1. เสียงเย็นยะเยือกไร้ชีวิตชีวาของ Siri 

เราคิดว่าไม่มีอะไรอีกแล้วในโลกเทคโนโลยีที่น่ากลัวกว่าเสียงราบเรียบไร้ชีวิตชีวาของ Siri ถ้ามีก็คงจะเป็นเสียงของบ้านคอมพิวเตอร์ที่รับความรู้สึกได้และมีเพศสัมพันธ์กับผู้อยู่อาศัยใน Demon Seed แต่คนจำนวนไม่มากที่เคยดูหนังเรื่องนั้น ถ้าหากเราประสบอุบัติเหตุรถชนและพยายามใช้มือข้างเดียวที่ไม่หักตะเกียกตะกายหยิบ iPhone ที่อยู่ในสภาพเละเทะเพื่อขอให้ผู้ช่วยส่วนตัวที่ทำงานด้วยเสียงพูดนี้ช่วยเรียก ambulance (รถพยาบาล) มาหน่อย เราเชื่อว่ามันจะเล่นเพลง Ambulance ของ Blur แทน ขณะที่หน้าจอเป็นสีดำสนิทสิ่งสุดท้ายที่เราจะได้ยินคือเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ของ Siri ว่า ‘ไม่มีใครมาช่วยคุณค่ะ'

2. ประวัติอันน่าสยดสยองของสิ่งต่างๆ ใน Resident Evil

เรายอมรับว่าเกมต่างๆ ของ Capcom ตอนนี้กระตุ้นให้เกิดเสียงถอนหายใจมากกว่าเสียงความหวาดกลัว แต่ลองบอกเราซิว่าผู้ชายคนไหนที่บอกว่าเขาไม่เคยกรีดร้องอย่างไร้สติขณะโดนเจ้า Garrador ใน Resident Evil 4 ตะครุบ โดนเจ้า Nemesis ใน RE3 ไล่ล่าอย่างไม่ลดละ เจ้า Licker หล่นตุ้บลงมาจากเพดานใน RE2 หรือทนกับบทสนทนาทุกประโยคในภาคแรกแล้วเราจะชี้หน้าเรียกเขาว่าคนโกหกให้ดู

ขนมปังเด้งออกจากตะแกรงยังคงทำให้เรากระโดดเหยงราวกับถูกปืนลูกซองยิงเข้ากระดูกสันหลัง และนั่นก่อนความกลัวว่าวันหนึ่งมันอาจจะเผาบ้านวอดวายทั้งหลัง เพราะเราดันไปปิดเครื่องตรวจจับควันเนื่องจากมันส่งเสียงดังง่ายเกินไป เรียกว่าแค่เอาขนมปังข้าวสาลีเข้ามาใกล้ๆ เครื่องเท่านั้นแหละก็ดังลั่นแล้ว

4. FaceTime โดยบังเอิญ

เรากำลังนั่งผ่อนคลายสบายอารมณ์บนโซฟาโดยใช้หน้าท้องเป็นถาดวางโน้ตบุ๊ค MacBook คล้ายบรรดาหัวหน้า หรือบอสพุงพลุ้ย ทันใดนั้นเองภาพผู้ชายคางสามชั้นของตัวเราเองก็ปรากฏอย่างคมชัดแบบ HD จ้องมองกลับมา ‘ไอ้อ้วน Shaun Ryder มาทำอะไรในคอมพิวเตอร์ของเรานั่นน่ะ!' เราคิดในใจก่อนจะรู้ว่าเราเผลอแตะโดนไอคอน FaceTime โดยไม่ตั้งใจและวิตกกังวลว่าคนใน contact ทั้งหมดอาจมองเห็นว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ที่บ้าน

5. เครื่องหั่นผัก Mandolin

เครื่องหั่นผักตัวนี้เป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการกำจัดลายนิ้วมือของคุณ เหมือนกับ Kevin Spacey ใน Seven ไง ถ้าใครกระเดือกไวน์แก้วโตสักสองสามแก้ว รับรองว่าจะไม่รู้เลยว่าปลายแครอตสิ้นสุดตรงจุดไหนและนิ้วโป้งเริ่มต้นตรงที่ใด จนนิ้วถูกหั่นถึงข้อนั่นแหละถึงได้ร้องจ๊าก หลังจากนั้นก็คงจะหยิบจับใช้งานรีโมทกล่องเคเบิลได้ลำบากขึ้น

