สงครามกลางเมืองรัฐยะไข่ เริ่มต้นจาก ชาวโรฮิงญาได้ฆ่าพระและข่มขืนหญิงพุทธชาวบ้าน เรื่องจึงบานปลายจนถึงทุกวันนี้ เมืองไทย ตอนนี้สงสาร รับไว้ แต่อนาคต ลูกหลานพวกเราจะต้องวุ่นวายแน่นอน ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ
พวกเขาไม่ใช่เชื้อชาติพม่า แถมในอดีตยังเป็นเครื่องมือรบแบบกองโจรให้อังกฤษในยุคล่าอาณานิคม จนพม่าต้องกลายเป็นเมืองขึ้น ทางพม่าจึงปฏิเสธ หากรับไว้วันหนึ่งเขาก็จะเรียกร้องสัญชาติ เรียกร้องสิทธิต่างๆ สุดท้ายคงต้องเฉือนดินแดนออกไปให้พวกเขา ตอนนี้พม่าก็เกิดปัญหานี้ เหตุเคยสงสารเมื่อ หกสิบปีก่อน ตอนนี้จึงเกิดสงคราม เขาเคยให้แผ่นดินเพื่อเข้ามาพักพิงจนวันหนึ่งกลับบอกว่า แผ่นดินนั้นๆ คือบ้านที่บรรพบุรุษครอบครอง
ประเทศไทยเลี้ยงดูโรฮิงญาด้วยอาหารสามมื้อแถมยังมีคนล้างจานทำครัวให้ ทำให้ขนาดนี้มันยังมาประท้วงเรียกร้องให้เพิ่มค่าอาหารรายหัวในค่ายอพยพ ทั้งที่พวกนี้กินดีอยู่ดีกว่าคนไทยรอบๆค่าย งบประมาณเลี้ยงดูยังสูงกว่าเงินให้รายเดือนกับคนสูงอายุที่เป็นไทยแท้ๆเสียภาษีให้รัฐมาตลอดชีวิตเสียอีก
ชาวโรฮิงยา เรียกร้องอาหาร เช้า เป็นขนม น้ำชา กาแฟ และโอวัลติน และยังเรียกร้องให้นำเนื้อวัวมาปรุงให้ทาน โดยใช้วิธีประท้วงไม่กินอาหารเพื่อ เรียกร้องให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ และยังไม่ยอมทำความสะอาดที่นอน ขี้เกียจ สกปรก วันๆ จ้องแต่จะมีเพศสัมพันธ์ ไม่ยอมทำหมันคุมกำเนิด จนมีลูกหลานออกมามากมาย ฯลฯ
องค์กรระหว่างประเทศชั่วๆ อย่าง UN , UNSCR มันก็แค่เครื่องมือของประเทศมหาอำนาจที่เห็นแก่ตัว ประเทศของพวกมันไม่เคยมีภาระผู้ลี้ภัยจำนวนมหาศาล เพราะมันผลักดันให้ไปอยู่ในประเทศอื่นๆ จนประเทศนั้นๆ เกิดปัญหา พวกมันก็ไม่เคยมาช่วยแก้ไข อ้างแต่สิทธิมนุษยชน
ประเทศไทยมีงบประมาณค่าอาหารกลางวันให้เด็กไทยเองหัวละ 13 บาท/มื้อ แต่ผู้อพยพมีค่าอาหารหัวละ 25 บาท/มื้อ
เหตุผลแค่นี้เพียงพอหรือยังที่เราจะไม่รับมาอยู่ในประเทศไทย ?!?!