สุดช็อค!! เมื่ออดีตเมียของแฟน บอกว่า แฟนฉันเป็นเอดส์

เมื่ออดีตภรรยาของแฟนฉัน บอกฉันว่า"แฟนฉันเป็นเอดส์"

ต้องบอกว่าเป็นเรื่องราวสุดช็อคเลยก็ว่าได้ถ้าใครได้เจออย่างเธอ เมื่อมีสมาชิกผู้ใช้ pantip ชื่อว่า "เป็นคนทุกที่" ได้ออกมาตั้งกระทู้เปิดเผยเรื่องราวอุทาหรณ์สำหรับเรื่องความรัก ความเจ้าชู้ และเรื่องการป้องกันสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ในสังคมบนโลกใบนี้ ซึ่้งเราไม่สามารถคาดเดาหรือกำหนดอะไรได้ คนที่มีหน้าที่การงานที่ดี มีหน้าตาที่ดี มีหน้าตาทางสังคมที่ดี แต่เค้าก็อาจจะมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ก็ได้... อีกทั้งเจ้าของยังได้ฝากเตือนไปยังบรรดาผู้ชายเจ้าชู้มักง่าย เปลี่ยนคู่นอนบ่อย หรือคิดว่ามั่นใจในคู่นอนหรือคนที่คบเลยไม่ไดมีการป้องกันหรือใส่ถุงยาง จำไว้ *จงอย่าไว้ใจอะไรง่ายๆ จนกว่าคุณจะไปตรวจโรค* เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าเรื่องราวที่เค้าคนนี้ได้เจอมา มันจะเป็นอย่างไร .....

"ขอแนะนำตัวก่อนเลยนะคะ 
     ดิชั้นผู้เป็นเจ้าของกระทู้เรื่องนี้ จะนามสมมุติว่า  แป้ง  แป้งเป็นผู้หญิงที่ถือว่าหน้าตาดีคนนึง (อันนี้คนรอบข้างบอกนะคะ ไม่ได้หลงตัวเอง55) หน้าที่การงานดีมาก สังคม ครอบครัว การศึกษา ดีหมดคะ  

  โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าตัวเองค่อนข้างเพียบพร้อมสำหรับใครหลายๆคน ( เอ้ะ หรือไม่ใช่)  อายุ 28 ปี มีแฟนมาค่อนข้างเยอะพอสมควร และเป็นผู้หญิงที่คนเข้ามาให้เลือกมากมายจึงถือว่าอาจจะเป็นคนเจ้าชู้ในระดับนึงคะ  ที่ผ่านมาคบคนอายุน้อยกว่ามาตลอด และคบใครไม่ได้นาน พีคสุดที่1ปีนิดๆ ก็จะเลิก เป็นงี้ตลอด อาจจะเป็นด้วยที่ว่าเป็นผู้หญิงสปอร์ต กทม. พอสมควร เพศหญิงก็เป็นประเภทที่ว่าพอทะเลาะก็จะขุดเรื่องราวที่เราเคยซื้อเคยจ่ายขึ้นมาพูด ขึ้นมาทวงบุญคุณ แล้วก็มานอยด์เอง (ประสาทเนอะ) ผู้ชายที่อายุน้อยกว่านอกจากจะคอนโทรลง่ายแล้วพวกนางยังมีเงินไม่เทียบเท่าเราด้วย กลัวว่าจะดูแลเราในอนาคตไม่ได้(ตอนคบแรกๆดันคิดไม่ได้) ทำให้มีปัญหาเลิกๆกันไป ประมาณนี้ (เรื่องตัวเองซะเยอะเลย)

    เข้าเรื่องเลยละกันเกริ่นมามากละ  มันเป็นช่วงวันลอยกระทงเมื่อปี 57 ตอนนั้นแป้งกำลังนอยด์ๆจากแฟนคนที่คบอยู่ในตอนนั้น ซึ่งมีปัญหาและใกล้จะเลิกกันและได้มาเจอพี่คนนึงสมมุติว่าชื่อพี่เจนะคะ พี่เจจีบแป้งมานานแล้วโดยส่งข้อความไลน์หาตลอด แต่แป้งก็สนใจมั้งไม่สนใจมั้ง (ขอข้ามว่ารู้จักกันได้ยังงัยนะค่ะ) 

   จนวันนึงที่ได้มานัดเจอกันเพื่อไปลอยกระทง ทำให้แป้งรู้ว่าพี่เจเป็นน่ารัก เทคแคร์ดี ใส่ใจและ อบอุ่น พี่เจอายุห่างจากแป้ง 7 ปี ด้วยความที่แป้งไม่เคยคบผู้ชายอายุมากกว่ามาก่อนจึงทำให้รู้สึกว่า เออ เนอะ ผู้ชายอายุมากกว่ามันดูแลเราได้แบบนี้นี้เอง ฟินเบย ><  ขอแทรกประวัติพี่เจนิดนึงนะค่ะ พี่เจเป็นพ่อม่ายลูกติดอายุ35ปี หน้าตาไม่ขี้เหร่ ดูโอเค หน้าที่การงานดี เป็นระดับผู้บริหารไปทำงานเมืองนอกบ่อยๆ และเคยอยู่เมืองนอกมาก่อนเป็นสิบปี ก่อนจะกลับมาทำงานกับคนใหญ่คนโตที่ประเทศไทย แค่ประวัติคร่าวๆก็ทำให้แป้งสามารถที่จะคบหาพี่เจได้โดยไม่ยาก ไม่ใช่ว่าแป้งเห็นแก่เงินทองนะค่ะ แต่แป้งเองก็ต้องการผู้ชายที่ดูแลแป้งได้โดยที่แป้งไม่ต้องมานั่งเปย์ให้ หรือต้องมานั่งแชร์ตลอดเวลา (อันนี้ยอมรับว่าเห็นแก่ตัวนิดนึง) พี่เจบอกแป้งว่าเค้าเลิกรากับอดีตภรรยาไปนานแล้วเนื่องจากภรรยาไปมีแฟนใหม่ระหว่างที่ยังมีเค้า และตอนนั้นลูกเค้าอายุได้ 1 ขวบ 

