ผลพวงจากปฏิบัติการ "ราชพฤกษ์โมเดล" ปิดล้อมจับเด็กแว้นได้กว่า 400 คน เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ทำให้ "ขาซิ่ง" ทั้งหลายระมัดระวังตัวแจขึ้น ดังนั้น ก่อนออกซิ่งทุกครั้ง เป็นที่รับรู้กันในแวดวงว่าจะต้องเช็กเพจ เว็บไซต์ แจ้งข้อมูลด่านตำรวจก่อน และมีการกระจายข่าวถึงกัน เพื่อหลบหนีการจับกุม
ทำให้การตั้งด่านระยะหลังของตำรวจคว้าน้ำเหลวหลายพื้นที่
นอกจากเด็กแว้นและสาวสก๊อย นักบิดวัยโจ๋และสาววัยกระเตาะที่ชอบซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ ทั้งหลายเช็กข่าวก่อนแว้น จึงกลายเป็น "นกรู้" ไม่ยอมเป็นหมูในอวยให้ตำรวจไล่ต้อนล้อมจับอีกแล้ว ยังมีบรรดาผู้ขับขี่ยวดยานยามค่ำคืน มักใช้ช่องทางการรายงานจุดตั้งด่านเหล่านี้ เป็นข้อมูลประกอบการเดินทาง
เรื่องนี้ทำให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ถึงกับควันออกหู ประกาศกร้าวให้จัดการดำเนินคดีกับบรรดาเพจเฟซบุ๊กต่างๆ ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลการตั้งด่านของตำรวจ
ผบ.ตร.บอกว่า เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ถือว่าเข้าข่ายขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่และสนับสนุนให้กระทำความผิด
พร้อมสั่งการให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ตรวจสอบหาเว็บไซต์ เว็บเพจ หรือช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลที่ตั้ง เวลา การตั้งด่านของตำรวจ และอาจเป็นข้อมูลให้กับเด็กแว้นและผู้หวังจะก่ออาชญากรรม
ปรากฏว่าเมื่อสำรวจแล้วพบว่ามีเพจเฟซบุ๊ก ในลักษณะดังกล่าวอยู่แทบจะทั่วประเทศ
บางจังหวัดมีถึง 5 เพจ อาทิ เพจชมรมเฝ้าระวังด่านตรวจในกรุงเทพมหานคร, เพจเรารักด่านตำรวจ, เพจแจ้งด่านตรวจ, จุดตรวจเป่า แอลกอฮอล์, เพจเรารักด่านตรวจ, เพจเรารักด่านพัทยา, เพจมีด่านบอกด้วย ฝั่งธน, เพจสมุทรปราการ บอกด้วย, เพจมีด่านบอกด้วย อุบลราชธานี, เพจขอนแก่น มีด่านบอกด้วย, เพจเช็กด่านย่านศรีนครินทร์ อ่อนนุช อุดมสุข และเพจแจ้งด่านตรวจทั่ว กทม. เป็นต้น
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร. ให้ข้อมูลว่า จากการตรวจสอบพบว่าปัจจุบันมีเพจเฟซบุ๊ก รวมทั้งเว็บไซต์ที่เปิดเผยข้อมูลการตั้งด่านมากกว่า 50 เพจ ทั่วประเทศ เริ่มได้รับความนิยมมีผู้คนติดตามมากขึ้นหลักหมื่นถึงแสนคนในช่วงปีที่ผ่านมา
โฆษก ตร.กล่าวว่า เพจแจ้งข้อมูลด่านส่วนใหญ่ทำเป็นเน็ตเวิร์ก มีการให้ข้อมูลต่อเนื่องกัน มีผู้มาโพสต์แจ้งข้อมูลการตั้งด่าน และเวลาการตั้ง ข้อมูลที่แพร่ในเพจต่างๆ หากมิจฉาชีพ ทุจริตชนนำไปใช้เป็นประโยชน์กับตัวในการวางแผน เลี่ยงหลบด่านตรวจ ข้อมูลเหล่านี้เป็นโทษทันที บางเพจให้ข้อมูลถึงขั้นเส้นทางหลบหนี เลี่ยงด่าน มอนิเตอร์แบบเรียลไทม์เวลาด่านตั้งด่านเลิก
"การแพร่ข้อมูลนี้ต้องตั้งคำถามว่ามีเจตนาอย่างไร จะอ้างว่าเพื่อให้ข้อมูลด่านเฉยๆ ถามกลับอีกว่าเพื่ออะไร ?"
