‘โซนี่’เปิดจองแว่นตาอัจฉริยะ SmartEyeglass ใช้กับแอนดรอยด์
บริษัท โซนี่ หนึ่งในผู้พัฒนาเทคโนโลยีความบันเทิงจากประเทศญี่ปุ่น เปิดรับสั่งจอง "SmartEyeglass" แว่นตาอัจฉริยะที่ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) ซึ่งจะวางจำหน่ายเป็นเจ้าแรกของโลก ในราคา 840 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 27,000 บาท ตัดหน้า Microsoft HoloLens ที่เปิดตัวเรียกเสียงฮือฮาไปเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
แว่นตาของโซนี่จะเริ่มจำหน่ายในประเทศเยอรมนี และอังกฤษก่อน ส่วนญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา รวมทั้งประเทศอื่นๆจะตามมาในภายหลัง ซึ่ง SmartEyeglass นี้ สนับสนุนระบบปฏิบัติการ Andriod จาก Google และจะมาพร้อมกับซอฟต์แวร์สำหรับผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ "Google Glass" แว่นตา AR ที่สร้างความฮือฮาให้วงการถูก Google ประกาศยุติโครงการเพื่อเปลี่ยนทิศทางการพัฒนาใหม่ ทำให้หลายฝ่ายมองว่า SmartEyeglass อาจไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร
รายงานระบุว่า SmartEyeglass มีน้ำหนัก 77 กรัม ภายในติดตั้งเซ็นเซอร์ accelerometer, gyroscope, compass เซ็นเซอร์ตรวจจับแสงและภาพ พร้อมกล้องถ่ายภาพ 3 ล้านพิกเซล และไมโครโฟน ขณะที่ ตัวควบคุมออกแบบมาให้ติดตั้งไว้บนเสื้อ ประกอบไปด้วยลำโพงจิ๋ว เซ็นเซอร์ระบบสัมผัส และแบตเตอรี่ ส่วนข้อความนั้นจะส่งไปยังหน้าจอแสดงผลในแว่นตา
ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิ้ล เคยให้สัมภาษณ์ว่าแว่นตาอัจฉริยะอาจไม่ได้รับความนิยม และการลงทุนด้านแว่นตาอัจฉริยะถือว่าไม่ฉลาด เนื่องจากผู้บริโภคไม่น่าจะต้องการใส่แว่นเหล่านี้ เพราะทำให้เทคโนโลยีเข้ามามีอิทธิพลในชีวิตมากเกินไป ขัดแย้งกับสิ่งที่แอปเปิ้ลเชื่อ คือการนำเทคโนโลยีไปไว้เบื้องหลัง
สจวร์ต ไมลส์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Pocket-lint ให้ความเห็นว่า โซนี่กำลังเสียเวลาเปล่า เพราะแม้แต่ Google Glass ที่มีรูปร่างใกล้เคียงกับแว่นตาทั่วไปมากแล้วยังถูกยุติการพัฒนาและเปลี่ยนทิศทางใหม่ ตนมองไม่เห็นว่า แว่นตา AR ของโซนี่ ที่ทั้งใหญ่และหนากว่าของ Google จะได้รับความนิยมได้อย่างไร
"คนทั่วไปชอบที่จะสวมนาฬิกาข้อมือและกำไลอัจฉริยะ แต่กับใบหน้านั้นเป็นคนละเรื่อง เพราะผู้คนแคร์รูปลักษณ์ของใบหน้าตัวเองมาก การสวมแว่นตาบนใบหน้านั้น ถือเป็นคนละเรื่องกับการสวมอุปกรณ์พวกนี้บนแขน แม้อุตสาหกรรมไอทีจะพยายามผลักดันแว่นตาพวกนี้ แต่ผู้บริโภคกลับไม่ต้องการ" นายไมล์ส กล่าว
สำหรับ Augmented Reality (AR) คือการนำภาพกราฟิกที่กำเนิดจากอุปกรณ์สอดแทรกเข้ามาในสภาพแวดล้อมจริงในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ก่อนหน้า ได้แก่ Microsoft HoloLens
สิ่งที่แตกต่างอย่างไรกับ Virtual Reality (VR) คือ Virtual Reality เป็นการนำผู้ใช้เข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่จำลองขึ้นอย่างสมบูรณ์ ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ก่อนหน้า ได้แก่ Oculus VR และ Samsung Gear VR