   

สุดช็อค!! เมื่ออดีตเมียของแฟน บอกว่า แฟนฉันเป็นเอดส์

พี่เจจะพยายามดราม่าชีวิตตัวเองเรื่องความรักต่างๆ นานา และทำตัวให้เห็นว่าชีวิตเค้ามีพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นรถ บ้าน เงินทอง และทำให้เห็นว่าเค้ารักลูกเค้ามากขนาดไหน (อันนี้ถือว่าดีเป็นผู้ชายที่รักลูกที่สุดคนนึงเท่าที่เคยเจอมาดูแลลูกเองทุกๆอย่าง) และการเข้าสู่ห้วงแห่งละครเกาหลีก็เริ่มขึ้น เราเริ่มเอ๊ะใจว่าเค้าหย่ากับอดีตภรรยาเค้าหรือยัง (เพราะตอนนั้นเราก็เริ่มคิดจริงจังกับเค้าแล้วพอสมควร) เราก็เลยถามเค้าไปหลังจากเก็บข้อข้องใจมาสักพัก 

แป้ง: แป้งถามอะไรหน่อย พี่เลิกกับแฟนเก่าพี่หรือยังอ่ะ
พี่เจ: เออ คือ ทำไมหรอ ทำไมถึงถามอ่ะ
แป้ง: อ้าวก็ถ้าเราจะคบกับใครสักคนมันก็ต้องถามเพื่อความชัดเจนป่ะ 
พี่เจ: ยังไม่ได้หย่าพอดีพี่งานยุ่ง แล้วทางนู่นเค้าก็ไม่ค่อยว่างด้วย
แป้ง:อ้าว เฮ้ย แล้วทำไมไม่บอกกันตั้งนานแล้วอ่ะ นี้ถ้าไม่ถามก็ไม่คิดจะบอกใช่ปะวะ (เริ่มฉุน) นี้เท่ากับแป้งคบกับสามีชาวบ้านอ่อวะ มันไม่ถูกต้องนะแบบนี้อะ
พี่เจ: มันยังไม่ลงตัวหลายๆอย่าง แล้วไหนจะเรื่องการรับเป็นผู้มีสิทธิ์ดูแลบุตรอีก มันวุ่นวายมาก ตอนนี้ยังตกลงกันไม่ได้เลย #@@##$%^%$%&%^^&%^&^^&%^

ตามที่ว่าคะสารพัดจะอ้าง แป้งเลยยื่นคำขาดว่า สิ้นเดือน มกราคม 58 ถ้าเค้ายังไม่หย่ากับภรรยา แป้งขอบายดีกว่า เพราะว่ามันเท่ากับผิดจริยธรรม ผิดกฎหมายด้วย ในหลายๆอย่าง แต่แป้งก็พยายามพูดให้เค้าคิดถึงลูกด้วยนะคะ ว่ายังงัยเด็กก็ต้องมีแม่ ต้องอยู่เป็นครอบครัว เค้ายืนยันว่าตัวเค้าเองไม่ได้รักภรรยาเค้าแล้ว และเลิกรา แยกกันอยู่ไปนมนานแล้วจริงๆ เพียงแต่ไม่ได้คิดว่าจะต้องหย่าขาด มันยุ่งยาก ลำบาก แป้งก็เลยให้เค้าพิสูจน์คะ
(สารพัดจะอ้าง แต่ประเด็นคือ แป้งเชื่อ!!)  หลังจากประเด็นนี้สักพักไม่นาน เรื่องราวมันเริ่มเข้มข้นขึ้นตรงที่ว่า ภรรยาพี่เจ เข้ามาทักแป้งในเฟสบุคคะ