6. ปุ่ม ‘Like' บนแอพพลิเคชั่น Facebook

ตีหนึ่งแล้วและเราเผลอกด like ภาพโปรไฟล์ของแฟนเก่าจากปี 2009 ทุกคนคงคิดว่าเรานั้นเหงาเปล่าเปลี่ยวหัวใจ มีปัญหาทางจิตและคงจะเฝ้าติดตามแฟนเก่าทุกฝีก้าว ทำไม Facebook ถึงได้วางปุ่มบ้าๆ นั้นใกล้กับนิ้วโป้งอวบอ้วนของเราขนาดนี้นะ

7. หุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่น

คุณรู้ว่ามันกำลังวางแผนอะไรบางอย่างขณะเคลื่อนตัวไปทั่วห้อง ในปี 2021 ถ้าพวกมันลุกฮือขึ้นมาต่อต้านมนุษย์ละก็สภาพเหตุการณ์จะคล้าย The Teminator เลยทีเดียว ถ้า Arnie และพรรคพวกติดนิสัยชอบติดแหง็กใต้ตู้เสื้อผ้า วิ่งชนมุมห้องไปไหนไม่ได้และดูดเศษขนมปังกรอบจากพื้นได้แค่ 45 เปอร์เซ็นต์

8.  PS3 รุ่นแรก

ใครก็ตามที่เคยมีเครื่องเล่นบิ๊กเบิ้มพร้อมรูปแบบตัวอักษรเหมือนหนัง Spider-Man ตรงกลางเครื่องตัวนี้คงจะเคยเจอะเจอเหตุการณ์คล้ายฝันร้ายอย่างที่เราเคยเจอ ก็ตื่นขึ้นมากลางดึกห้องมืดสนิทหลังจากเล่นเกม GTA IV และเผลอหลับไปหลายชั่วโมง เสียงที่เราได้ยินนั้นฟังแล้วขนลุกซู่ด้วยความกลัว ขณะงัวเงียๆ เราไม่รู้ว่ามันคือเสียงอะไร แต่เสียงเครื่อง PS3 ที่ทำงานอย่างเหนื่อยล้าและร้อนจัดฟังคล้ายเสียงเลื่อยวงเดือนกำลังเลื่อยเครื่องเป่าผมอย่างบ้าคลั่ง

9. อะไรก็ตามที่มีดวงไฟสีน้ำเงิน

มันเป็นสีของหลอดไฟแอลอีดีที่กำลังเป็นที่นิยมและทำให้เครื่องเล่นบลูเรย์ กล่องเคเบิลและอะไรก็ตามที่ผลิตโดย Pioneer ดูมุ่งร้าย เรารู้สึกว่าพวกมันอาจดูดเราเข้าไปในอีกโลกหนึ่งที่คล้าย Tron ได้ทุกเมื่อ ซึ่งที่นั่นเราจะต้องต่อสู้กับไซบอร์กเรืองแสงจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง เรามั่นใจว่าพวกมันสามารถมองเห็นจิตใจเราอย่างทะลุปรุโปร่งอีกด้วย เอาผ้าปูโต๊ะไปคลุมเครื่องซะเลยดีกว่า...

10. เสื้อสวมเล่นเกม 

แจ็กเก็ตติดตั้งระบบสั่นในตัวให้ความรู้สึกคล้ายการนำระบบสั่นในจอยแพดมาขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้น เราสงสัยว่าวงจรไฟฟ้าของระบบเหล่านั้นจะลัดวงจรและหดตัวคล้ายสายรัดแขนสำหรับวัดความดันโลหิตจนร่างกายเราแตกโพละเหมือนกระป๋องผักขมของ Popeye ได้มั้ย เราไม่กล้าสวมแจ็กเก็ตประเภทนั้น เพราะเราไม่แน่ใจเลยจริงๆ มีอะไรอย่างอื่นอีกเยอะแยะที่ทดแทนความสนุกในส่วนนั้นได้ ก็อาจจะนอนกอดแฟนแทนก็ได้ไง

สนับสนุนเนื้อหา