เรื่องเล่าสุดปีติ เมื่อครั้ง หลวงพ่อคูณ เข้าเฝ้าฯ ในหลวง-สมเด็จพระราชินีฯ
หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง อาหารสมอง เรื่องเล่าสุดปีติ เมื่อครั้ง หลวงพ่อคูณ เข้าเฝ้าฯ ในหลวง-สมเด็จพระราชินีฯ
เผยเรื่องราวน่าปลื้มปีติ เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ มาที่วัดบ้านไร่ เมื่อปี 2538 และหลวงพ่อคูณได้เข้าเฝ้าฯ
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2558 ที่เฟซบุ๊ก นิทรรศการพลังแผ่นดิน อัศจรรย์งานศิลป์แผ่นดินสยาม ได้โพสต์บทความเรื่อง "พระเจ้าอยู่หัวกับ...พระอริยสงฆ์แห่งแผ่นดิน" ซึ่งเล่าเรื่องราวเมื่อครั้งที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ มาที่วัดบ้านไร่ เมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2538
โดยครั้งนั้น พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ พระเกจิแห่งบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายเงินปัจจัย จำนวน 72 ล้านบาท
aa30
ทั้งนี้ ยังมีเรื่องราวที่ลูกศิษย์ได้ไต่ถามหลวงพ่อคูณว่า ในหลวงตรัสอะไรกับท่านบ้าง และท่านเรียกในหลวงว่าอย่างไร
ซึ่งคำตอบนั้นแสดงให้เห็นถึงไหวพริบและวิจารณญาณของหลวงพ่อคูณที่ท่านเลือกใช้คำพูดอย่างถูกกาลเทศะ และทราบถึงพระจริยวัตรและน้ำพระทัยอันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ไม่ถือพระองค์
ดังข้อความต่อไปนี้
“พระเจ้าอยู่หัวกับ...พระอริยสงฆ์แห่งแผ่นดิน”
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯ มาที่วัดบ้านไร่ วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2538 เพื่อทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่บุษบกเหนือพระอุโบสถวัดบ้านไร่
เหล่าพสกนิกรชาวบ้านโดยเฉพาะชาวบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา และพื้นที่ใกล้เคียงต่างก็ได้มารวมตัวกันมาก เพื่อชื่นชมในพระบารมี เฝ้าฯ รับเสด็จฯทั้งสองพระองค์อย่างเนืองแน่น
ทั้งนี้ ได้การจัดสร้างพระยอดธงรุ่นแรกหรือรุ่นทูลเกล้าเนื่องในโอกาสดังกล่าว
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทราบถึงความลำบากยากแค้นของชาวด่านขุนทด ซึ่งประสบปัญหาขาดแคลนน้ำทุกปี จึงพระราชทานพระราชดำริและเงินจำนวนดังกล่าวให้กรมชลประทานดำเนินการโครงการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวด่านขุนทด ภายใต้ชื่อ "โครงการพัฒนาลำน้ำสาขาห้วยสามบาท อันเนื่องมาจากโครงการพระราชดำริ"
ในครั้งนั้นพระเทพวิทยาคม หรือคูณ ปริสุทโธ พระเกจิแห่งบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งลูกศิษย์ได้ตั้งสมญาให้เป็น "เทพเจ้าแห่งด่านขุนทด" ได้ทูลเกล้าฯ ถวายเงินปัจจัย ๗๒ ล้านบาท โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย
คนกว่าสองแสนชีวิตต่างพากันมีความปลื้มปีติอย่างหาที่สุดมิได้ โดย หลวงพ่อคูณเองที่เป็นผู้ที่เรียกได้ว่า เนรมิตงานประวัติศาสตร์ในครั้งนั้นได้สำเร็จ
ทั้งนี้ หลวงพ่อคูณ เปิดเผยกับลูกศิษย์ภายหลังว่า "กูรู้สึกดีใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ บุญทานอื่นทำมามาก แต่ทำบุญกับพระเจ้าอยู่หัวยังไม่ได้ทำ.. ทำบุญกับท่านยิ่งใหญ่นัก