สุดช็อค!! เมื่ออดีตเมียของแฟน บอกว่า แฟนฉันเป็นเอดส์

เป็นงัยละค่ะ แป้งนี้ก็ทั้งช็อคทั้งอึ้งไปเลยจ้า ทางภรรยาเค้ายืนยันว่าเค้าแค่แยกกันอยู่แต่ยังไม่ได้เลิกกัน ยังมีไปมาหาสู่ ห่วงใย ต่างๆนานา กันอยู่ นางก็แคปหน้าจอที่ทางพี่เจส่งไปง้อ ว่ารอกลับมาอยู่เป็นครอบครัว เอย ยังห่วงเอย มาให้เราดู แต่ก็ยังนิ่งๆอยู่ไม่ได้ไปโวยวายหรือคาดคั้นถามอะไรจากฝ่ายชาย เพราะจะลองดูว่าให้ฝ่ายชายเค้าสารภาพออกมาเองดีกว่าว่าเรื่องราวมันคือยังไง แต่ผลที่ได้คือพี่เจเค้าพยายามจะบอกว่าแยกกันอยู่นานแล้ว แล้วที่ภรรยาเค้ามาพูดกับแป้งแบบนี้เพราะนางเป็นคนชอบเอาชนะ อยากให้พี่เจไม่เหลือใคร และอีกหลายเหตุผลที่เค้าจะสรรหามาพูด จริงๆในใจแป้งเจ็บมากนะคะ ภรรยาเค้าบอกแป้งอีกอย่างนึง ตัวพี่เจบอกแป้งอีกอย่างนึง พี่เจบอกภรรยาเค้าอีกอย่างนึง คือมันวุ่นวายแล้วเต็มไปด้วยความมึน งง มากมายคะแล้วก่อนหน้านี้จับได้ว่าเค้าคุยกะสาวในโปรแกรมบีท็อก ในลักษณะจีบๆม่อๆมาแล้วหลายครั้ง แต่แป้งก็ให้อภัยมาตลอดเพราะถือว่ามันก็แค่คุย (ถึงไปเจอเราก็ไม่รู้) ประกอบกับเค้าดูแลเราดีมากๆ แล้วตอนนั้นแป้งก็เข้ามาอยู่บ้านเค้าได้สักพัก ครอบครัวเค้าก็โอเคกับแป้ง ก็เลยทำให้แป้งยังนิ่งๆไม่ได้บอกเลิกเค้าไป เค้าก็คงแปลกใจเหมือนกันคะ ที่แป้งนิ่งมากๆ ส่วนภรรยาเค้าก็อินบ็อกมาคุยกับแป้งตลอดและดิสเครดิตต่างๆนานา  แต่ทางพี่เจเค้าก็หาเหตุผลมาแก้ต่างได้ทุกครั้งไป เค้าจะเก่งมากในการทำให้ผู้หญิงวีนๆสงบลง พูดง่ายๆคือผู้ชายเจ้าชู้ที่อายุเยอะกว่าเราน่ะคะ เค้าจะเก๋าเกมกว่าเรามากเค้าจะมีลูกอ้อน มีการพูดที่ทำให้เราต้องเงียบไปเอง ภรรยาเค้าคุยกับแป้งเยอะมากทำให้แป้งรู้ว่าจริงๆแล้วสมบัติที่เค้ามีอยู่นั้นไม่ว่าจะเป็น บ้าน รถ ก็เป็นของเจ้านายเค้า ที่รักเค้ามากๆยกให้เค้าใช้ (แต่บอกแป้งอีกแบบนึง)  ตลอดเวลาที่ผ่านมาเค้าสร้างภาพว่ามีพร้อมทุกๆอย่าง แต่ปรากฏว่ามันไม่ใช่อย่างที่เค้าพูด แต่โอเคแป้งก็ไม่ได้ซีเรียสตรงจุดนี้ ในเมื่อเรารักไปแล้วนิ ให้ทำยังไงได้ของนอกกายมันสร้างได้ถูกไหมค่ะ  จนเมื่อภรรยาเค้าเห็นว่าแป้งนิ่งๆไป จึงส่งประโยคเด็ดมาให้แป้ง 

ตอนนั้นที่ได้อ่านประโยคนี้ในหัวของแป้งเต็มไปด้วยความสับสน มึน งง อึ้ง ช็อค เหมือนจะเป็นลม
ตอนนั้นจำได้ว่าขับรถอยู่แล้วพออ่านข้อความนี้มันช็อคมากๆๆๆๆๆ ขับรถแบบเหม่อลอย ด้วยความเร็ว 40 บนถนนเส้นหลัก ทำไมถึงช็อคนะเหรอคะ 
ความทรงจำมันแว่บเข้ามาในหัวว่า ตอนที่แป้งมีอะไรกับเค้าครั้งแรก เค้าไม่ใส่ถุง!!! ด้วยความที่ว่าก็เมาๆทั้งคู่ ตัวแป้งเองก็ลืมเตือน (แย่มากๆ)  แต่ประเด็นคือ ทำไม!!! เค้ารู้ตัวว่าเค้าเป็น HIV ทำไมเค้าถึงไม่ระมัดระวังตัวเองแบบนี้ มันคือความเห็นแก่ตัวล้วนๆ ในสิ่งที่เค้ากระทำลงไป ความเมา ความที่ไม่ได้พกถุงมา ความมักง่าย เค้าไม่รู้หรอกว่ามันจะทำให้คนๆนึงที่ไม่รู้อะไรด้วยต้องมารับเชื้ออะไรไปจากเค้าบ้าง 

    ตอนนั้นแป้งพยายามเรียกสติตัวเองกลับคืนมาแล้วโทรหาพี่เจ ที่ตอนนั้นนางไปงานเลี้ยงปีใหม่เพื่อน(ตอนหลังมารู้ว่าไปงานเลี้ยงปีใหม่ของผู้หญิงที่นางกำลังคั่วอยู่ ในขณะที่ภรรยาเค้ากับแฟนเค้ากำลังทะเลาะกันอย่างเมามัน)
แป้ง: ฮาโหลพี่เจหลอ พี่รู้ใช่ไหมว่าภรรยาพี่อินบ็อกมาคุยกับแป้ง
พี่เจ: ใช่ พี่รู้ พี่ก็ งง ว่าทำไม แป้งถึงไม่ถามอะไรพี่
แป้ง: แป้งอยากรู้เรื่องนึง ภรรยาพี่บอกแป้งว่าพี่เป็นเอดส์ จริงหลอ นี้แป้งไม่ตลกนะ พรุ่งนี้ไปตรวจเลือดกับแป้งได้ไหม
พี่เจ: แป้ง อะไรของแป้งเนี้ย ไร้สาระ ทำไมไปเชื่อ ต่าย(ชื่อภรรยานามสมมุตินะคะ) ละ ไม่มั่นใจพี่หลอ พี่บินไปทำงานเกือบทั่วโลก ต้องตรวจสุขภาพ ตลอดก่อนบินนะ เค้าจะมาป่วนแป้งน่ะสิ ตอนนี้พี่ปวดหัวมากอะไรนักหนา แค่นี้นะ !!(อารมณ์เสียใส่เราเฉยเลย ตรูผิด?)
แป้ง : แป้งก็ว่ามันแหม่งๆแป้งก็ไม่ได้เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็เลยมาถามพี่ แต่ยังงัยเพื่อความสบายใจพี่ไปตรวจเลือดกับแป้งได้ไหมละ 
พี่เจ: เดี๋ยวกลับไปค่อยคุยละกัน ดูลูกอยู่ 



