เจ้าของน้องหมาถูกตัดขาโร่แจงการรักษา

         ล่าสุด น.ส.อรัญญา สุระบุตร เจ้าของสุนัข ได้ออกมาโพสตอบข้อสงสัยในกรณีดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กชื่อ Rundevil Mirun ว่า
 
          “หมดแรง แขนขาอ่อนแรงไปพักไหญ่ เหตุเกิดจากการที่น้องหมาโดนทำร้ายที่บ้าน วันเกิดเหตุอยู่บ้านคนเดียว วันอังคารที่ 19  พบสุนัขในสภาพทรุด ตัวเปียกมอมแมม ข้างๆตัวเค้ามีกองน้ำสีเขียว และรอยเลือดปนเล็กน้อย จึงรีบไปโรงบาลเพื่อทำการล้างท้อง แต่หมอบอกขอดูอาการก่อน ช่วงบ่ายหมอโทรมาบอกว่าสุนัขปลอดภัยแล้ว ตอนนั้นมีอาการบวมที่ขาหน่อยนึงอาจจะเป็นเพราะโดนน้ำยากัดเวลาจับไปที่ขาจะร้องและแสดงอาการขู่ ไม่ยอมไห้จับ ยังขยับลุกขึ้นมาเดินเหยาะเองได้บ้าง แต่เดินแปปเดียว  ตกเย็น วันที่20 น้องยังนอนซึมไม่ลุกเดิน วันที่ 21 พาไปโรงบาลเพื่อไห้หมอตรวจอีกรอบตอนเช้า หมอโกนขนขาออก เห็นรอยแผลตรงบริเวณขาหน้าด้านในทั้ง2ข้าง หมอวินิจฉัยว่าแผลเกิดจากการโดนเฉือนด้วยของมีคม ต่อมาพบว่าขาหลังและบริเวณอัณฑะมีรอยเลือดที่เริ่มซึมออกมา หมอจึงโกนขนขา2ขาหลัง ก้อเจอรอยเหมือนโดนของมีคม เฉือนหรือปาด ตรงขาด้านใน และตรงใข่  หมอแจ้งว่าไม่ใช่แผลไหม่น่าจะเกิดขึ้นพร้อมกัน  จึงได้รีบไปแจ้งความกับตำรวจและได้ขอใบคำวินิจฉัยจากหมอว่าน้องโดนทำร้ายด้วยน้ำยาล้างห้องน้ำและของมีคมไปไห้ตำรวจด้วย”

จากการสอบถามไปยังโรงพยาบาลสัตว์นวมินทร์ นายสัตวแพทย์เทียร ทองก้อนใหญ่ แพทย์ที่ให้การรักษาสุนัขตัวดังกล่าว เปิดเผยว่า

            “วันที่ 19 สุนัขยังไม่มีแผลที่ขาหน้าทั้งสองข้าง แต่ขาหน้าข้างขวามีอาการบวมแดง จึงแทงน้ำเกลือเข้าที่ขาหน้าข้างซ้ายแทนซึ่งจำเป็นต้องมีการโกนขนซึ่งไม่พบบาดแผลใดๆ

วันที่ 21 เจ้าของพาสุนัขมาพบด้วยสภาพมีแผลเป็นแนวยาวตามขาสุนัขจากข้อศอกถึงข้อเท้าทั้งสองข้างความยาวประมาณ 5-6 เซนติเมตร ซึ่งถ้าสุนัขมีบาดแผลตั้งแต่ครั้งแรกที่มาพบหมอจะต้องสังเกตุเห็นแผลดังกล่าวอย่างแน่นอน แผลที่พบมีลักษณะถูกของมีคมเฉียน แต่ไม่มีเลือดหรือหนองแสดงว่าต้องโดยกระทำมา 1-2 วัน เนื้อเริ่มตายจึงจำเป็นต้องตัดเนื้อทิ้ง ส่วนขาหลังทั้งสองข้างและลูกอัณฑะมาพบบาดแผลในวันที่ 22 ซึ่งบาดแผลมีลักษณะเช่นเดียวกับขาหน้า จากการสังเกตุลักษณะนิสัยส่วนตัวของสุนัขค่อยข้างดุ ไม่ยอมให้จับง่ายๆต้องวางยาในการรักษา แต่สุนัขไม่มีอาการกลัวเจ้าของ ยอมให้อุ้มตามปกติ ซึ่งหากเจ้าของเป็นผู้ทำร้ายสุนัขจริงก็น่าจะมีอาการหวาดกลัวหรือขู่กรรโชกบ้าง” นายสัตวแพทย์เทียร กล่าว.