9 ปรากฏการณ์ธรรมชาติเมืองไทย สุด Unseen!!

หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง อาหารสมอง 9 ปรากฏการณ์ธรรมชาติเมืองไทย สุด Unseen!!

ขอบคุณเนื้อหาดีๆ และภาพประกอบ
จาก www.painaidii.com

1. ละลานตา ปรากฏการณ์แมงกะพรุนหลากสี (จังหวัดตราด)

สัมผัสความ Amazing สุด Unseen กลางท้องทะเลตราด กับความตระการตาของฝูงแมงกะพรุนถ้วยหลากสีสัน ที่ลอยตัวโชว์ความงดงามระนาบผิวน้ำ เรียกเสียงฮือฮาจากนักท่องเที่ยวได้อย่างมากมาย ที่บ้านไม้รูด อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ซึ่งปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นทุกปีในช่วงปลายฝนต้นหนาว ราวกลางเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ช่วงเวลาที่เหมาะสมจะมายลโฉมคือตอนเช้าตรู่ เพราะน้ำทะเลจะนิ่ง ใส ไม่ค่อยมีคลื่นมากนัก โดยเจ้าแมงกะพรุนจะพบได้หลายสี เช่น สีขาว สีน้ำตาล สีน้ำเงิน หรือแม้แต่สีน้ำตาลหางลาย ใครอยากจะเห็นด้วยตาอย่างใกล้ชิด ก็มีเรืองหางยาวไว้คอยบริการ สนนราคาลำละ 100 บาทเท่านั้น

9 ปรากฏการณ์ธรรมชาติเมืองไทย สุด Unseen!!

2. อัศจรรย์รุ้งกินน้ำ (น้ำตกทีลอเร จังหวัดตาก)

ปรากฏกายของ รุ้งกินน้ำ ที่โค้งตัวเปล่งสีสันงดงามสะท้อนกับแสงแดด ท่ามกลางสายน้ำตกซึ่งกำลังเทลงมาจากผาสูงสู่ห้วยแม่กลองของน้ำตกทีลอเร ในอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก นับเป็นภาพสุดประทับใจ จนทำให้นักท่องเที่ยวทุกคนแทบลืมความเหนื่อยล้า จากการบากบั่น เข้ามาตามหาความสวยตระการตาแสนลึกลับแห่งนี้ โดยต้องล่องแพยางช่วยกันพายผ่านเกาะแก่งต่างๆ ด้วยระยะเวลากว่าครึ่งวัน และพิสูจน์ความทรหดช่วงขากลับ เดินเท้าเข้าป่าผ่านหมู่บ้านกะเหรี่ยงอีก 1 วัน หากอยากสัมผัสเสน่ห์ธรรมชาติหลากสีแบบไม่พลาด แนะนำให้มาช่วง10.00 น. เฉพาะอย่างยิ่งปลายฤดูฝน (เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน) จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยว

3. ทึ่ง! หาดทรายดำ 1 ใน 5 แห่งของโลก! (จังหวัดตราด)

ทันทีที่น้ำลดระดับลง ก็ปรากฏ เวิ้งหาดทรายสีดำทอดยาวกว่า 2 กิโลเมตร จนกลายเป็นความอัศจรรย์หนึ่งเดียวแห่งสยาม และติดอันดับหาดทรายดำ 1 ใน 5 ของโลก (อีก 4 แห่งอยู่ที่ ไต้หวัน, มาเลเซีย(ลังกาวี), ฮาวาย, แคลิฟอร์เนีย) ณ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแหลมมะขาม จังหวัดตราด ซึ่งมีความสมบูรณ์ทางระบบนิเวศน์ และมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง จากลักษณะของหาดทรายแบบป่าชายเลน

โดยกระแสความนิยมของหาดทรายดำ กระฉ่อนสุดๆ เมื่อมีเสียงร่ำลือว่ามีคนหมกตัวในผืนทราย และสามารถรักษาโรคได้ ก่อนพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องโอละพ่อ จนกระแสเริ่มซบเซา กระทั่งปัจจุบันได้รับการฟื้นฟูขึ้นอีกครั้ง มีสะพานไม้ให้เดินทอดน่องชมบรรยากาศป่าชายเลน และพิสูจน์ความพิศวงของหาดทรายดำแห่งนี้ได้อย่างสะดวกสบาย

4. อัศจรรย์สันทรายมหึมา หนึ่งเดียวในไทย!