สุดช็อค!! เมื่ออดีตเมียของแฟน บอกว่า แฟนฉันเป็นเอดส์

ตึง!!! ในตอนนั้นเราก็เชื่อเค้านะคะ ว่าภรรยาเค้าคงมาเล่นตลกอะไรกับเรา เราก็เลยไปปรึกษาเพื่อน เพื่อนเราก็ช็อคมากแล้วบอกว่าถ้าล้อเล่นนี้มันก็เป็นการล้อเล่นที่รุนแรงมากเลยนะ ลองดูให้ชัวร์ก่อนดีกว่า แต่เราก็เก็บไปคิดหนักมากๆ   ในตอนนั้นเราทำใจไว้แล้วในส่วนนึงว่าถ้าเค้าเป็นจริงๆเราก็คงจะไปตรวจ คงใช้ชีวิตให้แข็งแรงสมบูรณ์ ไม่ให้มีโรคแทรกซ้อน   สมัยนี้ยาต้านและวิวัฒนาการไปไกลมากๆ (ปลอบใจตัวเอง)
จนพี่เจเค้าโทรมาหาเราในคืนวันนั้น เค้ากำลังขับรถกลับจากงานเลี้ยงและเมาพอสมควร

พี่เจ : ฮาโหล ทำอะไรอยู่ ไม่รักพี่แล้วใช่ไหม 
แป้ง: อะไรของพี่เนี้ย เมาหลอ ตั้งสติก่อนไหม แล้วยังงัยคำถามที่แป้งถามไป ตอบได้หรือยัง แป้งอยากรู้ว่าพี่เป็นจริงๆหรือป่าว แต่ไม่ว่ายังงัยแป้งก็ขอให้พี่ไปตรวจเลือดด้วยกันนะ
พี่เจ : …….
แป้ง: พี่จะเงียบทำไมละ  พี่เจบอกแป้งมาสิ ว่าความจริงมันเป็นยังงัย แป้งจะได้รู้
พี่เจ: .............ใช่ พี่เป็น
แป้ง : แป้งเดาไว้แล้วว่ามันต้องเป็นเรื่องจริง ทำไม ทำไม ครั้งแรกที่มีอะไรกันพี่ไม่ใส่ถุง ทำไมพี่ไม่คิดว่าแป้งจะติดบ้างเหรอ พี่คิดอะไรอยู่
พี่เจ: ทำไม ได้ยินความจริงแล้วจะทิ้งพี่ไปใช่ไหม ใช่สิ พี่มันเป็นขยะสังคม เป็นคนมีปมด้อย ถ้าใครๆรู้ว่าพี่เป็น พี่จะอยู่ในสังคมต่อไปยังไง  
แป้ง : มันไม่เกี่ยวเลยนะ มันเกี่ยวที่ว่าทำไมพี่ไม่ป้องกัน ในเมื่อพี่รู้ว่าพี่เป็น พี่อยากจะมาทำลายอนาคตคนๆนึงยังงี้อะหลอ แล้วทำไมพี่ไม่บอกอะไรแป้งเลย อย่างน้อยแป้งจะได้ไปตรวจ เป็นหรือไม่เป็น แป้งจะได้รู้ว่าควรจะใช้ชีวิตต่อไปยังงัย
พี่เจ: (ร้องไห้) ถ้าพี่บอกแป้ง แป้งก็ทิ้งพี่ไป พี่รักแป้งมาก (คะ รักตรูมากคะ คุยกับผู้หญิงนับไม่ถ้วน) พี่ไม่อยากเสียแป้งไป ฮืออออออ

ตอนนั้น เราช็อคก็ช็อค สงสารก็สงสาร   แต่เราตั้งสติได้ดีพอสมควร เพราะเราไม่อยากฟูมฟายอะไร จนกว่าจะรู้ผลที่แน่นอน เราคิดว่าคนที่เป็นHIV เราก็สงสารเค้า และการที่ทำให้เค้ากระทบกระเทือนจิตใจมันจะส่งผลต่อสุขภาพเค้า เราเลยพูดกับเค้าดีมากๆ แต่ก็ยังยืนยันว่าจะขอไปตรวจเลือดพรุ่งนี้เลย
แป้งเองก็แปลกใจนะคะ ที่แป้งสามารถควบคุมสติตอนคุยกับเค้าได้ขนาดนี้ แต่อะไรรู้ไหมคะ จริงๆแล้วมันไม่ใช่คะ  ในขณะที่แป้งกำลังขับรถไปหาเค้าในเวลาเที่ยงคืนวันนั้น  แป้งนึกถึงสิ่งที่เค้าเป็น และนึกถึงสิ่งที่เค้าได้ทำกับแป้งไว้ว่า โอกาสที่จะติดมันมีมากเลยทีเดียว แป้งคิดถึงสิ่งต่างๆในชีวิต คิดถึงพ่อแม่ คิดถึงเพื่อนๆ คือมันเหมือนคนที่รู้ว่าตัวเองเฉียดความตาย (จริงมันอาจจะดูเวอร์ใช่ไหมคะ แต่ตัวแป้งเองก็ถือว่าโรคนี้ถ้ามีโรคแทรกซ้อนแล้วจะสุขภาพทรุดลงไวมากๆ) แล้วมันจะมีมโนภาพเหล่านี้เข้ามา

