้ทัศนียภาพที่ได้ชมนั้น มีความงามเป็นอย่างยิ่ง แต่การจะไปสัมผัสความงามเหล่านั้น ต้องใช้ความกล้าในการไต่บันไดไม้ที่สูงชันขึ้นไป ที่นี่จึงถือเป็นอีก 1 จุดชมวิววัดใจใครต่อใครหลายๆคนได้ดีทีเดียว

6. ผาสุดแผ่นดิน อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ

ผาสุดแผ่นดิน อีกหนึ่งจุดชมวิวที่มีความสวยงามและมีความเสียวขึ้นชื่อ อยู่ในอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัด ชัยภูมิ มีความสูงอยู่ที่ 846 เมตร จากระดับน้ำทะเล นับว่าผาแห่งนี้เป็นจุดสูงสุดของอุทยานแห่งชาติแห่งนี้เลยก็ว่าได้ ตัวหน้าผามีลักษณะเป็นชะง่อนผามีปลายแหลมยื่นออกไปจากแผ่นดินเล็กน้อย

ถือกันว่า ณ ปลายสุดแห่งนี้ คือ จุดสิ้นสุดแผ่นดินอีสานด้านทิศตะวันตก เมื่อเรามองลงไปจากบริเวณหน้าผา จะสามารถชมทิวทัศน์ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา จังหวัดลพบุรี ที่อยู่เบื้องล่างได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ในช่วงเช้าที่นี่ยังเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม และในช่วงเย็นก็เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่มีความสวยงามมากอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย

7. ผาหัวนาค อุทยานแห่งชาติภูแลนคา เป็นจุดที่สูงที่สุดของมอหินขาว จังหวัดชัยภูมิ

ผาหัวนาค ลานหินขนาดใหญ่ บริเวณจุดสูงสุดของ มอหินขาว อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จังหวัด ชัยภูมิ จัดเป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยกนิ้วให้ในเรื่องของความงามของทัศนียภาพและความเสียวของบริเวณหน้าผา เหมาะอย่างยิ่งกับนักท่องเที่ยวที่ชอบความท้าทาย เพราะ ผาแห่งนี้ ประกอบไปด้วย แท่งหินและเสาหินขนาดเล็กกระจายอยู่บนลานหินกว้าง บริเวณโดยรอบจะมีชะง่อนผากระจายอยู่ตลอดแนวสันเขา ตัวหน้าผามีความสูงชัน บริเวณด้านล่างเป็นป่าทึบ เมื่อมองลงมาด้านล่างจะเห็นต้นไม้อยู่ไกลลิบๆ มีขนาดเล็กจิ๋ว ใครที่กลัวความสูงไม่แนะนำให้มาเดินเล่น ณ ริมผาแห่งนี้

8. ผาหำหด อุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัดชัยภูมิ

จุดชมวิวที่โคตรสวยและโคตรเสียว จุดสุดท้ายไปกันที่ ผาชื่อน่ากลัวสำหรับหนุ่มๆ นั่นคือ “ผาหำหด” จุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของ อุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัดชัยภูมิ ตัวหน้าผามีลักษณะเป็นชะง่อนผาคล้ายแผ่นกระดาน ขนาดกว้างประมาณ เมตร X เมตร ยื่นออกไปกลางอากาศ ไม่มีอะไรรองรับเบื้องล่าง ความสูงของชะง่อนผาอยู่ที่ 864 เมตรจากระดับน้ำทะเล เมื่อมองลงไปจะพบกับธรรมชาติป่าเขาสุดลูกหูลูกตา ผาหำหดนี้เดิมชื่อ "ผาน้ำผึ้ง" เนื่องจากใต้หน้าผามีผึ้งมาทำรัง แต่ชาวบ้านได้เปลี่ยนชื่อเป็น "ผาหำหด" จากคำพูดของผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิคนหนึ่ง ที่เคยเดินทางมาที่นี้ แล้วอุทานเนื่องจากความน่าหวาดเสียวว่า "เห็นแล้วหำหดเลย"