สุดเหลือเชื่อ! กับความอลังการของเนินสันทรายขนาดมหึมา ตั้งอยู่ในบ้านบางเบิด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และพื้นที่รอยต่ออำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เกิดจากการยกตัวของชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตะกอนในทะเลที่สะสมตัวอย่างยาวนานโผล่ขึ้นมา ก่อเป็นแนวเนินทรายยาว ขณะที่ชายฝั่งบริเวณนี้ตั้งอยู่ในเขตร่องมรสุมพัดผ่านเป็นประจำ จนนำเอาเม็ดทรายปลิวมาทับถมกันนับพันๆ ปี กลายเป็นภูเขาสูงเทียบตึก 3 ชั้น ราวกับอยู่ในทะเลทราย ซึ่งแม้จะเทียบเคียงไม่ได้กับบางแห่งในต่างประเทศ แต่ก็นับเป็นสันทรายที่สร้างความน่าทึ่งได้มากที่สุดในประเทศไทย!

5. ฝ่ามือพระพุทธเจ้า จากปะติมากรธรรมชาติ (เกาะง่ามใหญ่ ชุมพร)

ปะติมากรรมผาหินธรรมชาติสุดอลังการ ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเส้นทางระหว่างเกาะง่ามใหญ่ และเกาะง่ามน้อย จังหวัดชุมพร ลักษณะเป็นหินสีเหลือง สูงประมาณ 50 เมตร บริเวณยอดหน้าผามีรอยแยกลึกมองดูคล้ายนิ้วมือ 4 นิ้ว และด้านล่างยังมีหินงอกขึ้นมาคล้ายนิ้วโป้งอย่างน่าอัศจรรย์ จนหลายคนเปรียบว่าเป็นฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธเจ้า และเป็นที่เคารพสักการะสำหรับชาวประมง ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยคุ้มครองให้พ้นจากภัยอันตรายทั้งหลาย นอกจากนี้ยังถูกใช้เป็นสถานที่หลบพายุ รวมถึงเป็นจุดหมายในการมาดำน้ำชมปะการัง และดูปลาสวยงามที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง

6. ย่ำแดนพิศวง ท่าปอมคลองสองน้ำ (จังหวัดกระบี่)

ผลลัพธ์สุดพิศวงของระบบนิเวศแห่งนี้ เมื่อน้ำทะเลหนุนขึ้นสูงแล้วเข้ามาผสมกับน้ำจืดในคลองท่าปอม ก็จะกลายเป็นคลองน้ำกร่อยที่มีสีฟ้าค่อนข้างขุ่น แต่จากนั้นไม่นานนัก น้ำทะเลก็จะถูกแทนที่ด้วยน้ำจืดสีเขียวใสแจ๋วราวกระจกนอกจากนี้คลองท่าปอมยังมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง จึงเป็นที่อยู่อาศัยของทั้งปลาน้ำจืดและน้ำกร่อย มีธารน้ำใสไหลเย็นให้เดินเล่นสบายๆ โดยตลอดทางจะเป็นป่าพรุไปจนถึงศาลาเล่นน้ำ-จุดพักชมวิว อีกเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ คือรากไม้ที่คดเคี้ยวแตกแขนงอย่างงดงาม เพราะไม้ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่ในสภาพดินชุ่มน้ำ ง่ายต่อการโค่นล้ม จึงต้องมีรากที่แผ่กว้างเป็นฐานยึดเกาะค้ำยัน แถมรากไม้เหล่านี้ยังช่วยสร้างบรรยากาศให้ริมสองฝั่งคลองท่าปอมดูแปลกตายิ่งขึ้น