       แป้งขับรถไปร้องไห้ไปเหมือนคนสิ้นหวัง อนาคตทั้งหมดที่แป้งวางไว้  ชีวิตวัยสาวทั้งหมด หน้าที่ การงาน ทั้งหมด ถ้าแป้งคิดเชื้อ แป้งก็จะมีชีวิตแบบไหนต่อไป ยังไง จะสามารถรักใครได้อีกไหม ทุกอย่างมันประเดประดังเข้ามา  
      แต่สิ่งหนึ่งมันทำให้แป้งคิดได้ว่า ถ้าแป้งติดเชื้อจริงๆแล้วมันทำให้รู้ว่าแป้งไม่สามารถเหมือนคนปกติต่อไปได้อีก    มันจะทำให้แป้งใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่ามากขึ้น ดูแลตัวเองมากขึ้น อยากจะทำในสิ่งที่แป้งไม่เคยทำ พูดในสิ่งที่แป้งไม่เคยพูด แก้ไขในสิ่งที่แป้งทำให้มันค้างคา ทุกอย่างมันเป็นลิสต์ขึ้นมาเลยว่า แป้งต้องไปแก้ไขอะไรที่ค้างคาไว้ ต่างๆนานา  ตลกดีนะคะ ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่แป้งสามารถคิดอะไรได้มากมายขนาดนี้ 

      

สุดช็อค!! เมื่ออดีตเมียของแฟน บอกว่า แฟนฉันเป็นเอดส์

 พอมาถึง บ้านพี่เค้า ปรากฏว่าพี่เค้าเมาหลับไปแล้วคะ  แป้งก็เลยรอคุยกับเค้าต่อในวันพรุ่งนี้ 

เช้ารุ่งขึ้น
แป้ง: พี่จะเอายังงัยแป้งอยากตรวจเลือดวันนี้เลย แป้งเช็คแล้วว่าโรงพยาบาลไหนก็ตรวจได้ 
(เสริมตรงนี้นิดนึงนะคะ จริงๆแล้วเราสามารถไปตรวจ โรงพยาบาลไหนก็ได้คะ ถ้าเอกชนจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1200-1600 บาท และต้องลงทะเบียนที่โรงพยาบาลนั้นๆ ยื่นบัตรประชาชน แต่โดยส่วนใหญ่ เค้ามักจะไปตรวจที่คลินิกนิรนามกันคะ อยู่ตรงปทุมวัน ค่าใช้จ่ายประมาณ 200 บาท ราวๆนี้นะคะ ไม่ต้องยื่นบัตรประชาชนเค้าจะปิดบังตัวตนเราละคะ ซึ่งก็ดีนะคะ สำหรับคนที่อยากปิดบังตนเองหรืออะไรก็แล้วนะคะ)
พี่เจ : พอตรวจเสร็จถ้าแป้งไม่เป็นแล้วแป้งจะทิ้งพี่ไปใช่ไหม  (เริ่มน้ำตาคลอ)
แป้ง : เรื่องนั้นมันไม่ใช่ประเด็นนะพี่ พี่ง้อภรรยาพี่อยู่ แถมคุยกับผู้หญิงอีกมากมาย ถ้าแป้งจะเลิกกับพี่มันก็คงเป็นเพราะความเจ้าชู้ของพี่มากกว่า ไม่ใช่เพราะพี่เป็นอะไรหรอก
พี่เจ: แป้งนี้เก่งนะ ควบคุมสติได้ดีมากเลย ตอนที่ภรรยาพี่ตรวจเจอที่ต่างประเทศ (เพราะตอนตั้งท้องหมอ จะให้ตรวจโรคต่างๆก่อนคะ เพื่อจะได้ทราบ แล้วก็พบว่า ภรรยาเค้าเลือดผลเป็นบวก) พี่ยังทำใจจะไปตรวจเลือดตั้งอาทิตย์กว่า  แล้วพี่ก็พบว่าพี่เป็นด้วยเหมือนกัน ตอนนั้นพี่รู้สึกชีวิตมันมืดมนไปทุกอย่าง
แป้ง: พี่ตอนนี้วิวัฒนาการของหมอ แล้วก็เรื่องการเรียนรู้ของคนสมัยนี้มันเจริญก้าวหน้าไปมาก คนเค้าก็รู้กันแล้วว่าเอดส์มันไม่ได้ติดกันง่ายๆ แป้งไม่ได้จะกลัวอะไรหรอก (จริงๆคือกลัวคะ แต่ก็ต้องให้กำลังใจตัวเอง) 

        แล้วเราก็ไปตรวจคะ ที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนคริทร์ เราเดินดุ๋ยๆเข้าไปตรวจเลยคะ จริงๆคืออายนะคะ แต่แป้งก็พยายามจะไม่คิดอะไรคะ ลองคิดสิคะ เดินไปที่ประชาสัมพันธ์แล้วต้องบอกพนักงานว่ามาตรวจ HIV คะ พูดเลยว่า ทุกๆคนในโรงพยาบาลมองหน้าเลยล่ะคะ
  แป้งพาเพื่อนไปด้วย 1 คน ที่สนิทมากๆ และเป็นคนที่ไม่ตื่นตูม และพร้อมที่จะให้กำลังใจอย่างดี  พร้อมกับพี่เจแล้วก็ลูกเค้าคะ จริงๆพี่เจเค้าไม่อยากไปด้วยนะคะ หรือถ้าอยากให้เค้าไปเค้าอยากให้ไปคลีนิกนิรนามเพราะว่าเค้ากลัวคนอื่นรู้บ้าง กลัวเจอคนรู้จักบ้าง กลัวทุกอย่างมันจะสาวมาถึงตัวเค้าน่ะคะ  ขนาดตอนแป้งบอกว่าอยากให้เค้าเข้าไปพบหมอด้วยเพื่อที่จะได้บอกแนวโน้มการติดเชื้อไรงี้ แกยังไม่เข้าไปเลยคะ แกอาย 

     ในตอนนั้นแป้งรับปากเค้าไปว่า ไม่ว่าจะเป็นหรือไม่เป็น แป้งก็จะไม่เลิกกับพี่เจคะ เพราะแป้งไม่อยากให้เค้าคิดว่าคนที่ติดเชื้อ HIV จำเป็นด้วยหลอที่จะไม่สามารถมีความรักได้ (ตอนนั้นลืมคิดประเด็นที่เค้าโกหก กับเจ้าชู้ไปเฉยเลย) 

