พาลูกเที่ยววัง ด้วยรถไฟฟ้า

เมื่อแรกสถาปนาพระบรมราชวงศ์จักรี รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระนครและพระบรมมหาราชวัง ถนนหน้าพระลาน 

เพื่อเป็นที่ประทับ โดยยึดถือแบบแผนผังของพระราชวังหลวงสมัยกรุงศรีอยุธยา พร้อมทั้งสร้างพระอารามขึ้นในเขตพระราชฐานตามโบราณราชประเพณี คือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม 

เพื่อประดิษฐานพระแก้วมรกต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง พระบรมมหาราชวังเป็นที่ประทับและศูนย์กลางการปกครองของพระมหากษัตริย์มาจนถึงกลางสมัยรัชกาลที่ 5 จึงได้ย้ายไปประทับที่พระราชวังดุสิต

ปัจจุบัน พระบรมมหาราชวังใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่างๆ ตามพระราชประเพณี เป็นที่รับแขกเมือง ส่วนบริเวณพระราชฐานชั้นนอกเป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการ รวมถึงเป็นศูนย์รวมศิลปะงานช่างชั้นสูงอันทรงคุณค่าของไทย ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสาย  

 

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา : 08.30 – 15.30 น. 

ค่าเข้าชม : ชาวไทยไม่เสียค่าเข้าชม ชาวต่างชาติ 500 บาท (รวมค่าเข้าชมพระที่นั่งวิมานเมฆ) 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : 0 2623 5500 ต่อ 3100 

วิธีเดินทาง : ลงสถานีสะพานตากสิน S6 (สายสีลม) ใช้ทางออกที่ 2 จากนั้นต่อเรือด่วนเจ้าพระยาไปขึ้นที่ท่าช้างท่าเรือหมายเลข 9 และเดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาที จะถึงทางเข้าประตูพระบรมมหาราชวัง  

เว็บไซต์ : http://www.palaces.thai.net/vt/vtgp/ 

 

สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในปีพุทธศักราช 2443 และใช้เป็นที่ประทับเป็นเวลาถึง 5 ปี พระที่นั่งวิมานเมฆเป็นพระที่นั่งที่สร้างด้วยไม้สักทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่งดงาม ประณีต และได้รับอิทธิพลการก่อสร้างแบบตะวันตก องค์พระที่นั่งเป็นรูปตัวแอลในภาษาอังกฤษ เป็นอาคาร 3 ชั้น เฉพาะส่วนที่ประทับซึ่งเรียกว่า “แปดเหลี่ยม” มี 4 ชั้น ชั้นล่างสุดก่ออิฐถือปูน ชั้นถัดไปสร้างด้วยไม้สักทองทั้งหมด มีห้องจัดแสดงรวมทั้งสิ้น 31 ห้อง บางห้องยังคงลักษณะบรรยากาศในอดีตไว้ เช่น ห้องพระบรรทม ห้องท้องพระโรง และห้องสรง บางห้องจัดแสดงศิลปวัตถุแยกประเภท เช่น ห้องเครื่องเงินเครื่องแก้วเจียระไน ห้องเครื่องงาช้าง เป็นต้น และด้านหน้าของพระที่นั่ง เป็นที่จัดแสดงรถม้าพระที่นั่งโบราณ ซึ่งใช้ในสมัย ร.5 แต่ละคันมีความสง่าสวยงามและถือว่ามีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เพราะได้เข้าร่วมในพระราชพิธีสำคัญต่างๆ  

 

เวลาเปิด-ปิด  : อังคาร - อาทิตย์  เวลา : 09.30-16.00 น. ยกเว้นวันหยุดสำคัญประจำปี
ค่าเข้าชม :คนไทย 75 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :0 2281 5454 

วิธีเดินทาง : ลงสถานีอนุเสาววรีย์ชัยสมรภูมิ N3 (สายสุขุมวิท) ใช้ทางออกที่ 3 จากนั้นเดินตรงมุ่งหน้าไปทางถนนราชวิถี ต่อรถแท็กซี่ หรือรถโดยสารประจำทาง สาย 515 , 539 , 28 , 108ผ่านหน้าพระที่นั่งวิมานเมฆ 

เว็บไซต์ : http://www.vimanmek.com/ 

 

 