7. อลังการหินพับผ้า แพนเค้กร็อคเมืองไทย

ปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาของแผ่นหินกลางทะเลอายุกว่า 250 ล้านปี ซึ่งไล่เรียงเป็นแถวยาวซ้อนกันเป็นชั้นๆ ที่เกาะท่าไร่ เกาะนุ้ยนอกและเขาหลักซอ อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช และพื้นที่รอยต่ออำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฏร์ธานี ซึ่งเกิดจากกระบวนการตกตะกอนของหิน ที่มีส่วนประกอบและความแข็งต่างกันในแต่ละชั้น ต่อมามีการเอียงและยกตัวของเปลือกโลกจนชั้นหินเกิดเป็นหน้าผาขึ้น เมื่อถูกกระแสน้ำและลม กัดกร่อนเอาชั้นที่อ่อนออกไป เหลือเพียงชั้นที่แข็งแกร่งกว่า จึงทำให้ดูเหมือนแผ่นหินมีการซ้อนกันเป็นชั้นๆ คล้ายขนมชั้นหรือผ้าพับไว้ จึงเป็นที่มาของชื่อ หินพับผ้า เมื่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเห็นก็มักจะบอกว่าดูคล้ายกับ Pancake rock ที่เมือง Punakaiki ประเทศนิวซีแลนด์ กระทั่งกลายเป็นสมญาของแผ่นหินแห่งนี้ว่า แพนเค้ก ร็อค เมืองไทย

8. พิสูจน์ความแปลก น้ำตกน้ำเค็ม (อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง)

หากคิดว่าน้ำตกน้ำอุ่นแปลกที่สุดแล้ว ขอให้เก็บไอเดียนั้นใส่ลิ้นชัก เพราะน้ำตกน้ำเค็มแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ก็สร้างความฉงนให้นักท่องเที่ยวได้ไม่แพ้กัน น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางผืนป่าชายเลนขนาดใหญ่ ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ โดยในช่วงที่น้ำลงจะมีลานทรายกว้าง ซึ่งฝูงนกทะเลจำนวนมากมักจะบินไปหากินหรืออยู่อาศัย จนชาวบ้านเรียกน้ำตกดังกล่าวว่า "สายนบยักษ์" หมายถึงการทำนบที่มีขนาดใหญ่ และเกิดขึ้นตามธรรมชาติ

ส่วนในช่วงน้ำทะเลขึ้น แม่น้ำปะเหลียนจะไหลเข้าจนท่วมพื้นที่แห่งนี้ แต่เมื่อช่วงน้ำทะเลลงในเวลา06.00-08.00 น. และ เวลา 17.00-18.00 น. จะมีน้ำเค็มจากคลองทุ่งค่าย ไหลลงสู่แม่น้ำปะเหลียนและทะเลอันดามันจำนวนมาก ซึ่งต้องผ่านโขดหินขนาดใหญ่ จนเห็นเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมาก เฉพาะอย่างยิ่งในยามที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า บรรยากาศจะดีสุดๆ

9. ตะลึงกับตา! ปรากฏการณ์ตะวันอ้อมโขง

คล้อยสู่ ช่วงฤดูหนาว (ประมาณต้นเดือนธันวาคม-ปลายเดือนมกราคม) ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม จะเกิดปรากฏการณ์ตะวันอ้อมโขง หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ตะวันยิ้ม เป็นประจำทุกปี โดยจะเกิดขึ้นด้านฝั่งประเทศลาว อยู่ตรงข้ามกับอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ซึ่งจะดูได้ชัดเจนบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ตั้งแต่บ้านกุม – บ้านตามุย ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งปรากฏการณ์ตะวันอ้อมโขงเกิดจากดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวและขึ้นทางตะวันออกเฉียงใต้ที่เข็ม 114 องศา และตกที่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่เข็ม 246 องศา ทำให้ช่วงนั้นสามารถเห็นดวงอาทิตย์ที่ทำมุมน้อยกว่า 180 องศา