ครอบครัวชาวอเมริกันรายหนึ่งกำลังถูกดำเนินคดีข้อหาทารุณสัตว์ หลังตำรวจบุกค้นบ้านหลังหนึ่งในเขตชานเมืองของรัฐนิวยอร์ก พบแมว150ตัวถูกเลี้ยงไว้ภายในห้องและกำแพงบ้านในสภาพย่ำแย่
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองสแคจทิค็อก รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่31ต.ค.ว่า ตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิพิทักษ์สัตว์โมเฮาค์-ฮัดสัน ฮิวแมน โซไซตี้ บุกค้นบ้านหลังหนึ่งในเมืองสแคจทิค็อก ห่างจากเมืองอัลบานี เมืองเอกของรัฐนิวยอร์กไปทางทิศเหนือประมาณ32กม. พบแมวจำนวน150ตัว ถูกเลี้ยงอยู่ภายในห้องและกำแพงของบ้านในสภาพที่ย่ำแย่
ทั้งนี้นายแบรด เชียร์ กรรมการบริหารมูลนิธิพิทักษ์สัตว์โมเฮาค์-ฮัดสัน ฮิวแมน โซไซตี้ เผยว่า เจ้าหน้าที่ต้องสวมชุดป้องกันและต้องใช้เวลาถึง2วัน ในการเคลื่อนย้ายสัตว์98ตัวออกจากบ้าน และต้องใช้เวลาอีก2วันสำหรับเคลื่อนย้ายแมวประมาณ50ตัวที่ซ่อนอยู่หลังกำแพง โดยแมวพยายามวิ่งหนีเข้าไปหลบในกำแพงขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับตัวพวกมัน นอกจากนี้ในบ้านยังเต็มไปด้วยปัสสาวะและอุจจาระแมว ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งออกไปนอกบ้าน
แมวส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่ป่วยหนัก พบเห็บหมัดเป็นจำนวนมาก มีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจและมีไรในรูหู อีกทั้งยังพบว่าแมวจำนวนมากอยู่ในสภาพที่ผอมแห้งน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ ทั้งนี้แมวที่ได้รับการช่วยเหลือจะถูกส่งไปยังมูลนิธิเพื่อรับการรักษาและเลี้ยงดูจนกว่าอาการจะดีขึ้น ก่อนส่งต่อให้คนใจบุญรับเลี้ยงต่อไป
นายเชียร์กล่าวว่า มีคนอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้5ราย ซึ่งตามกฎหมายแล้วพวกเขาจะต้องถูกจับดำเนินคดี โดยในช่วง2ปีครึ่งที่ผ่านมา พบว่ามีแมวเกือบ400ตัวถูกเคลื่อนย้ายออกจากบ้านหลังนี้ และครั้งนี้เป็นครั้งที่4ที่เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาทารุณแมวกับครอบครัวนี้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