พระที่นั่งอนันตสมาคม เดิมเป็นท้องพระโรงของพระราชวังดุสิต ชื่อของพระที่นั่งนำมาจากพระที่นั่งองค์หนึ่งในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งสร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระที่นั่งองค์นี้จัดได้ว่าเป็นรัฐสภาแห่งแรกของประเทศไทย เพราะว่าในช่วงที่เพิ่งเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ได้ใช้พระที่นั่งองค์นี้ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ ณ รัฐสภาปัจจุบัน ซึ่งอยู่ข้างๆ พระที่นั่งองค์นี้ รวมทั้ง ยังเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธี รัฐพิธี สำคัญๆ มากมาย อาทิ รัฐพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ และในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2549 เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกมหาสมาคมและรับการถวายพระพรชัยมงคล ณ สีหบัญชรพระที่นั่งอนันตสมาคม ในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี  

 

เวลาเปิด-ปิด  : วันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 10.00 - 18.00 น.

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 75 บาท (คนไทยและชาวต่างชาติราคาเท่ากัน) 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  : 0 2283 9411 

วิธีเดินทาง : ลงสถานีอนุเสาววรีย์ชัยสมรภูมิ N3 (สายสุขุมวิท) ใช้ทางออกที่ 3 จากนั้นเดินตรงมุ่งหน้าไปทางถนนราชวิถี ต่อรถแท็กซี่ หรือรถโดยสารประจำทางสาย 515 , 539 , 28, 108 ผ่านหน้าพระที่นั่งวิมานเมฆ 

เว็บไซต์ : http://www.vimanmek.com/exhibit/anandasamakhom.php?lang=thai 

 

  

 

พระที่นั่งอภิเศกดุสิต เป็นพระที่นั่งองค์แรกๆ ที่สร้างขึ้นในเขตพระราชวังดุสิต ตั้งอยู่ทางตะวันออก ของพระที่นั่งวิมานเมฆ สร้างขึ้นโดยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากพระองค์ได้เสด็จกลับมาจากการประพาสยุโรปครั้งที่ 1 เพื่อใช้เป็นท้องพระโรง และสถานที่พระราชทานเลี้ยงสำหรับพระราชวังดุสิต และใช้เป็นสถานที่สำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการในงานประจำปีสวนดุสิต พระที่นั่งองค์นี้เป็นพระที่นั่งชั้นเดียว สร้างด้วยไม้เป็นส่วนมาก มีลวดลายฉลุไม้เรียกว่า ลายบุหงา มีการประดับกระจกสี และลวดลายปูนปั้นที่หน้าบันเป็นศิลปะแบบมัวร์ จึงทำให้พระที่นั่งองค์นี้งดงามมาก ปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้บูรณะพระที่นั่งองค์นี้ เพื่อเป็นอาคารจัดแสดงงานศิลปหัตถกรรมของสมาชิกมูลนิธิศิลปาชีพ และของสะสมในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และยังได้เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานเปิดเมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2536  

 

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา : 09.30-16.00 น. ยกเว้นวันหยุดสำคัญประจำปี 

ค่าเข้าชม : คนไทย 75 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท (กรณีที่ซื้อตั๋วเข้าชมพระบรมมหาราชวังแล้วจะรวมค่าชมพระที่นั่งอนันตสมาคม พระที่นั่งวิมานเมฆ พระที่นั่งอภิเษกดุสิต พระราชวังบางปะอิน และพระราชวังสนามจันทร์ ส่วนคนไทยต้องเสียค่าเข้าชมตามปกติ)

วิธีเดินทาง : ลงสถานีอนุเสาววรีย์ชัยสมรภูมิ N3 (สายสุขุมวิท) ใช้ทางออกที่ 3 จากนั้นเดินตรงมุ่งหน้าไปทางถนนราชวิถี ต่อรถแท็กซี่ หรือรถโดยสารประจำทาง สาย 515 , 539 , 28 , 108 ผ่านหน้าพระที่นั่งวิมานเมฆ 

เว็บไซต์ : http://www.vimanmek.com/exhibit/abhisekdusit.php?lang=thai 

 

 

ย้อนอดีตไปเมื่อปีพุทธศักราช 2451 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดซื้อที่สวนและนาบริเวณริมคลองสามเสนติดกับทุ่งพญาไท เป็นที่แปรพระราชฐาน เพื่อพักผ่อนพระอิริยาบท และทดลองปลูกธัญพืชต่างๆ โดยจัดให้สร้างพระตำหนักขึ้นเป็นที่ประทับ พระราชทานนามว่า "พระตำหนักพญาไท" ต่อมาเมื่อทรงโปรดที่จะเสด็จประพาสพระตำหนักแห่งนี้บ่อยครั้งขึ้น 