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าว และว่า บางคนอ้างว่าให้ข้อมูลประชาชนเตรียมตัวก่อนถึงด่าน ต้องอธิบายว่าไม่จำเป็นเลยเพราะการตรวจที่ด่านไม่ต้องมีเอกสารอะไร เพียงแค่ทำตัวให้ถูกต้องตามกฎหมายพอแล้ว ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าด่านอยู่ตรงไหน เวลาใด คนทำถูกกฎหมายไม่จำเป็นต้องรู้ทางหนีทีไล่ แต่ข้อมูลเหล่านี้ถ้าคนร้ายนำไปใช้ ผู้แพร่ข้อมูลทั้งแอดมินและคนโพสต์ส่งต่อ ล้วนมีความผิดฐานร่วมสนับสนุนการหลบหนี
เมื่อดำเนินคดีต้องไปสู้กันที่เจตนาว่าหากแพร่ข้อมูลมีเจตนาให้ผู้รับทราบข้อมูลเลี่ยงกฎหมาย หลบหนีได้ ตรงนี้ก็ผิด
เพจแจ้งข้อมูลด่านส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากกลุ่มขับรถแข่งพยายามหาข้อมูลด่านเพื่อแจ้งให้สมาชิกหลีกเลี่ยง ขยายมาเรื่อยๆ เป็นแจ้งข้อมูลด่านตรวจแอลกอฮอล์ และด่านอื่นๆ ต้องย้ำว่าการให้ข้อมูลด่านมีความผิด นำข้อมูลทางราชการ ข้อมูลด้านความมั่นคงมาเปิดเผยผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14
โฆษก ตร.กล่าวด้วยว่า ข้อมูลการตั้งด่านของตำรวจ ถือเป็นข้อมูลราชการ เกี่ยวกับความมั่นคง แต่ไม่ได้หมายความว่าตำรวจจะแอบตั้ง มีเจตนาดัก เพราะปกติการตั้งด่านจะแสดงสัญลักษณ์เปิดเผยชัดเจน ย้ำว่าการออกมากวดขันจับกุมเพจเหล่านี้ไม่ใช่การจำกัดสิทธิ แต่ทำเพื่อปรามผู้ที่นำข้อมูลไปใช้ไปเผยแพร่โดยมีเจตนาแฝงเพื่อให้คนเลี่ยงการถูกบังคับใช้กฎหมาย อยากให้เปลี่ยนเป็นแจ้งข้อมูลเบาะแสคนร้าย รถซิ่ง สิ่งผิดกฎหมายแทน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบเพจต่างๆ ลักษณะนี้ หากพบความผิดจะดำเนินคดีทุกราย
ขณะที่ พ.ต.อ.โอฬาร สุขเกษม ผกก.3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ขยายความเพิ่มเติมว่า มีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้มีการตรวจสอบเพจที่มีการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ต่างๆ ว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดหรือไม่
เบื้องต้นจากข้อมูลที่เจ้าหน้าที่มีและตรวจสอบอย่างละเอียดกว่า 10 เพจนั้น ยังไม่พบว่ามีความผิดตามกฎหมายในข้อใด
อยากฝากประชาสัมพันธ์เหล่าแอดมิน หรือผู้ก่อตั้งเพจว่า หากเพจของเราเป็นเพียงการแชร์ด่านหรือแชร์จุดตรวจกับเพื่อนพ้องหรือผู้ใช้ถนนเท่านั้นก็ไม่เป็นไร
แต่หากเกิดกรณีการกระทำความผิด อาทิ ลักลอบขนยาเสพติด หรือลักขโมยรถของบุคคลอื่น แล้วจับกุมได้ภายหลัง พร้อมตรวจสอบว่าในโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใดๆ มีการกดไลค์ หรือติดตามเพจในลักษณะดังกล่าว พร้อมสารภาพว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้กระทำความผิดสามารถหลบหลีกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ก็ถือว่าเพจดังกล่าวสนับสนุนการกระทำความผิด
บอกกันถึงขนาดนี้แล้ว คงรู้ล่ะว่าแชร์-ไลค์ หรือส่งต่อข้อความที่ตั้งด่านไปสู่สาธารณะนั้นผิดหรือไม่ผิด
ทำให้การตั้งด่านระยะหลังของตำรวจคว้าน้ำเหลวหลายพื้นที่
นอกจากเด็กแว้นและสาวสก๊อย นักบิดวัยโจ๋และสาววัยกระเตาะที่ชอบซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ ทั้งหลายเช็กข่าวก่อนแว้น จึงกลายเป็น "นกรู้" ไม่ยอมเป็นหมูในอวยให้ตำรวจไล่ต้อนล้อมจับอีกแล้ว ยังมีบรรดาผู้ขับขี่ยวดยานยามค่ำคืน มักใช้ช่องทางการรายงานจุดตั้งด่านเหล่านี้ เป็นข้อมูลประกอบการเดินทาง
เรื่องนี้ทำให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ถึงกับควันออกหู ประกาศกร้าวให้จัดการดำเนินคดีกับบรรดาเพจเฟซบุ๊กต่างๆ ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลการตั้งด่านของตำรวจ