    แล้วพยาบาลก็ให้นั่งรอคะ จากนั้นก็เรียกไปตรวจเลือด (ตอนนั้นจะเป็นลมเลยคะเพราะว่า กลัวผลที่ออกมามาก เครียดและกังวลมากๆคะ) พอเจาะเลือดเสร็จเค้าก็ให้รอผล 1 ชม. คะ เป็น 1 ชม . ที่ยาวนานที่สุดในชีวิตแป้งเลยคะ  ทั้งอึดอัด ทั้งหวาดกลัว ทั้งกังวล ตื่นเต้น ทุกๆอย่าง  แล้วหมอก็โทรเข้ามือถือให้เราขึ้นไปฟังผลเลือดคะ

ตอนที่เข้าไปพบหมอ(ก่อนจะฟังผลเลือดนะคะ) หมอก็ถามนะคะว่ามีความเสี่ยงเมื่อวันที่เท่าไร เราก็แจ้งไปคะ วันที่เท่านี้ๆ มันราวๆประมาณ 1 เดือนแล้วละคะ ในตอนนั้น หมอก็ถามอีกว่า แล้วคนที่มีความเสี่ยงนี้คือ สงสัยว่าเค้าจะเป็นหรือว่ายังงัยครับ แป้งก็บอกไปว่า “อ่อ เค้าเป็นHIV คะ” ตอนนั้นหมอ ยังมองหน้าแป้งแบบอึ้งๆ เลยนะ แล้วหมอก็ปลอบใจว่าไม่เป็นไรนะ ครั้งเดียวความเสี่ยงยังต่ำ บลา บลา บลา 

      

สุดช็อค!! เมื่ออดีตเมียของแฟน บอกว่า แฟนฉันเป็นเอดส์

 แล้ว หมอก็แกะซอง ที่เหมือนกับสลิบเงินเดือนออกคะ (เข้าใจเปรียบเทียบ)  ผลออกมาปรากฏว่า !!
ผลเลือด แป้งเป็น Negative คะ หรือ ไม่ได้มีการติดเชื้อ HIV คะ  ตอนนั้นแป้งทั้งดีใจ โล่งใจ อย่างบอกไม่ถูกคะ  แต่ๆๆๆๆๆ  มันต้องตรวจทั้งหมด 3 ระยะ คะ เพราะเชื้อ HIV มันจะมีระยะการฟักตัวของมันอีก
(เชื้อมันร้ายจริงๆ)  ซึ่งก็คือ 1เดือน 3เดือน และ 6 เดือนคะ  หมายความว่าที่แป้งตรวจไม่เจอในครั้งแรกนั้นไม่ได้หมายความว่าแป้งจะไม่ได้เป็น 100 % คะ  ยังต้องมาตรวจ อีก 2 ระยะ คะ (เอิ่ม แปลว่ามันยังไม่จบสินะ) 

     แป้งก็เดินออกไปบอกผล เพื่อนและก็พี่เจคะ พี่เจเค้าก็แบบ อึ้งๆนิดๆ แป้งก็ทำตามคำพูดตัวเองคะ คือไม่ได้เลิกกับเค้า และคบกับเค้าปกติ พร้อมทั้งให้อภัยเค้าทั้งหมด  พี่เจเค้าก็ซึ้งมากๆในตัวแป้งที่รู้ว่าเค้าเป็น HIV แล้วยังไม่เลิกกับเค้า เค้าบอกว่าที่ผ่านมาที่เค้าเจ้าชู้คุยไปเรื่อย เพราะเค้าไม่กล้ารักใครหรือไว้ใจใครจริงๆคะ

       การที่เค้าเป็น โรคนี้มันทำให้เค้ารู้ว่าเค้าไม่สามารถมีความรักได้อีก ที่เค้ายังง้อภรรยาเก่า ก็เพราะเค้าเองก็ยังถือว่าเป็นแม่ของลูกอยู่ด้วย แล้วก็กลัวการที่จะต้องอยู่คนเดียวเพราะโรคนี้คะ (อันนี้เหตุผลฟังดูเหมือนจะดี แต่ก็ไม่รู้สินะ ฮึฮึ) 

      แต่แป้งก็ให้อภัยเค้าในตอนนั้นคะ แล้วก็เหมือนจะรักเค้ามากขึ้น เพราะแป้งสบายใจแล้วว่าการที่เค้าพบผู้หญิงที่เค้าสามารถบอกความจริงทุกอย่างได้ รับทุกๆปัญหาของชีวิตเค้าได้ เค้าคงจะเลิกเจ้าชู้ได้แน่ๆ ในตอนนั้นเค้ารักและทุ่มเทให้แป้งมากทั้งหมดคะ 

      มันเป็นช่วงวันเวลาที่ดี ในช่วงนึงเลย สำหรับตัวแป้ง  แป้งก็แทบไม่เชื่อตัวเองนะคะ ว่าแป้งจะสามารถรับที่เค้าเป็นได้มากขนาดนี้  (โดยส่วนตัวแล้วแป้งเป็นคนใจอ่อน และขี้สงสารคนมากๆคะ)  ตอนนั้นแป้งคิดเลยว่าต่อให้แป้งจะติดเชื้อจริงๆก็ไม่เป็นไร เพราะแป้งจะอยู่ดูแลกันไปตลอดคะ  
แต่แล้ว ความสุขมันก็มักจะไม่จีรังคะ  เหมือนแป้งพบว่า เค้ายังคุยกับผู้หญิงคนอื่นอีกเยอะคะ  
      