 จึงได้พระราชทานนามใหม่เป็น "วังพญาไท" ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เมื่อสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี เสด็จสวรรคต พระองค์จึงได้ทรงพระราชดำริจะสร้างพระราชมณเฑียรสถานขึ้นใหม่ เพื่อเป็นที่ประทับในวังพญาไท และได้โปรดเกล้าฯ ยกให้วังพญาไทขึ้นเป็นพระราชวังพญาไท เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบรมชนกนาถ และพระบรมราชชนนี

 

ในสมัยของสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ใช้วังนี้เป็นที่ตั้งของสถานีวิทยุกระจายเสียง ครั้นถึงพุทธศักราช 2475 เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง รัฐบาลได้ย้ายสถานีวิทยุกลับไปที่ศาลาแดง และให้กองเสนารักษ์จังหวัดทหารบกกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานพยาบาลกองทัพบกเข้ามาอยู่แทน และได้พัฒนาเป็นโรงพยาบาลทหารบกในเวลาต่อมา เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เคยเป็นพระราชวังของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 มาแต่เดิม และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติกองทัพบกจึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาติเปลี่ยนชื่อเป็น “โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า” 

  

เวลาเปิด-ปิด : เฉพาะวันเสาร์ เวลา : 09.30 น. และ 13.30 น. (วันจันทร์-ศุกร์ และวันอาทิตย์สามารถเดินเยี่ยมชมบริเวณภายนอกได้)

ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  : 0 2354 7987

วิธีเดินทาง : ลงสถานีอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ N3 (สายสุขมวิท) ใช้ทางออกที่ 3 แล้วเดินต่อไปทางถนนราชวิถีข้ามไปฝั่งตรงข้าม ผ่านหน้าวัดอภัยทายาราม ถึงโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า พระราชวังพญาไทจะอยู่ในบริเวณรั้วโรงพยาบาล

เว็บไซต์ : http://www.phyathaipalace.org/main/ 

 

 

พระตำหนักองค์นี้เคยเป็นพระตำหนักที่ประทับของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ สมเด็จพระอัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายในจัดแสดงของที่ระลึกที่ได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายในคราเสด็จพระราชดำเนินไปในการต่างๆ นอกจากนี้ภายในเขตพระราชวังดุสิตยังมีอาคารที่จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ภาพถ่าย ฝีพระหัตถ์ พิพิธภัณฑ์นาฬิกาโบราณ พิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณ พิพิธภัณฑ์เครื่องราชูปโภค และพระสาทิสลักษณ์  

 

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา : 09.30 – 16.00 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) 

ค่าเข้าชม : ชาวไทย เด็ก 20 บาท ผู้ใหญ่ 75 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท (รวมค่าเข้าชมพระที่นั่งอภิเษกดุสิต และ พิพิธภัณฑ์รถม้าพระที่นั่ง ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : 0 2628 6300 ต่อ 5120 และ 5121 (หากต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะต้องทำหนังสือแจ้งล่วงหน้า)

วิธีเดินทาง : ลงสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ N3 (สายสุขุมวิท) ใช้ทางออกที่ 3 และต่อรถแท็กซี่ไปทางถนนราชวิถีเพื่อไปยังพระที่นั่งวิมานเมฆ 

 

 

เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่าน ทรงได้รับการถวายสมัญญานามว่า “พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์และโบราณคดี” และ “พระบิดาของกระทรวงมหาดไทย” และทรงเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับการยกย่องจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ให้เป็น “บุคคลสำคัญของโลก” เมื่อปีพ.ศ. 2505 

พระตำหนักที่ประทับเป็นสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบเรอเนสซองส์ ได้สร้างแล้วเสร็จเมื่อปีพ.ศ. 2454 ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนบุคคล โดยหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ทายาทชั้นเหลน ผู้สืบราชสกุล 

 

เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ - ศุกร์ โดยติดต่อล่วงหน้า และต้องเป็นหมู่คณะจำนวนตั้งแต่ 50 ท่านขึ้นไป

ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  : 081 689 3994 

วิธีเดินทาง : ลงสถานีราชเทวี ออกทางออกที่ 1 ต่อเรือโดยสารคลองแสนแสบที่ท่าสะพานหัวช้างขึ้นที่ท่าผ่านฟ้าลีลาศ ใกล้วัดสระเกศ จากนั้นเดินผ่านแยกผ่านฟ้าลีลาศ เข้าสู่ถ.หลานหลวง จะพบวังวรดิศ หรือออกทางออกที่ 3 ต่อรถประจำทางสาย60 และ 174

