อึ้ง“แท็กซี่โชห่วย” สีสันหลังพวงมาลัย
จะเรียกว่าเป็น 'แท็กซี่เซเลบ' หรือ 'ซุปตาร์แห่งวงการแท็กซี่มิเตอร์' ก็คงไม่เวอร์เกินไปนัก
เพราะนาทีนี้ ชื่อของ 'พี่หิน แท็กซี่' หรือ ณรงค์ สายรัตน์ โชเฟอร์หนุ่มใหญ่วัย 47 เจ้าของรถแท็กซี่มิเตอร์สีฟ้าทะเบียน ทม 9569 กำลังโด่งดังเป็นที่เลื่องลืออย่างกว้างขวางในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก ไอเดียแปลกแหวกแนว น่าทึ่ง ไม่เหมือนแท็กซี่คันอื่น ด้วยการเนรมิตรถของตัวเองให้เป็น ‘ร้านโชห่วยเคลื่อนที่’ ชนิดที่ว่ามีตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบเลยทีเดียว
ไม่ว่าจะนิตยสารบันเทิง หนังสือพิมพ์หัวสีให้อ่าน ขนมขบเคี้ยวโดโซะ เวเฟอร์สอดไส้ครีมตราเซี่ยงไฮ้ ขนมปังบิสกิตโอริโอ้ มันฝรั่งอบกรอบเรย์ ลูกอมชูปาชู้ปส์ หมากฝรั่งเดนทีนส์ เมล็ดทานตะวัน สาหร่ายอบกรอบตราเถ้าแก่น้อย มาม่าคัพ โจ๊กคัพ ไข่ต้มซีพี กาแฟ-โอวิลตินซองพร้อมกระติกน้ำร้อน หวี กิฟท์ติดผม เจลจัดแต่งทรงผม กรรไกรตัดเล็บและยาทาเล็บสารพัดสี ยาฉีดกันยุงซอฟท์เฟล ยาดมยาหม่อง ปลากระป๋องตราสามแม่ครัว ม่ครัว สก็อตเทป ถังดับเพลิง แชมพูสระผม สบู่ ยาสีฟัน เจลหล่อลื่นเควาย ถุงยางอนามัย ยาคุมฉุกเฉิน จนถึงชุดครกพร้อมสาก และอื่นๆอีกมากมายไม่หวาดไม่ไหว
“ทำมาได้ 8 ปีแล้วครับ จุดเริ่มต้นมาจากวันหนึ่งขณะขับรถเข้าหมู่บ้าน ผ่านป้อมยามเพื่อแลกบัตร ก็หยิบลูกอมที่พกติดรถไว้ยื่นให้ยาม “เอ้า ลูกอมหน่อยครับลูกพี่ สดชื่นๆ” แค่ประโยคเดียวทำให้เกิดรอยยิ้ม เกิดความประทับใจ ตั้งแต่นั้นมาเราเลยคิดที่จะเอาเงินทอนที่ผู้โดยสารให้เป็นทิปรวบรวมไปซื้อของกิน ขนมนมเนย ของใช้เล็กๆน้อยๆมาแจก ซื้อไปซื้อมากลายเป็นเต็มเอี้ยด เหมือนซูเปอร์มาร์เก็ตไปแล้ว” โชเฟอร์คนดังยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวสะอาดตัดกับสีผิวดำมะเมื่อม วันนี้เขาแต่งตัวหล่อเฟี้ยวด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงแสลค รองเท้าหนังขัดเงาวับ ดีอกดีใจที่มีนักข่าวมาสัมภาษณ์
ณรงค์เล่าอย่างซื่อๆไม่ปิดบังว่าเขาเป็นคนอ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ โตมาในครอบครัวยากจน ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือด้วยซ้ำ แต่กัดฟันดิ้นรนทำงานหนักจนสามารถยืนบนลำแข็งตัวเองได้อย่างไม่อายใคร “กว่าผมจะขับรถเป็น กว่าจะสอบใบขับขี่สาธารณะที่ยากแสนยากมาได้ ต้องใช้ความมุ่งมั่นมากกว่าคนอื่นหลายเท่า สมัยก่อนผมอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ป้ายเครื่องหมายจราจรต่างๆต้องใช้จำเอา ป้ายห้ามจอดยังนึกว่าซอยตัน (หัวเราะ) แต่ผมยึดหลักว่าถ้ายึดอาชีพขับแท็กซี่ ขอให้เราขับรถให้ดี มีอัธยาศัยดี พูดจาดีกับผู้โดยสาร ยังไงก็อยู่ได้ครับ”
