ไม่น่าเชื่อ!! 10 ที่เที่ยว สุดลึกลับ จากทั่วโลก #3
1. Lord Howe Island ออสเตรเลีย
Lord Howe Island เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ทะเลแทสมันระหว่างประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ได้รับการขนานนามอีกด้วยว่าเป็นเกาะที่สวยที่สุดในทะเลแปซิฟิก คนที่หวังจะไปเชยชมเกาะที่สวยที่สุดแห่งแปซิฟิกนี้อาจจะไปได้ยากนิดนึง เพราะจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้เหยียบผืนทรายบนเกาะปีละ 400 คนเท่านั้น เป็นการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเพื่อรักษาสมดุลย์ทางธรรมชาติ และรักษาภาพผืนทรายพื้นน้ำที่สวนราวกับคริสตัลนี้ไว้นั่นเอง นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นจุดที่มีปะการังสวยงามอย่างมากอีกด้วย
2. Bishop Castle, San Isabel National Forest โคโลราโด
Bishop Castle ปราสาทรูปทรงสุดประหลาดเท่าที่เคยเห็นตั้งแต่เกิดมานี้ตั้งอยู่ที่ภูเขา Wet Mountains ในป่าสงวนแห่งชาติ San Isabel National Forest ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง Rye โคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา สร้างขึ้นด้วยฝีมือ และแรงงานเพียงตัวคนเดียวของศิลปินดัง Jim Bishop น่าแปลกที่ปราสาทแห่งนี้กลายเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานอันเลื่องชื่อ และดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมาที่นี่เพื่อค้นหาแรงบันดาลใจของตัวเอง
3. Huacachina, Peruvian desert เปรู
Huacachina เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเปรู ที่นี่มีคนอาศัยอยู่เพียงแค่ร้อยกว่าคนเท่านั้นในโอเอซิสเขียวชอุ่มท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ใครมาที่นี่แล้วมักจะติดอกติดใจกับกิจกรรมท้าทายก็คือ sandboarding ซึ่งแน่นอนว่า เราจะสามารถเช่า sandboarding จากชาวบ้านมาลองกันสักครั้งในชีวิตได้อีกด้วย
4. The Bastei Bridge in the Elbe Sandstone Mountains เยอรมนี
The Bastei Bridge หรือ สะพานหิน Bastei สูงตระหง่าน 194 เมตรเหนือแม่น้ำ Elbe ในภูเขาหินทรายของอุทยานแห่งชาติ Saxon Switzerland National Park ประเทศเยอรมนี และมีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 305 เมตร หินเหล่านี้เกิดจากการกัดเซาะของน้ำตลอดหนึ่งล้านปีที่ผ่านมานั่นเอง แน่นอนว่าถ้าขึ้นไปถึงด้านบนจะรู้สึกเหมือนมีสายหมอกมาห่อหุ้มตัวเราเลยทีเดียว
5. Cappadocia ตุรกี
คัปปาโดเกีย (Cappadocia) เมืองมหัศจรรย์ที่ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี คัปปาโดเกีย เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไตต์ แปล ว่า “ดินแดนม้าพันธุ์ดี” นั่นเอง เป็นพื้นที่พิเศษเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟ ฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว เป็นพื้นที่ดูคล้ายกับภูเขาขนาดใหญ่มีรูพรุนเหมือนรวงผึ้งรายล้อมไปด้วย หินทรงกระโจม กรวยคว่ำ และเจดีย์เต็มไปหมด ที่สำคัญก็คือส่วนหนึ่งของหินเหล่านี้มีคนอาศัยอยู่ภายใน ในลักษณะ “บ้านถ้ำ” มาหลายศตวรรษแล้ว
6. Hallstatt ออสเตรีย
เมืองฮัลล์ชตัทท์ (Hallstatt) เมืองริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก เป็นเมืองยุคกลางที่มีคนอาศัยอยู่ไม่ถึง 1,000 คน และยังเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศออสเตรียอีกด้วย นอกจากวิวที่สวยงามเหมือนในเทพนิยายแล้ว ที่นี่ยังเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์การทำเหมืองมาอย่างยาวนาน ลองแปลงร่างเป็นคนงานไปสำรวจเหมืองเก่าดูก็น่าตื่นเต้นไม่น้อย
7. Leptis Magna, Tripoli ลิเบีย
Leptis Magna เป็นเมืองสำคัญของจักรวรรดิโรมันโบราณที่ตอนนี้เหลือเพียงซากปรักหักพังที่แสนน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งตั้งอยู่ที่ Khoms 130 กิโลเมตร หรือ 81 ไมล์ทางตะวันออกของเมือง Tripoli และที่สำคัญที่นี่นับว่าเป็นเมืองโบราณของโรมันที่สวยงามที่สุดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอีกด้วย
8. The Alcázar of Segovia สเปน
The Alcázar of Segovia คือป้อมปราการหินขนาดใหญ่ที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง Segovia และยังเป็นหนึ่งในปราสาทที่โดดเด่นมากที่สุดในสเปนด้วยรูปร่างที่เหมือนคันธนูของเรือ ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำ Eresma และเคยถูกใช้เป็นที่อยู่อาศัยของเชื้อพระวงศ์ ที่นี่เองเป็นต้นแบบปราสาทซินเดอเรลล่า ของฟอริด้า สหรัฐอเมริกา นั่นเอง เพราะฉะนั้นใครอยากเป็นซินเดอเรลล่าตัวจริงต้องมาที่นี่
9. Alter do Chão บราซิล
Alter do Chão ห่างจากเมือง Santarém ไป 33 กิโลเมตร ที่นี่เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อของ Ilha do Amor หรือ เกาะแห่งความรัก เป็นเมืองที่เลาะเลียบไปตามป่าฝนอะเมซอน และชายหาดที่น่าตื่นตาตื่นใจ เพียงไม่กี่เมตรจากชายหาดขาวก็จะเจอกับทะเลสาบขนาดใหญ่ที่เป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์ป่า ซึ่งแน่นอนว่าที่ทะเลสาบนี้เป็นอะไรที่เหมาะกับการพายเรือแคนูเล่นมาก
10. Hotel Moulin de Roc ฝรั่งเศส
ลึกเข้าไปในเมือง Dordogne ของฝรั่งเศส จะได้พบกับโรงสีข้าวเก่ากลายเป็นโรงแรมที่แปลกตาน่าอัศจรรย์อยู่ริมฝั่งแม่น้ำสงบเงียบ นอกจากนี้ยังเป็นที่กินข้าวที่อร่อยเหาะด้วยรางวัลการันตีจากมิชลิน แน่นอนว่าที่นี่จะเป็นที่สำหรับมาพักผ่อนหย่อนใจมากที่สุด
ลิงค์เกี่ยวข้อง
ไม่น่าเชื่อ!! 10 ที่เที่ยว "สุดลึกลับ" จากทั่วโลก #3
ที่มา :: truelife
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!