เหลือเชื่อ! การที่เรากินกล้วยหนึ่งลูกก่อนกินข้าว มันเป็นอะไรที่คุณคาดไม่ถึง!!
หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง อาหารสมอง เหลือเชื่อ! การที่เรากินกล้วยหนึ่งลูกก่อนกินข้าว มันเป็นอะไรที่คุณคาดไม่ถึง!!
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุชัดเจนว่าการรับประทานกล้วยแค่ 2 ลูกจะช่วยเพิ่มพลังงานในร่างกายได้เทียบเท่ากับการออกกำลังกายถึง 90 นาทีเลยทีเดียว กล้วยนอกเหนือจากช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายเรา และยังสามารถช่วยให้เราเอาชนะหรือรักษาโรคหลายอย่างได้ และช่วยทำให้เรามีสภาพร่างกายที่ดี ดังนั้นเราควรเพิ่มกล้วยเข้าไปอยู่ในเมนูอาหารประจำวันของเรา
ถ้ามีอาการดังต่อไปนี้ การกินกล้วยจะสามารถช่วยอาการพวกนี้ให้เบาลงได้
1. อาการซึมเศร้า: กล้วยจะช่วยรักษาโรคซึมเศร้าภาวะความเครียดเพราะกล้วยมีโปรตีนชิดหนึ่งซึ่งช่วยในการผลิตฮอร์โมนแห่งความสุขจึงมีส่วนช่วยในการผ่อนคลายอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น
2. โรคโลหิตจาง: เพราะในกล้วยมีธาตุเหล็กสูงซึ่งจะช่วยในการผลิตฮีโมโกลบินในเลือดเพื่อรักษาภาวะโลหิตจางหรือผู้ที่อยู่ในสภาวะขาดกำลัง
3. ความดันโลหิตสูง: กล้วยมีส่วนที่ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูงหรือเส้นเลือดฝอยแตกได้
4. ช่วยเพิ่มพลังให้แก่สมองของคุณ: ในอังกฤษมีเด็กนักเรียน 200 คน อยากจะเพิ่มพลังให้แก่สมองเพื่อช่วยการสอบ ในระหว่างภาคเรียน พวกเขาได้กินกล้วยที่เหมาะสมทุกวันในอาหารเช้า อาหารกลางวันและอาหารเย็น การวิจัยแสดงให้เห็นว่ากล้วยมีโพแทสเซียมอย่างสูง จะสามารถช่วยเพิ่มพลังให้แก่สมองของนักเรียนและเพิ่มความตั้งใจในการเรียน มีประโยชน์มากต่อการเรียนหนังสือ
1. อาการซึมเศร้า: กล้วยจะช่วยรักษาโรคซึมเศร้าภาวะความเครียดเพราะกล้วยมีโปรตีนชิดหนึ่งซึ่งช่วยในการผลิตฮอร์โมนแห่งความสุขจึงมีส่วนช่วยในการผ่อนคลายอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น
2. โรคโลหิตจาง: เพราะในกล้วยมีธาตุเหล็กสูงซึ่งจะช่วยในการผลิตฮีโมโกลบินในเลือดเพื่อรักษาภาวะโลหิตจางหรือผู้ที่อยู่ในสภาวะขาดกำลัง
3. ความดันโลหิตสูง: กล้วยมีส่วนที่ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูงหรือเส้นเลือดฝอยแตกได้
4. ช่วยเพิ่มพลังให้แก่สมองของคุณ: ในอังกฤษมีเด็กนักเรียน 200 คน อยากจะเพิ่มพลังให้แก่สมองเพื่อช่วยการสอบ ในระหว่างภาคเรียน พวกเขาได้กินกล้วยที่เหมาะสมทุกวันในอาหารเช้า อาหารกลางวันและอาหารเย็น การวิจัยแสดงให้เห็นว่ากล้วยมีโพแทสเซียมอย่างสูง จะสามารถช่วยเพิ่มพลังให้แก่สมองของนักเรียนและเพิ่มความตั้งใจในการเรียน มีประโยชน์มากต่อการเรียนหนังสือ
5. ท้องผูก: ช่วยรักษาอาการท้องผูกเพราะกล้วยมีเส้นใยและกากอาหารซึ่งจะช่วยให้ขับถ่ายได้อย่างปกติ