      ในตอนนั้นแป้งหมดแล้วซึ่งทุกๆอย่าง ความไว้เนื้อเชื่อใจที่มี ทั้งๆที่แป้งรับเค้าได้มากขนาดนี้ รักเค้ามากขนาดนี้ เค้ายังไม่เลิกเจ้าชู้อยู่อีก  แป้งจึงขอบายคะ เค้าก็มาใช้มุกที่เค้าถนัดคะ คือเรียกร้องความสนใจ จะฆ่าตัวตายคะ จะพาลูกเค้าไปตายพร้อมกันกับเค้า (เค้าไม่ขู่นะคะ เค้าเป็นคนชอบแก้ปัญหาด้วยวิธีพวกนี้)  จะขับรถชนตายบ้าง อะไรบ้าง จนแม่เค้าต้องมาคุยกับแป้งว่าให้อภัยเค้าเป็นครั้งสุดท้ายเถอะนะ(แม่เค้าไม่รู้เรื่องเชื้อHIV คะ) แป้งก็โอเคคะ ให้อภัยอีกครั้ง  แต่ว่า จริงๆในใจลึกๆเราก็ยังไม่ได้ให้อภัยเค้าจริงๆหรอกคะ มันฝังใจแป้งมากๆ แป้งแค่เห็นแก่แม่ กับลูกของเค้า ไม่อยากให้เค้าทำอะไรโง่ๆ  ก็เลยยอมกลับไป แต่แบบที่ความรักดรอปลงไปมากๆคะ                                                          

ตอนนั้นแป้งเริ่มห่างๆจากพี่เจ เพราะว่าภรรยาเค้าเริ่มขู่ที่จะฟ้องแป้งและพี่เจเรื่องเป็นชู้กัน (แต่ตอนนั้นแป้งเองมีหลักฐานอะไรหลายๆอย่างคะที่ทำให้เค้าไม่สามารถทำได้)  แป้งก็เซ็งนะคะ โดนหลอกก็โดนหลอก นี้ยังจะต้องมาโดนเรื่องไรพวกนี้อีก  ไหนจะเรื่องหย่าของเค้าที่ภรรยาเค้าไม่ยอมหย่าให้ และอยากกลับมาคืนดี (เอ้า ซะงั้น ทั้งๆที่ภรรยาเค้าเป็นคนไปเอง ) มันเยอะมากๆจนแป้งดรอปความรู้สึกที่มีกับพี่เจไปมากๆ

         จนแป้งได้มาเจอ น้องคนนึงอายุห่างกัน 4 ปี  ชื่อน้องแมคคะ (นามสมมุติ) น้องเค้าดีกับแป้งมากๆ เรียกได้ว่าเป็นผู้ชายที่ดีเท่าที่แป้งเคยเจอมา (แป้งคบคนมาเยอะมากๆคะ เจอมาเกือบทุกรูปแบบแล้ว) แป้งก็ดูๆใจกับน้องแมคมาสักพัก แต่ในตอนนั้นแป้งก็ยังไม่ได้เลิกกับพี่เจนะคะ (ก็คิดนะคะว่าตัวเองนิสัยไม่ดีมากๆเลยคะ เพราะกลัวน้องเค้าไม่ดีเลยไม่ได้เลิกกับพี่เจ ถึงแม้พี่เจจะมีอะไรต่างๆนานา แต่เค้าก็ยังดูแลแป้งดีมากๆเหมือนเดิม ทุ่มเทให้ทุกอย่าง อยากได้อะไรให้ทุกๆอย่าง)  

       จนใกล้วันที่แป้งจะต้องตรวจเลือดระยะที่ 2  แป้งก็เลยตัดสินใจบอกน้องเค้าไปตรงๆเลยคะ ว่า แป้งเป็นผู้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อนะ เดี๋ยวแป้งต้องไปตรวจเลือดระยะที่ 2 พร้อมกับเล่าทุกๆอย่างให้เค้าฟัง รวมไปถึงที่แป้งยังไม่เลิกกับพี่เจด้วย  น้องแมคเค้าก็อึ้งไปสักพักนะคะ แต่น้องเค้าก็บอกแป้งว่า “ถึงพี่จะเป็นก็ไม่เป็นไร ก็แมครักพี่ไปแล้วหนิให้ทำยังไง” คำนี้เท่านั้นละคะ หัวใจของแป้งที่คิดว่าคงไม่อยากรักใครอีก  เหมือนมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง  (เวอร์สุดพูดเล่อ แต่ไม่รู้จะอธิบายยังไง)  และแป้งก็ซึ้งมากๆคะ ที่น้องเค้า รับตรงจุดนี้ได้ ถ้าแป้งเป็นจริงๆ   

สุดช็อค!! เมื่ออดีตเมียของแฟน บอกว่า แฟนฉันเป็นเอดส์

สุดท้ายแล้วคะ
            แล้วแป้งก็ไปตรวจระยะที่สองเมื่อเดือน กุมภา 58 ที่ผ่านมาคะ  ผลออกมาว่า  “แป้งไม่ติดเชื้อ” คะ
คราวนี้ หมอบอกว่า เป็นผลที่ออกมาดีมากๆ ถือว่าเป็น95% ที่ไม่ติดเชื้อ และสามารถถือว่าผลครั้งนี้เป็นผลที่ค่อนข้างที่แน่นอนแล้ว แต่ก็จะมีบางเคสเท่านั้น ถือจะระยะฟักตัวช้ากว่านั้น คือ 6 เดือน ซึ่ง 1 ใน ร้อยคน เท่านั้นที่จะเป็น 
     
