7 วิธีชาร์จแบตให้ดี และการป้องกันแบตเตอร์รี่เสื่อม
ปัจจุบันนี้เราใช้งานโทรศัพท์มือถือและแท็บเบล็ตกันมากและบ่อยขึ้น ทำให้การใช้งานแบตตเตอร์รี่มากไปด้วย ผลที่ตามมาคือ แบตหมดเร็วและแบตเสื่อม ทำให้หลายๆ คนต้องหาแบตเตอร์รี่สำรอง หรือสายชาร์จเตรียมเอาไว้ เผื่อในกรณีฉุกเเฉิน
แต่จะว่าไปราคาของแบตสำรองหรือ Power Bank นั้นก็มีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้นเราจึงขอนำเสนอวิธีการชาร์จแบบให้เต็มเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมแนะเทคนิคการดูแลรักษาแบตเตอร์รี่ไม่ให้เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร
วิธีการชาร์จแบตเตอร์รี่ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดทำได้ง่ายๆ ดังนี้
1.เปิดใช้งานโหมด Airplane ในขณะชาร์จแบต จะทำให้แบตเต็มเร็วขึ้น เนื่องจากเราไม่ได้ใช้พลังงานจากการเชื่อมต่อใดๆ เลย แบตจึงเต็มเร็วนั่นเอง
2.ใช้อแดปเตอร์มาตรฐานที่มาพร้อมเครื่อง และหลีกเลี่ยงการชาร์จจากพอร์ต USB บนเครื่องคอมพิวเตอร์ เพราะใช้อแดปเตอร์มาตรฐานที่มาพร้อมเครื่องนั้นมีกำลังการจ่ายไฟที่มากกว่าพอร์ต USB จากเครื่องคอมพิวเตอร์นั่นเอง
3.เปลี่ยนไปใช้อแดปเตอร์ชาร์จที่จ่ายกระแสไฟได้มากขึ้น เนื่องจากการชาร์จแท็บเบล็ตนั้นต้องการกำลังไฟมากกว่าโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นหากเรานำอแดปเตอร์ของแท็บเบล็ตไปใช้กับมือถือก็จะชาร์จได้เร็วขึ้น แต่ถ้าหากเรานำอแดปเตอร์ของมือถือมาใช้กับแท็บเบล็ตก็จะช้าลง ดังนั้นควรเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการ
4.ชาร์จผ่านพอร์ต USB บนเครื่อง Mac สำหรับผู้ใช้ iPhone และ iPad เราสามารถนำ iPhone และ iPad มาชาร์จผ่านพอร์ต USB บนเครื่อง Mac ได้ทันที โดยเครื่อง Mac จะตรวจสอบอุปกรณ์เชื่อมต่อให้ทันที และจะเพิ่มการจ่ายกระแสไฟฟ้าผ่านพอร์ต USB ให้มากขึ้นเป็น 1.1 แอมป์ อีกด้วย เพื่อการชาร์จได้อย่างรวดเร็วขึ้น
5. ใช้ซอฟแวร์ช่วยในการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แรงขึ้น เป็นที่ทราบกันว่าพอร์ต USB บนเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 0.5 - 0.9 แอมป์ แต่ล่าสุดมีผู้ผลิตเมนบอร์ดคอมพิวเตอร์หลายรายได้ออกแบบซอฟแวร์เพื่อช่วยให้พอร์ต USB บนเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้น
6.ChargeDr อุปกรณ์เพิ่มความเร็วสำหรับการชาร์จผ่านพอร์ต USB และยังช่วยเพิ่มการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้มากขึ้นเพื่อเหมาะแก่การนำไปชาร์จกับแท็บเล็ตได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยอุปกรณ์ดังกล่าวมีวางจำหน่ายในราคาประมาณ 640 บาท ($20)
7.ทางเลือกที่ประหยัดกว่า สาย micro USB แบบพิเศษ สามารถเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ต USB ได้พร้อมกันถึง 2 พอร์ต เพื่อการจ่ายกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้นเป็นเท่าตัว ผลลัพธ์ที่ได้คือการชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
เมื่อรู้วิธีการชารจ์แบตเตอร์รี่ให้ได้ประสิทธิภาพเต็มเปี่ยมกันไปแล้ว ต่อไปนี้เราก็ต้องรู้จักดูแล ถนอนแบตเตอร์รี่เราสักหน่อย เพื่อป้องกันไม่ให้แบตเสื่อมก่อนเวลาอันควร วิธีการก็ไม่ยาก สามารถทำได้ดังนี้
1.อย่าทำให้ตัวเครื่องร้อนเกินไป เพราะ ความร้อน คือศัตรูสำคัญของแบตเตอรี่แบบ Li-ion ยิ่งตัวเครื่องร้อนมากเท่าไหร่ จะยิ่งลดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งมีข้อมูลระบุว่า อุณหภูมิที่ 32 องศาฟาเรนไฮต์ จะลดประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ลง 6% ต่อปี, 77 องศา ลดลง 20% และ 104 องศา ลดลง 35% ต่อปี
2.หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย จริงอยู่ว่าที่ชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย ช่วยอำนวยความสะดวกในการชาร์จได้ แต่จริงๆ แล้ว การชาร์จแบบนี้ จะทำให้ตัวเครื่องร้อนตลอดเวลาขณะที่เราชาร์จ พูดง่ายๆ ก็คือ เหมือนเรากำลังเอา สมาร์ทโฟน เข้าเตาอบ นั่นเอง ซึ่งการชาร์จแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดก็คือ การเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จ
3.อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยง แบตเตอรี่แบบ Li-ion นั้น ไม่ควรใช้งานจนปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยง เพราะนั่นก็คือวิธีการทำลายอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้สั้นลง ทำให้ตัวแบตเตอรี่เกิดความไม่เสถียร และเป็นอันตรายขณะชาร์จนั่นเอง
4.อย่าชาร์จทิ้งไว้ทั้งคืน อีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมลงได้ง่ายๆ นั่นก็คือ การชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้ทั้งคืน ถ้าเมื่อใดก็ตามที่พบว่า ตัวเครื่องได้ถูกชาร์จแบตจนเต็มแล้ว ให้ถอดปลั๊กออกทันที จะช่วยยืดอายุของแบตเตอรี่ได้นานขึ้นอีก
รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมนำเทคนิคดีๆ ที่เรานำมาฝากไปใช้กันนะคะ เพราะโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเบล็ตเครื่องนึงก็ไม่ใช่ราคาถูกๆ เพื่อการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคุณภาพที่ดียาวนานตลอดอายุการใช้งานของเรา ดูแลรักษาให้ถูกวิธีดีกว่าค่ะ
เรียบเรียงโดยที่นี่ดอทคอม
ขอบคุณข้อมูลจาก :: news.siamphone.com , www.techmoblog.com
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!