10 เรื่องจริงของทรวงอก ที่สาว ๆ หลายคนอาจไม่เคยรู้

10. นอนไม่หลับเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้น

การที่ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอจะส่งผลกระทบให้ฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมวงจรการนอนหลับของร่างกายแปรปรวน เป็นเหตุให้การนอนหลับของเราแปรปรวนไปด้วย และเซลล์มะเร็งก็จะมีโอกาสเติบโตได้ง่ายขึ้น เนื่องจากภูมิคุ้มกันในร่างกายน้อยลง เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอนั่นเองค่ะ

9. กินวิตามินดีเยอะ ๆ ช่วยต้านโรคมะเร็งเต้านมได้

สถาบันวิจัยแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ พบว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมที่ได้รับวิตามินดีในปริมาณมากมีโอกาสรอดชีวิตจากโรคร้ายนี้ได้มากกว่าผู้ป่วยที่ไม่ได้รับวิตามินดีในอัตราส่วนที่พอเพียง ซึ่งจริง ๆ แล้วร่างกายควรได้รับวิตามินดี ในแต่ละวันประมาณ 600 IU จึงจะพอเหมาะ แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ร่างกายควรได้รับวิตามินดี ในปริมาณ 1,000 IU หรือมากกว่านั้น จึงจะช่วยต้านทานโรคมะเร็งเต้านมได้ เพราะฉะนั้นก็อาจจะต้องทานอาหารเสริมช่วยด้วยอีกแรง เพราะลำพังอาหารธรรมดาก็อาจจะให้วิตามินดี ได้ไม่มากพอขนาดนั้นค่ะ

8. ยิ่งดื่มยิ่งเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม

การดื่มแอลกอฮอล์จะยิ่งช่วยเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคมะเร็งเต้านมได้มากขึ้น โดยผลการวิจัยเปิดเผยว่า ผู้หญิงที่ดื่มค็อกเทลในปริมาณเล็กน้อยเป็นประจำทุกเดือน จะเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งได้ 15% ในขณะที่ผู้หญิงดื่มจัด (ประมาณ 2 แก้วต่อวัน) จะมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นถึง 51% เลยทีเดียวเพราะฉะนั้นหากไม่อยากเจอปัญหาหนักอก ก็ใช้ชีวิตให้ห่างไกลจากแอลกอฮอล์ทั้งหลายไว้ก็ดีนะจ๊ะ

7. ผอมลงช่วยลดมะเร็งเต้านมได้ครึ่งหนึ่ง!

ผลการวิจัยชี้ว่าคนอ้วนที่ลดน้ำหนักลง 5-10 % ของน้ำหนักตัว จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมได้กว่าครึ่ง นั่นเพราะไขมันจะช่วยเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นหนึ่งสาเหตุของมะเร็งเต้านม นอกจากนี้ ผลวิจัยยังบอกอีกว่า คนอ้วนที่มีน้ำหนักเกิน จะมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งเต้านมได้มากกว่าคนที่ผอมกว่า รวมถึงผู้หญิงที่ออกกำลังกาย 19 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จะลดความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งเต้านมได้อีก 30% ด้วยค่ะ

6. ฮอร์โมนผลิตน้ำนมช่วยให้ผู้หญิงดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้น

หน้าที่หลักของหน้าอกคือการผลิตน้ำนมออกมาเพื่อเลี้ยงดูเจ้าตัวเล็ก เพราะในระหว่างการให้นมบุตร ร่างกายของผู้หญิงจะหลั่งฮอร์โมนอ็อกซิโตซิน (Oxytocin) ที่ทางการแพทย์ถือว่าเป็นฮอร์โมนแห่งความผูกพันออกมา ซึ่งจะช่วยผลิตน้ำนมขึ้นมาด้วย แต่เมื่อไม่นานมานี้ มีผลวิจัยเผยว่า ฮอร์โมนตัวนี้ก็มีส่วนช่วยสร้างความโรแมนติกระหว่างคู่รักได้ และหากมีการกระตุ้นเร้าจากฝ่ายชาย ฮอร์โมนอ็อกซิโตซิน (Oxytocin) ก็จะหลั่งออกมา ซึ่งจะทำให้เขารู้สึกว่าคุณน่าหลงใหลมากขึ้นเป็น 2 เท่าเชียวล่ะ