ได้ทูลเกล้าฯ ถวาย ๗๒ ล้านบาท ภูมิใจมหาศาล เงินที่ลูกหลานบริจาคทีละเล็กละน้อยสะสมรวมไว้เพื่อทูลเกล้าฯ ถวาย พี่น้องจะได้รับอานิสงส์ด้วย
พี่น้องรู้ว่า ทูลเกล้าฯ ถวายพระเจ้าอยู่หัวก็ดีใจมาก ชาวต่างประเทศก็มากันมาก จีนก็มา เกาหลีก็มา อินเดียก็มา
ทำแล้วแต่กำลัง คนละสิบบาท ยี่สิบบาท มากันทุกวัน ยิ่งถ้ามาช่วยกันแล้ว ก็ไม่ได้มาหาสิ่งตอบแทนอะไร เขามาด้วยศรัทธากันจริง ๆ"
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นที่จะมีงานใหญ่ บรรดาลูกศิษย์ต่างก็พากันเป็นห่วง กลัวว่าหลวงพ่อคูณท่านจะพูดราชาศัพท์ไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้หลวงพ่อท่านก็บอกว่า
"จะไปยากอะไร ก็พูดว่าขอถวายพระพรมหาบพิตร หรือไม่ก็ถวายพระพรคุณโยม ท่านสบายดีหรือ ... ท่านคงจะไม่ถือ เพราะท่านเป็นจอมปราชญ์ พูดอย่างไรกับท่าน ท่านก็ย่อมรู้ดี"
ไหวพริบและวิจารณญาณของหลวงพ่อคูณช่างน่ายกย่อง ท่านเลือกใช้คำพูดอย่างถูกกาลเทศะ และทราบถึงพระจริยวัตรและน้ำพระทัยอันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดีว่า พระองค์ท่านไม่เคยถือตัวถือตนว่าเป็นพระมหากษัตริย์เลย เป็นจอมปราชญ์ดังที่หลวงพ่อคูณกล่าวยกย่องอย่างแท้จริง
ยังความปลาบปลื้มและความสุขอันประมาณไม่ได้ มาสู่ชาวบ้านไร่และหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ยิ่งนัก
คราวนั้นทั้งสองพระองค์ทรงปลูกต้นคูณไว้ด้วย ที่เราสามารถเห็นได้ที่ลานกลางวัด และว่ากันว่าเป็นวันที่หลวงพ่อคูณภูมิใจมากที่สุดในชีวิต
และจากคำบอกเล่าของลูกศิษย์ใกล้ชิด และเคยถามหลวงพ่อว่า ในหลวงตรัสอะไรกับหลวงพ่อบ้าง
หลวงพ่อคูณเงียบเพียงครู่ ก่อนจะตอบมาเบา ๆ ว่า "มึงรู้ไหม มือพระองค์เป็นมือคนทำงานอย่างก๊ะชาวไร่ชาวนา แข็งกระด้างมาก ๆ" และเมื่อถูกถามอีกว่า "หลวงพ่อใช้คำเรียกพระองค์ว่าอะไร"
หลวงพ่อท่านเงียบ แล้วก็ตอบว่า พระองค์ตรัสประโยคแรกว่า
"หลวงพ่อครับ พูดตามปกตินะครับ ผมเป็นคนไทย"
ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมทั้งพระสยามเทวาธิราช และพลังแห่งความยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จงคุ้มครองดลบันดาลให้ในหลวงและพระราชินี เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ และพละ ขอให้มีกำลังใจกล้าแข็ง กำลังกายสมบูรณ์แข็งแรง จะได้สามารถเผชิญและเอาชนะอุปสรรคทั้งมวล และยังความสุขให้เกิดแก่พระองค์ทั้งสองรวมถึงราชวงศ์และบ้านเมืองสืบไป
ขอนอบน้อมเคารพสักการะแด่องค์พระพุทธรัตนะ ซึ่งเป็นธรรมะโอสถวิเศษประเสริฐล้ำเลิศอุดม พระทรงสั่งสมพระบารมี บำเพ็ญประโยชน์ อำนวยความสุขสวัสดิ์ แก่ทวยเทพและมวลมนุษย์ สุดจะนับ จะคณนา หาประมาณมิได้
ด้วยเดชะแห่งพระพุทธรัตนะ ซึ่งเป็นที่พึ่ง ที่กำจัดภัยได้จริง ขอจงขจัด อุปัทวันตราย และความทุกข์ทั้งหลาย ที่มาพ้องพาน ให้ สูญสลายหายไปโดยพลัน มีแต่ความสุขกายสำราญใจ ในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ เทอญ
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยสืบไป
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ขอบคุณข่าวจาก welovethaiking.com/
เครดิต :