     ณ ปัจจุบันนี้ แป้งยังคบทั้งพี่เจและน้องแมคอยู่คะ  พี่เจเค้าหย่ากับภรรยาของเค้าพร้อมกับที่แป้งให้สัญญาว่า ถ้าเค้าหย่ากับภรรยาเค้า แป้งก็พร้อมที่จะลืมทุกอย่างแล้วกลับมาเริ่มต้นกันใหม่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ (ตอนนั้นพูดไปเพราะคิดว่าเค้าทำไม่ได้หรอกตามระยะเวลาที่แป้ง ขีดเส้นตายไว้ให้)  ปรากฏว่าเค้าไปหย่ามาได้  ทั้งๆที่เค้าโดนภรรยาเก่าเค้าขู่ว่า จะฟ้องเอาลูกไปเอย จะไปแฉที่บริษัทว่าเค้าเป็นเอดส์เอย  (เป็นเรื่องที่เค้ากลัวที่สุด)  แต่แป้งเองก็ไม่ได้มีสัมพันธ์อะไรลึกซึ้งกับพี่เจนะคะ เพราะไม่ค่อยอยู่ด้วยกันแล้วนางก็ทำงานตปท.บ่อยๆด้วย  
    ส่วนกับตัวน้องแมคเอง น้องเค้าก็นอยด์คะ ที่แป้งยังไม่เคลียร์กับทางนู่น แต่แป้งเองก็อยู่กับน้องแมคแทบจะตลอดเวลาเลยทำให้น้องเค้ายังพอมั่นใจในตัวแป้งเองได้บ้าง จนเรื่องถึงวันนี้ คะ แป้งยอมรับว่าเห็นแก่ตัวนะคะ ที่สงสารทางพี่เจที่เค้าเป็น HIV แล้วยังไปหย่า ตามที่แป้งบอก(อย่างไม่ตั้งใจ) แล้วถ้าแป้งทิ้งเค้าไปมันจะเป็นอย่างไร จุดนี้แป้งยังคิดไม่ตกคะ สงสารทางน้องแมคที่เค้ายอมและรักแป้งทุกๆอย่าง (แต่น้องก็ยังดูแลแป้งไม่ได้)ทำให้ตอนนี้แป้งเองก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ว่าแป้งจะทำยังไงดีกับความรักเรื่องนี้คะ

              ที่แป้งออกมาเล่าเรื่องส่วนตัวนี้ เป็นเพราะว่าแป้งเห็นว่าผู้ชายหรือผู้หญิงก็ตามแต่ ทุกๆคนคิดว่าเรื่อง เอดส์เป็นเรื่องไกลตัว จริงๆแล้วมันใกล้ตัวแบบรดต้นคอเราเลยละคะ  เพียงแต่เราไม่สามารถจะรู้ได้ว่า รอบตัวเรา เพื่อนเรา คนที่ทำงานเรา หรือแม้แต่แฟนเรา  มีใครที่ติดเชื้อ HIV บ้าง ตราบใดที่ไม่มีการตรวจเลือด  พี่เจเป็นอีกบุคคลนึงที่ทำให้แป้งเห็นว่า เค้าใช้ชีวิตแบบไม่ระวังตัวเอง รวมถึงมักง่ายกับคนที่เค้ารัก  เค้าอาย กลัวการโดนดูถูกเหยียดหยาม ถ้ามีคนรู้ว่าเค้าติดโรคนี้ เค้าพยายามสร้างกำแพงที่สวยหรูไว้ล้อมกรอบตัวเค้า  เค้าบอกแป้งเองว่าใครจะไปรู้ว่าคนที่มีอนาคต มีทุกอย่างแบบเค้า จะมาเป็นโรคที่ทุกคนรังเกียจ  

           ผู้ชายรอบๆตัวแป้งหลายๆคน บอกเหตุผลของการไม่ใส่ถุงยางว่า  ไม่ได้ความรู้สึกเต็มที่บ้างละ,  ไว้ใจแฟนบ้างละ  , ลืมพกบ้างละ, อายที่จะไปซื้อบ้างละ, เหตุผลเหล่านี้ มันสุดจะงี่เง่าไร้สาระ ที่สุดของการที่เราจะหาเหตุผลอะไรสักอย่างนึงที่มันจะป้องกันตัวเราเอง และตัวคนที่เรารักจากทุกสิ่งทุกอย่าง  
           แป้งขอเตือนเลยนะคะ ไม่มีใครรู้หรอกคะ ว่า ใครคนที่ดูดีเลิศหรู เค้าจะมอบอะไรต่างๆให้เราได้บ้าง นอกเหนือจากเงิน ทอง ความรัก ชีวิตสุขสบาย  อาจจะมีบางสิ่งที่เราจะต้องเสียใจมันไปตลอดชีวิตก็ได้เพียงแค่คุณมองข้ามสิ่งเล็กๆน้อยๆไป  

ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจและติดตามจนจบคะ  


-แป้งก็เหลือแค่การตรวจระยะที่สาม ที่หวังว่ามันคงไม่มีเซอร์ไพรส์อะไรเกิดขึ้น  
-เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริงนะคะ  จริงๆดีเทลมันเยอะและยิ่งกว่าละครน้ำเนากว่านี้มากๆ แต่แป้งขอรวบรัดง่ายๆแบบนี้ดีกว่าคะ 
-สุดท้ายแล้วอยากให้ทุกๆคนที่เป็นอะไรก็ตามแต่  ความรักที่แท้จริงมีอยู่รอบตัวเรา คะ แค่เราอาจจะเจอช้าหรือเร็วก็เท่านั้นแระคะ  

สุดช็อค!! เมื่ออดีตเมียของแฟน บอกว่า แฟนฉันเป็นเอดส์


สุดช็อค!! เมื่ออดีตเมียของแฟน บอกว่า แฟนฉันเป็นเอดส์


สุดช็อค!! เมื่ออดีตเมียของแฟน บอกว่า แฟนฉันเป็นเอดส์

เกริ่นนำโดย teenee.com 
ขอบคุณที่มาเรื่องราวจาก pantip:: เป็นคนทุกที่ 



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์