หลายคนไม่เชื่อว่ามีแท็กซี่แบบนี้จึงไม่กล้าหยิบกินหยิบใช้ บ้างนึกว่าเพี้ยนไม่กล้าขึ้นรถก็มี
“ต่างคนต่างจิตต่างใจครับ คนขับตัวดำๆ รถรุงรังหยั่งกับร้านโชห่วย เขากลัวก็ไม่แปลก ผมก็ยิ้มๆ ไม่ซีเรียส แต่พอผู้โดยสารลองได้ขึ้นมานั่ง ได้คุย เห็นความตั้งใจผม ความกลัวกลายเป็นความไว้วางใจ สุดท้ายลงจากรถไปพร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแทบร้อยทั้งร้อยเลยครับ” ข่าวไม่สู้ดีเกี่ยวกับแวดวงแท็กซี่มิเตอร์ ทั้งปฏิเสธผู้โดยสาร พูดจาหยาบคาย ไม่ทอนเงิน ไล่ลงกลางทาง ถึงขั้นจี้ปล้นทำร้ายร่างกาย ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของคนขับแท็กซี่ไม่ต่างอะไรจากผู้ร้าย ณรงค์ยืนยันว่าไม่มีผลอะไรต่อชีวิตเขาเลยแม้แต่น้อย "เดี๋ยวนี้มีพวกที่แฝงตัวเข้ามาหาประโยชน์ทางมิชอบในอาชีพแท็กซี่มิเตอร์กันเยอะ เลยพลอยทำให้คนขับแท็กซี่ดีๆหากินลำบากไปด้วย แต่คุณเชื่อมั้ย ยิ่งมีข่าวแย่ๆออกมา พอเจอแท็กซี่อย่างผม คนยิ่งรุมตอมกันหึ่ง เขาบอกว่าแท็กซี่ดีๆหายาก (ยิ้ม)
ผมไม่เคยทำหน้าบูดบึ้ง ใครเรียกไปไหนไปหมด บางทีขึ้นมา 3-4 คนลงคนละที่ ผมก็ไม่กดมิเตอร์ใหม่ คิดเสียว่าผู้โดยสารขึ้นมาแล้ว เราต้องให้เขานั่งอย่างสบายใจที่สุดและถึงที่หมายอย่างปลอดภัย" หลังจากเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ไม่ว่ารถแท็กซี่มิเตอร์คันนี้จะไปทางไหนก็มักจะมีคนมุงดูราวกับมหรสพ บางคนเปิดกระจกยกนิ้วโป้งชื่นชม เรื่องขอถ่ายรูปนี่ไม่ต้องถาม ถือเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ถึงขนาดมีทีวีเชิญไปออกการ เดินสายบรรยายตามสถาบันต่างๆ ถูกยกย่องให้เป็น Unseen Thailand ในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ สถานะวันนี้ไม่ต่างอะไรจากไอดอล
“สิ่งที่ทำให้ผมชื่นใจมากที่สุดก็คือ หลังหยิบของไป ลูกค้าทุกคนจะจ่ายค่าโดยสารเกินทุกครั้ง เหมือนเป็นการให้ทิปเพื่อนำเงินตรงนี้ไปซื้อของมาเติมใส่รถให้ลูกค้าคนอื่นได้หยิบกันต่อ บทเรียนนี้สอนให้ผมรู้ว่าพื้นฐานคนไทยเราเป็นคนมีน้ำใจ เพียงแต่เราใช้กันไม่เป็นเท่านั้นเอง สังคมมันเลยหักเหกลายเป็นต่างคนต่างอยู่ ขอแค่เรารู้จักคำว่าให้คำเดียว สิ่งที่ได้รับกลับมามันยิ่งกว่า แล้วสังคมจะน่าอยู่ขึ้นครับ” นี่คือเรื่องราวของณรงค์ สายรัตน์ หรือพี่หิน แท็กซี่ โชเฟอร์รวยน้ำใจเจ้าของโชห่วยเคลื่อนที่ที่ฝันอยากจะเห็นสังคมไทยน่าอยู่ขึ้น ด้วยการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!