พี่สาวเพิ่งซื้อคอนโด ย่าน RCA ตอนตี 3 ห้องข้างๆกลับทำแบบนี้

หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง อาหารสมอง พี่สาวเพิ่งซื้อคอนโด ย่าน RCA ตอนตี 3 ห้องข้างๆกลับทำแบบนี้

ข้อความจากพี่สาวฝากมานะคะ เนื้อหาดังนี้ค่ะ

พี่สาวเพิ่งซื้อคอนโด เป็นโครงการย่าน RCA อยู่คนเดียวนะคะ เพิ่งย้ายเข้าได้ไม่ถึงเดือน ซึ่งโครงการนี้ห้องเป็นแบบระเบียงติดกันค่ะ และห้องข้างๆ เค้ามีปัญหาเรื่องของหายเป็นประจำ ประเด็นมันก็เกิดขึ้น เมื่อเค้าสงสัยว่าห้องที่ระเบียงติดกันนี่แหล่ะเป็นคนเข้ามาขโมย Facepalm โดยเหตุการณ์เกิดคืนวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ประมาณตี 3 อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงถีบประตูห้องดังมาก! คาดว่าคงถีบแบบสุดแรง ก็เลยส่องตาแมวดู เห็นผู้ชายหน้าตาหน้ากลัวกำลังยืนจ้องตาแมวอยู่ ตอนแรกคิดว่าน่าจะเป็นใครในชั้นเมา แล้วมาผิดห้อง เพราะคอนโดนี้คนนอกเข้า-ออกค่อนข้างยาก เนื่องจากคีย์การ์ดเป็นระบบชั้นใครชั้นมัน , ฝั่งใครฝั่งมัน

สักพัก ผช. คนนั้นก็หายไป แต่ไม่ถึง 2 นาที ก็กลับมาถีบประตูอีก คราวนี้ถีบแบบรัวๆ เลยค่ะ พร้อมกับบิดลูกบิด และทุบๆ ห้อง และก็ตะโกนขึ้นมาว่า "ออกมา ออกมาเดี๋ยวนี้ กูจะคุยกับให้รู้เรื่อง ต้องออกมา" ตอนนั้นพี่สาวกลัวสุดขีด ไม่กล้าทำอะไร รีบโทรหา 191 แต่ต้องรอ 191 หาก่อนว่าคอนโดอยู่ สน. พื้นที่ไหน ระหว่างรอพี่สาวก็โทรหานิติฯ แต่นิติปิดโทรศัพท์ จึงโทรหาเพื่อน โชคดีที่เพื่อนคนนี้ตื่นมารับสายและอยู่ในเหตุการณ์ทางโทรศัพท์ด้วยตลอดเวลา

จากนั้นพี่สาวก็ตะโกนออกไปถามว่า "คุณเป็นใคร มาผิดห้องหรือป่าว" จังหวะเดียวกันผู้ชายคนนั้นก็เอามีดปักที่ประตู คงกะจะพังประตูให้ได้ จนมีดปักประตูทะลุเป็นกากบาทตามรูปนี้เลยค่ะ

พี่สาวกลัวมาก ก็เลยไปตะโกนขอความช่วยเหลือที่ระเบียง กลัวมันจะพังประตูเข้ามาสำเร็จ

เพราะมีมีดด้วย ตอนนั้นพี่สาวคิดว่า คงไม่รอดแน่ แต่ก็โชคดีมากที่มีน้องผู้ชายจากชั้น 3 ตื่นมาได้ยิน แล้วออกมาถามว่าอยู่ชั้นไหน ห้องอะไร แล้วก็ไปตาม รปภ. เพราะน้องเค้าขึ้นไปชั้นที่พี่สาวอยู่ไม่ได้ สักพัก รปภ. ก็ขึ้นมาค่ะ แต่ผู้ชายคนที่ถีบประตูหายไปแล้ว จากนั้นทุกคนก็ลงไปรอตำรวจจาก สน.มักกะสัน คุณตำรวจก็ขึ้นมาสำรวจบนห้อง

และบอกแค่ว่าให้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้

พี่สาวเพิ่งซื้อคอนโด ย่าน RCA ตอนตี 3 ห้องข้างๆกลับทำแบบนี้

ตอนเข้าไปพูดคุยกับผู้ชายคนนั้นว่าคุณเป็นผู้ต้องสงสัยนะ เค้าก็ทำหน้านิ่งๆ แล้วตอบแบบเฉยๆมากๆ ว่า "ผมนี่แหล่ะทำ" จากนั้นทุกคนก็ไปที่ สน.พร้อมกัน เค้าบอกตำรวจว่า ของเค้าหายบ่อยมาก เงินหาย ยาหาย กลับมาจากที่ทำงานก็เห็นข้าวของในห้องโดนรื้อ บางครั้งก็เปิดแอร์ในห้องทิ้งไว้ด้วย เค้าเจอแบบนี้มาเกือบปี คิดว่ายังไงก็ต้องเป็นห้องพี่สาว ที่เข้ามาขโมย เพราะระเบียงติดกัน แต่พี่สาวเพิ่งซื้อและย้ายเข้ามาอยู่ยังไม่ถึงเดือน ซึ่งขัดแย้งกับสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นพูด.

สุดท้ายก็จบตรงที่ตำรวจปรับ 200 บาท ข้อหาทำให้ตกใจ และให้ซ่อมประตูให้ โดยให้พี่สาวเอาใบเสร็จมาเรียกเก็บเงิน พอหลังจากนั้นไปขอดูกล้องวงจรปิดจากนิติฯ นิติแจ้งว่า ฮาร์ทดิสเสีย !?! โอ้วสุดยอดความปลอดภัยของโครงการ สรุปไม่มีหลักฐานอะไรเลย ซึ่งตอนนี้พี่สาวก็ย้ายออกมาแล้วค่ะ ไม่กล้ากลับไปอยู่ต่อ กลัวมาก ขวัญกระเจิง กลัวคนข้างห้องคนนั้นจะกลับมาทำร้ายอีก ซึ่งโครงการให้ความช่วยเหลือแค่เพียงให้ตำรวจมาคุยกับห้องข้างๆว่าอย่ามาทำร้ายห้องพี่สาวอีก และบอกให้พี่สาวกลับไปอยู่ได้แล้ว ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว...

นอกจากจะต้องผ่อนแบงค์โดยที่ไม่สามารถอยู่ได้ ยังจะต้องไปขออาศัยห้องเช่าของเพื่อนอีก ทางออกตอนนี้ที่ทางโครงการแนะนำ ก็คือให้ฝากขาย ทั้งๆที่โครงการเองก็ยังขายไม่หมด ซึ่งนอกจากค่าคอมมิชชั่นแล้วหมายถึงต้องมาจ่ายภาษีต่างๆ รวมกันคือต้องเสียเงินอีกเกือบสองแสน ส่วนตัวคิดว่าไม่ยุติธรรมค่ะ ทำไมพี่สาวต้องมารับผิดชอบเรื่องนี้คนเดียว ทั้งๆ ที่เป็นผู้ถูกกระทำ จึงอยากปรึกษาเพื่อนๆว่า เราควรทำอย่างไรดีคะ?

ขอคำแนะนำด้วยค่ะ อ้อ แล้วเพื่อนๆคิดยังไงกับการที่คอนโดตอบสนองต่อเหตุการณ์แบบนี้ ขอบคุณมากค่ะ