หลักฐานเด็ดชี้ชัดว่าสาวไทยในวังสมัยก่อนมีการ เล่นเพื่อน(ตีฉิ่ง)

หญิงสาวในรั้วในวังสมัยก่อนนั้นมักถูกจำกัดในเรื่องความรัก จะไปพบปะกับผู้ชายอื่นๆเพื่อสร้างครอบครัวแทบจะเป็นไปไม่ได้ และนั้นคือที่มาของเรื่องนี้ ซึ่งถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทย มีหลักฐานเป็นคำกล่าวคำกลอนมาเป็นร้อยๆปีแล้วจ้า

เรื่องที่โด่งดังที่สุด เห็นว่าจะหนีไม่พ้นเรื่องของ หม่อมสุด และ หม่อมขำ ระหว่างที่ถูกโอนมารับใช้งานในพระตำหนัก กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ ทั้งสองหม่อมได้ก่อเรื่องรักแบบ เล่นเพื่อน ให้ดังกระฉ่อนทั่ววังมาแล้ว หม่อมสุดมีหน้าที่อ่านหนังสือถวายก่อนบรรทม ครั้งหนึ่งหม่อมสุดและหม่อมขำอยู่เวรห้องบรรทมคู่กัน ทั้งคู่เข้าใจว่ากรมหมื่นอัปสรสุดาเทพบรรทมหลับแล้ว จึงดับเทียนและเอาผ้าคลุมโปงกอดจูบกันอยู่ที่ปลายพระบาท กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพยังไม่หลับจึงเห็นพฤติกรรมทั้งหมด และโปรดให้สมญาหม่อมสุดว่า “คุณโม่ง” เพราะมีพฤติกรรม “เอาแพรเพลาะหอมกรอมหุ้มกันคลุมโปง จึงตรัสเรียกว่า คุณโม่ง แต่นั้นมา” ส่วนหม่อมขำทรงให้สมญาว่า “หม่อมเป็ด” เพราะกิริยาอาการเดินมีลักษณะ “เดินเหินโยกย้ายส่ายกิริยา จึงชื่อว่า หม่อมเป็ดเสด็จประทาน”
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานถึง พระบรมราโชวาทของ รัชกาลที่ 4 ที่โปรดประธานแก่ พระเจ้าลูกเธอทุกพระองค์ ความว่า “…พ่อขอเสียเป็นอันขาดทีเดียว คิดถึงคำพ่อให้มากนักหนา อย่าเล่นเพื่อนกับใครเลย มีผัวมีเถิด แต่อย่าให้ปอกลอกเอาทรัพย์ของเจ้าไปได้…”
เห็นได้ชัดเจนว่าเรื่องราวความรักระหว่างหญิงกับหญิง หรือการเล่นเพื่อนในสมัยโบราณนั้นมีมาจริงนานแล้ว หลักฐานเหล่านี้ได้มาจาก บทความ “หม่อมห้าม เลสเบี้ยน” ศิลปวัฒนธรรม ฉบับที่ 1ปีที่ 1พย.2522 เดียว