 เว็บไซต์ : http://www.prince-damrong.moi.go.th 

 

 

เคยเป็นวังที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าพรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทววะวงศ์วโรปการ “บิดาแห่งการต่างประเทศของไทย” ผู้ทรงช่วยแก้ปัญหาด้านการต่างประเทศของบ้านเมืองในสมัยรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และทรงคิดทำปฏิทินไทยใช้ตามสุริยคติ ซึ่งเป็นต้นแบบของปฏิทินที่ใช้กันทุกวันนี้ จุดเด่นของวังนี้อยู่ที่กันสาดแบบต่างๆ ลายปูนปั้นรูปก้นหอย และปูนฉลุลายดอกไม้สี่กลีบที่หาดูได้ยาก วังเทวะเวสม์ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปีพ.ศ. 2461 วังนี้เป็นวังพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์โดยอยู่ในความดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย

 

เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา : 9.00-12.00 น. และ 13.00-16.00 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร) (เฉพาะวันจันทร์และอังคาร เปิดให้เข้าชม โดยไม่ต้องติดต่อล่วงหน้า)

ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  : 0 2283 5286 

วิธีเดินทาง : ลงสถานีพญาไท ออกทางออกที่ 3 ต่อรถประจำทางสาย 72 หรือลงสถานีราชเทวี ออกทางออกที่ 3 ต่อรถประจำทางสาย 99 หรือลงสถานีสะพานตากสิน ออกทางออกที่ 2 ต่อเรือด่วนเจ้าพระยาที่ท่าสาทร ไปขึ้นที่ท่าเทเวศร์ 

 เว็บไซต์ : http://www.bot.or.th/Thai/BOTMuseum/Pages

 

 

เป็นพระราชวังแห่งเดียวที่สร้างในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ได้ทรงย้ายราชธานีมาอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา และได้ทรงสร้างพระบรมมหาราชวังขึ้นเป็นที่ประทับ พระราชวังกรุงธนบุรีจึงได้รับการเรียกขานว่า “พระราชวังเดิม” ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ  

 

เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้ชมเป็นหมู่คณะ วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา : 9.30-11.30 น. และ 13.00-16.00 น. (ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)

ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  : 0 2245 4117, 0 2466 9355 และ 0 2472 7291 

วิธีเดินทาง : ลงสถานีสะพานตากสิน ออกทางออกที่ 2 ต่อเรือด่วนเจ้าพระยาที่ท่าสาทร ไปขึ้นที่ท่าเตียน และนั่งเรือข้ามฟากขึ้นท่าวัดอรุณ และเดินต่อไปจนถึงถ.วังเดิม พระราชวังเดิมตั้งอยู่ทางซ้ายมือที่เดียวกับกองทัพเรือ

เว็บไซต์ : http://www.wangdermpalace.org/index_thai.html 

 

 

ในอดีตเป็นที่ประทับของจอมพลเรือ จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นผู้ทรงมีพระอัจฉริยภาพหลายด้าน ทั้งด้านการทหาร การปกครอง และการดนตรี วังบางขุนพรหมเป็นสถานที่ประชุมสโมสรสันนิบาตต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองมาหลายสมัย นอกจากนี้ ยังมีการเรียกขานว่าเป็น “บางขุนพรหม ยูนิเวอร์ซิตี้” เพราะได้มีการเชิญครูต่างประเทศมาสอนวิชาการต่างๆ แก่พระธิดาและเจ้านายฝ่ายในของวังอื่นๆ อีกด้วย ตำหนักวังบางขุนพรหมก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อปีพ.ศ. 2449 เป็นสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบบาโรกและโรโกโก ปัจจุบันจัดเป็นพิพิธภัณฑ์เงินตราไทยที่สมบูรณ์แบบของประเทศตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน 

 

เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา : 9.00-12.00 น. และ 13.00-16.00 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร) (เฉพาะวันจันทร์และอังคาร เปิดให้เข้าชม โดยไม่ต้องติดต่อล่วงหน้า)

ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  : 0 2283 5286 

วิธีเดินทาง : ลงสถานีราชเทวี ออกทางออกที่ 3 ต่อรถประจำทางสาย 99 หรือลงสถานีสะพานตากสิน ออกทางออกที่ 2 ต่อเรือด่วนเจ้าพระยาที่ท่าสาทร ไปขึ้นที่ท่าพระราม8 เดินไปตาม ถ.วิสุทธิกษัตริย์

เว็บไซต์ : http://www.bot.or.th/Thai/BOTMuseum/Pages/BOTMuseum1.aspx