ถ้าเทคโนโลยีถูกใช้เพื่อก่ออาชญากรรมได้ เทคโนโลยีก็ใช้ปราบปรามอาชญา กรรมได้เช่นกัน
การกวาดล้างกลุ่มคนล่วงละเมิดทางเพศเด็กที่เป็นข่าวฮือฮาเมื่อสัปดาห์ก่อน เป็น ผลงานขององค์กรการกุศลชื่อ แตร์ เดอส์ ออมส์ (Terre des Hommes) ในเนเธอร์แลนด์ เปิดตัวโครงการ "สวีตตี้" (Sweetie) ขึ้น ชื่อของเด็กหญิง ที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีด้านภาพกราฟิกเสมือนจริง
เด็กหญิงมีหน้าตาเป็นชาวฟิลิปปินส์ อายุ 9 ขวบ นำมาใช้หลอกล่อบรรดาบุรุษที่ นิยมใช้โปรแกรมเว็บแคมล่วงละเมิดเด็ก ให้หลงติดกับ จากนั้นจึงส่งข้อมูลต่อให้ตำรวจดำเนินคดี ผู้ที่มีพฤติกรรมลามกอนาจารเด็ก หนูน้อยสวีตตี้จะเคลื่อนไหวหรือพูดคุยโต้ตอบได้ตามคำสั่งของ เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมกราฟิก ทั้งยังสามารถบันทึกภาพทุกคนที่เข้ามาคุยกับเด็กคนนี้ได้ และรวบรวมข้อมูลและประวัติส่วนตัวของผู้สนทนา ก่อนจะส่งข้อมูลเหล่านั้นให้ตำรวจดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานว่า ทีมออกแบบนำข้อมูลการเคลื่อนไหว ทั้งลักษณะการพิมพ์ การพยักหน้าและการขยับตัวมาจากเด็กจริงๆ จากนั้นจึงออกแบบเป็นเด็กหญิง 3 มิติ
ฮันส์ กายต์ หัวหน้าโครงการกล่าวว่า ทั้งตนเองและทีมงาน ต่างหวังมาเสมอว่าข้อมูลที่ได้จากการใช้ สวีตตี้นี้จะช่วยให้ตำรวจใช้ในปฏิบัติการได้ และตอนนี้ข้อมูลดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของตำรวจมาก ปฏิบัติการดังกล่าว มีผู้ชายร่วม 1,000 คนจาก 65 ประเทศทั่วโลกหลงกลติดต่อมายังเด็กหญิงปลอม ส่วนใหญ่ติดต่อเข้ามาทาง เว็บแคมว่าจ้างให้เด็กแสดงท่าลามกอนาจาร ซึ่งข้อมูลทั้งหมดองค์กรได้ส่งชื่อต่อให้ตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพลไปแล้ว
สำหรับผู้ต้องหารายแรกที่ติดกับโครงการ สวีตตี้คือ นายสก๊อต โรเบิร์ต ฮานเซน ชาวออสเตรเลีย สารภาพว่า ส่งภาพโป๊ของตัวเองไปให้สวีตตี้ โดยตัวเองมีภาพลามกอนาจารของเด็กอยู่เต็มคอมพิวเตอร์ หลักฐานบทสนทนาในกล่องข้อความ ที่นายฮานเซนคุยกับเด็ก เริ่มต้นจากนาย ฮานเซนเป็นฝ่ายทักไปก่อนว่า "สวัสดี หนูอายุ 9 ขวบจริงหรือ" ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่ ในองค์กรก็พิมพ์ตอบกลับมาว่า "ใช่" นายฮานเซนจึงชวนว่า "อยากจะคุยหรือเล่นกล้องกับคนแก่ไหม"
ก่อนจะพูดต่อว่า ตัวเองชอบเด็กเอเชีย และชวนสนทนาด้วยคำพูดที่ลามกอนาจารมากขึ้น โดยบอกว่าตัวเองกำลังเปลือยกายอยู่ อยากเห็นหรือไม่ และเปิดกล้อง แสดงท่าทางลามกอนาจารให้ดู โดยที่ไม่รู้ว่าเด็กหญิงที่ตัวเองกำลังคุยอยู่ด้วยนั้นแท้จริงแล้วเป็นเพียงภาพ 3 มิติ ด้านผู้พิพากษากล่าวว่า "คุณจะมาอ้างว่าคนที่คุณคุยอยู่ด้วยจริงๆ แล้วไม่ใช่เด็กไม่ได้เพราะคุณผิดตั้งแต่คุณเชื่อสนิทใจว่ากำลังคุย อยู่กับเด็ก 9 ขวบแล้ว แค่นั้นกฎหมายก็เอาผิดคุณข้อหาละเมิด ทางเพศเด็กได้แล้ว หวังว่าคุณคงเข้าใจ"
ในจำนวนผู้ชายหื่นที่หลงกลสวีตตี้ มีชาวอังกฤษติดกับ 110 คน ซึ่งรายชื่อถูกส่งไปยังสำนักงานคดีอาชญากรรมของอังกฤษ (NCA) ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน แต่ยังไม่มีการจับกุมผู้ใด นายคีธ บริสโทว์ ผู้อำนวยการสำนักงานคดีอาชญากรรมของอังกฤษ (เอ็นซีเอ) แถลงขอโทษที่ดำเนินการล่าช้า และว่ามีขั้นตอนเยอะมากกว่าจะพิสูจน์ตัวตนของชายทั้งหมดนี้ได้ บางคนก็ตามตัวง่าย บางคนก็ตามไม่ได้
ถึงแม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องจริยธรรมในการใช้วิธีหลอกล่อให้ผู้อื่นมาติดกับ แต่ก็เป็นเรื่องที่วงการตำรวจทั่วไปมีใช้อยู่แล้ว เช่น การนำรถไปจอดทิ้งไว้ในย่านที่มีการขโมยรถเกิดขึ้นบ่อยเพื่อล่อจับโจรขโมยรถและเป็นวิธีที่ได้ผล นับเป็นความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีที่นำมาผสมผสานกับโซเชี่ยลมีเดียจนกลายเป็นเครื่องมือของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในการปราบปรามผู้ที่เป็นภัยต่อสังคมรูปแบบหนึ่ง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