6. อาการหงุดหงิดยามเช้า: หลังอาหารเช้าก่อนอาหารกลางวันกินกล้วยจะสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
7. อาการคันที่เกิดจากยุงกัด: ด้วยการลองใช้ด้านในของเปลือกกล้วยทาบริเวณที่ถูกยุงกัดอาการคันจะลดลงไปได้ระดับหนึ่ง
8. ความเครียด: กล้วยมีวิตามินบีอย่างสูง จะสามารถช่วยบรรเทาระบบประสาทได้
6. อาการหงุดหงิดยามเช้า: หลังอาหารเช้าก่อนอาหารกลางวันกินกล้วยจะสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
7. อาการคันที่เกิดจากยุงกัด: ด้วยการลองใช้ด้านในของเปลือกกล้วยทาบริเวณที่ถูกยุงกัดอาการคันจะลดลงไปได้ระดับหนึ่ง
8. ความเครียด: กล้วยมีวิตามินบีอย่างสูง จะสามารถช่วยบรรเทาระบบประสาทได้
9. ผู้ที่เป็นแผลในลำไส้เรื้อรังหรือกระเพาะอักเสบ: การรับประทานกล้วยบ่อยๆถือเป็นสิ่งที่ดีมากเพราะกล้วยมีสภาพเป็นกลางมีความนิ่มและเส้นใยสูงทำให้ไม่เกิดการละคายเคืองในผนังลำไส้และกระเพาะอาหารด้วย
10. ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้เป็นปกติ: ในประเทศต่าง ๆ และวัฒนธรรมต่างๆต่างก็ยกย่องว่ากล้วยเป็นผลไม้ที่"ควบคุมอุณหภูมิ" ได้ สามารถนำมาใช้เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกายได้
11. ความกดดัน: กล้วยมีโพแทสเซียมอย่างสูง จะสามารถช่วยปรับอัตราการเต้นของหัวใจและช่วยส่งออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง เมื่อเราอยู่ภายใต้ความกดดันการเผาผลาญอาหารก็จะเร็วขึ้น ปริมาณของโพแทสเซียมก็จะลดลง เรากินกล้วยในตอนนี้ ก็จะช่วยเสริมโพแทสเซียมที่มาจากกล้วยให้กับร่างกายได้
12.โรคหลอดเลือดสมอง: กินกล้วยบ่อย จะสามารถช่วยลดโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ถึง 40 %
10. ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้เป็นปกติ: ในประเทศต่าง ๆ และวัฒนธรรมต่างๆต่างก็ยกย่องว่ากล้วยเป็นผลไม้ที่"ควบคุมอุณหภูมิ" ได้ สามารถนำมาใช้เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกายได้
11. ความกดดัน: กล้วยมีโพแทสเซียมอย่างสูง จะสามารถช่วยปรับอัตราการเต้นของหัวใจและช่วยส่งออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง เมื่อเราอยู่ภายใต้ความกดดันการเผาผลาญอาหารก็จะเร็วขึ้น ปริมาณของโพแทสเซียมก็จะลดลง เรากินกล้วยในตอนนี้ ก็จะช่วยเสริมโพแทสเซียมที่มาจากกล้วยให้กับร่างกายได้
12.โรคหลอดเลือดสมอง: กินกล้วยบ่อย จะสามารถช่วยลดโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ถึง 40 %
นอกจากนี้เปลือกด้านในของกล้วยยังช่วยทำความสะอาดรองเท้าหนังได้ เอาเปลือกด้านในของกล้วยมาขัดรองเท้าก่อน แล้วเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าที่แห้ง รองเท้าหนังของคุณก็จะสะอาดได้ทันที
ขอบคุณที่มา :: liekr
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!