10 อาหารเพื่อสุขภาพปากและฟัน

หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง อาหารสมอง 10 อาหารเพื่อสุขภาพปากและฟัน

สุขภาพภายในช่องปากเป็นสิ่งหนึ่งที่เราต้องให้ความสำคัญนะคะ เพราะ ทุกวันเราต้องพูดคุย สื่อสาร กันตลอดเวลา การสุขภาพปากที่ดี มีรอยยิ้มที่สดใส เป็นใครก็อยากมอง อยากคุยด้วย จากข้อมูลของ American Academy of Cosmetic Dentistry พบว่าอาหารบางประเภทจะช่วยทำให้ฟันขาวสะอาดรวมทั้งป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่อาจส่งผลกระทบต่อฟันและเหงือก ดังนั้นในวันนี้เรามีอาหาร 10 ชนิดมาแนะนำให้ทุกคนได้รับประทานกันค่ะ

1.สับปะรด

จากผลการวิจัยพบมา สับปะรดมีส่วนช่วยให้ฟันขาวขึ้น โดยเอ็นไซม์โบรมีเลนจะทำหน้าที่เป็นตัวกำจัดคราบตามธรรมชาติ นอกจากนี้สับปะรดยังช่วยระงับการเกิดหินปูนสะสมได้อีกด้วย

2.ขิง

จะช่วยป้องกันการเกิดโรคปริทันต์ซึ่งทำลายกระดูกเบ้าฟันและเนื้อเยื่อในช่องปาก โดยจะทำหน้าที่เสมือนยาแก้อักเสบ

3.แครอท

แครอทมีสารอาหารที่มีประโบชน์หลายด้านมาก วิตามินเอช่วยให้ฟันแข็งแรง การรับประทานแครอทดิบจะไปกระตุ้นต่อมน้ำลาย ซึ่งจะช่วยทำความสะอาดฟันตามธรรมชาติ

4.ใบกระเพรา

เป็นยาปฏิชีวนะตามธรรมชาติ โดยน้ำมันหอมระเหย, กรดรอสมารินิก, สาร Linalool และกรดโอลีโนอิกของใบกะเพราจะชะลอการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย

5.ชีส

อุดมด้วยโปรตีน, แคลเซี่ยม และฟอสฟอรัส ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยลดกรดในช่องปาก ขณะที่กระบวนการคืนแร่ธาตุแคลเซี่ยมกับฟอสฟอรัสจะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในฟันของคุณ

6.งา

จะช่วยขจัดคราบหินปูนบนฟันให้หายไป นอกจากนี้แคลเซี่ยมในงาจะทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง

7.เห็ดชิตาเกะ หรือ เห็ดหอม

มีส่วนประกอบที่เรียกว่า เลนติแนน ซึ่งจะช่วยชะลอการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปาก

8.หอมใหญ่

มีส่วนประกอบของซัลเฟอร์, ไธโอซัลฟิเนท และไธโอซัลโฟเนท ซึ่งช่วยลดปริมาณแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของฟันผุ การรับประทานแบบสดจะให้ผลดีที่สุด เนื่องจากเมื่อนำไปปรุงอาหาร ส่วนประกอบที่เป็นประโยชน์ต่อฟันก็จะถูกทำลายไป หรือหากไม่ชอบหอมใหญ่ กระเทียมก็มีประโยชน์ไม่ต่างกัน

9.ปลาแซลมอน

มีทั้งแคลเซี่ยมและวิตามินดี สารอาหารที่จำเป็นต่อกระดูกและฟัน

10.บร็อคโคลี่

ธาตุเหล็กในบร็อคโคลี่จะช่วยลดความเป็นกรดและปกป้องฟัน

อาหารแต่ละชนิดที่แนะนำมานี้ต่างก็มีประโยชน์กับร่างกายในทุกส่วนเลยนะคะ เลือกรับประทานกันตามชอบได้เลย ลองนำมาทำเมนูใหม่ๆ ที่ใช้อาหารเหล่านี้เป็นส่วนประกอบก็ได้ค่ะ จะได้รับคุณค่าสารอาหารครบทุกด้านเลย

เกริ่นนำโดยที่นี่ดอทคอม

ขอบคุณข้อมูลจาก :: issue247.com