5. การมีเต้านมขนาดไม่เท่ากันไม่ใช่เรื่องผิดปกติ

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าจะพบว่าเต้านมทั้ง 2 ข้างของเรานั้นมีขนาดไม่เท่ากันอย่างชัดเจน เพราะจริง ๆ แล้วก็เป็นเรื่องปกติที่เต้านมข้างซ้ายจะมีขนาดใหญ่กว่าเต้านมข้างขวา ดังนั้นเวลาเลือกซื้อบราจึงควรเลือกอันที่ใส่แล้วพอดีกับเต้านมข้างซ้าย และอย่าลืมหาฟองน้ำสำหรับเสริมเต้านมข้างขวาให้พอดีด้วยนะคะ เพื่อที่เวลาเต้านมด้านไหนมีขนาดผิดปกติไป จะได้รีบปรึกษาแพทย์ เพราะอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะมีก้อนเนื้อร้ายเกิดขึ้นกับคุณแล้วนั่นเอง

4. ผู้หญิงกว่า 85% ใส่บราผิดไซส์

การใส่บราที่พอดีกับขนาดทรวงอกจะช่วยให้ดูผอม และลดอาการเจ็บหน้าอก อาการปวดหลัง คอ และไหล่ได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นสาว ๆ ทุกคนควรจะใส่ใจกับบรากันมากขึ้น โดยเปลี่ยนบราทันทีที่ทรวงอกมีขนาดเปลี่ยนไปจากเดิม เพราะน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง หรือในกรณีที่บราเริ่มเก่า นอกจากนี้ ก่อนซื้อก็อย่าลืมวัดขนาดทรวงอกก่อนทุกครั้งด้วยล่ะ หรือจะลองใส่เลยได้ยิ่งดี แนะนำให้เลือกซื้อตัวที่ใส่แล้วตะขอด้านหลังไม่รัดแน่นจนเกินไป และด้านหน้าไม่ปูดจนเป็นช่องโหว่นะจ๊ะ

3. ช่วงอายุที่ควรเอกซ์เรย์เต้านมทุกปี

ผู้หญิงที่จำเป็นต้องได้รับการเอกซ์เรย์เต้านมเป็นประจำทุกปีคือ ผู้หญิงในช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป เพราะถ้าช้ากว่านี้อาจทำให้การเอกซ์เรย์ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร และอาจจะสายเกินไปที่จะเยียวยารักษาในกรณีที่มีเนื้อร้ายเกิดขึ้นแล้ว เพราะฉะนั้นสาว ๆ ที่อายุยังไม่ขึ้นเลข 3 ก็อย่าเพิ่งวิตกกังวลเกินไป หมั่นสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเต้านมก็เพียงพอแล้วค่ะ

2. ก้อนเนื้อไม่จำเป็นต้องเป็นมะเร็งเสมอไป

อย่าเพิ่งตกใจถ้าเกิดคลำไปแล้วเจอเข้ากับก้อนแข็งเป็นไตภายในเต้านม เพราะผู้เชี่ยวชาญได้บอกว่า ก้อนเนื้อแข็ง ๆ นั้นอาจจะเป็นแค่ถุงน้ำธรรมดา ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกายเท่านั้นเอง แต่ถ้าเกิดจุดที่ไม่ทราบที่มาที่ไปขึ้นมาบนเต้านมเมื่อไรแล้วล่ะก็ ควรจะรีบไปพบแพทย์เพื่อค้นหาเซลล์มะเร็งกันแล้วล่ะค่ะ

1. ความผิดปกติที่แท้จริงของเต้านม

การกังวลกับโรคมะเร็งเกินเหตุจนต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเซลล์มะเร็งเต้านม นอกจากจะเป็นการเสียเงินโดยใช่เหตุแล้ว ยังจะเพิ่มความวิตกกังวลให้คุณอย่างไร้ประโยชน์อีกด้วย ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้สังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเต้านมด้วยตัวเองก็เพียงพอ ซึ่งสิ่งที่ต้องสังเกตจริง ๆ ก็คือ ก้อนแข็ง ๆ บริเวณเต้านม หรือระหว่างรักแร้ ขนาดและรูปทรงที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน รอยบุ๋ม หรือรอยย่นบนผิวหนัง อาการบวมแดง รวมถึงผื่นและอาการเจ็บหัวนมที่เกิดขึ้นแบบฉับพลัน ที่เป็นมานานและไม่มีทีท่าว่าจะหายสักที

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก :: yenta4