ผบ.ตร.บอกว่า เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ถือว่าเข้าข่ายขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่และสนับสนุนให้กระทำความผิด
พร้อมสั่งการให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ตรวจสอบหาเว็บไซต์ เว็บเพจ หรือช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลที่ตั้ง เวลา การตั้งด่านของตำรวจ และอาจเป็นข้อมูลให้กับเด็กแว้นและผู้หวังจะก่ออาชญากรรม
ปรากฏว่าเมื่อสำรวจแล้วพบว่ามีเพจเฟซบุ๊ก ในลักษณะดังกล่าวอยู่แทบจะทั่วประเทศ
บางจังหวัดมีถึง 5 เพจ อาทิ เพจชมรมเฝ้าระวังด่านตรวจในกรุงเทพมหานคร, เพจเรารักด่านตำรวจ, เพจแจ้งด่านตรวจ, จุดตรวจเป่า แอลกอฮอล์, เพจเรารักด่านตรวจ, เพจเรารักด่านพัทยา, เพจมีด่านบอกด้วย ฝั่งธน, เพจสมุทรปราการ บอกด้วย, เพจมีด่านบอกด้วย อุบลราชธานี, เพจขอนแก่น มีด่านบอกด้วย, เพจเช็กด่านย่านศรีนครินทร์ อ่อนนุช อุดมสุข และเพจแจ้งด่านตรวจทั่ว กทม. เป็นต้น
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร. ให้ข้อมูลว่า จากการตรวจสอบพบว่าปัจจุบันมีเพจเฟซบุ๊ก รวมทั้งเว็บไซต์ที่เปิดเผยข้อมูลการตั้งด่านมากกว่า 50 เพจ ทั่วประเทศ เริ่มได้รับความนิยมมีผู้คนติดตามมากขึ้นหลักหมื่นถึงแสนคนในช่วงปีที่ผ่านมา
โฆษก ตร.กล่าวว่า เพจแจ้งข้อมูลด่านส่วนใหญ่ทำเป็นเน็ตเวิร์ก มีการให้ข้อมูลต่อเนื่องกัน มีผู้มาโพสต์แจ้งข้อมูลการตั้งด่าน และเวลาการตั้ง ข้อมูลที่แพร่ในเพจต่างๆ หากมิจฉาชีพ ทุจริตชนนำไปใช้เป็นประโยชน์กับตัวในการวางแผน เลี่ยงหลบด่านตรวจ ข้อมูลเหล่านี้เป็นโทษทันที บางเพจให้ข้อมูลถึงขั้นเส้นทางหลบหนี เลี่ยงด่าน มอนิเตอร์แบบเรียลไทม์เวลาด่านตั้งด่านเลิก
"การแพร่ข้อมูลนี้ต้องตั้งคำถามว่ามีเจตนาอย่างไร จะอ้างว่าเพื่อให้ข้อมูลด่านเฉยๆ ถามกลับอีกว่าเพื่ออะไร ?"
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าว และว่า บางคนอ้างว่าให้ข้อมูลประชาชนเตรียมตัวก่อนถึงด่าน ต้องอธิบายว่าไม่จำเป็นเลยเพราะการตรวจที่ด่านไม่ต้องมีเอกสารอะไร เพียงแค่ทำตัวให้ถูกต้องตามกฎหมายพอแล้ว ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าด่านอยู่ตรงไหน เวลาใด คนทำถูกกฎหมายไม่จำเป็นต้องรู้ทางหนีทีไล่ แต่ข้อมูลเหล่านี้ถ้าคนร้ายนำไปใช้ ผู้แพร่ข้อมูลทั้งแอดมินและคนโพสต์ส่งต่อ ล้วนมีความผิดฐานร่วมสนับสนุนการหลบหนี
เมื่อดำเนินคดีต้องไปสู้กันที่เจตนาว่าหากแพร่ข้อมูลมีเจตนาให้ผู้รับทราบข้อมูลเลี่ยงกฎหมาย หลบหนีได้ ตรงนี้ก็ผิด
เพจแจ้งข้อมูลด่านส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากกลุ่มขับรถแข่งพยายามหาข้อมูลด่านเพื่อแจ้งให้สมาชิกหลีกเลี่ยง ขยายมาเรื่อยๆ เป็นแจ้งข้อมูลด่านตรวจแอลกอฮอล์ และด่านอื่นๆ ต้องย้ำว่าการให้ข้อมูลด่านมีความผิด นำข้อมูลทางราชการ ข้อมูลด้านความมั่นคงมาเปิดเผยผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14
โฆษก ตร.กล่าวด้วยว่า ข้อมูลการตั้งด่านของตำรวจ ถือเป็นข้อมูลราชการ เกี่ยวกับความมั่นคง แต่ไม่ได้หมายความว่าตำรวจจะแอบตั้ง มีเจตนาดัก เพราะปกติการตั้งด่านจะแสดงสัญลักษณ์เปิดเผยชัดเจน ย้ำว่าการออกมากวดขันจับกุมเพจเหล่านี้ไม่ใช่การจำกัดสิทธิ แต่ทำเพื่อปรามผู้ที่นำข้อมูลไปใช้ไปเผยแพร่โดยมีเจตนาแฝงเพื่อให้คนเลี่ยงการถูกบังคับใช้กฎหมาย อยากให้เปลี่ยนเป็นแจ้งข้อมูลเบาะแสคนร้าย รถซิ่ง สิ่งผิดกฎหมายแทน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบเพจต่างๆ ลักษณะนี้ หากพบความผิดจะดำเนินคดีทุกราย
ขณะที่ พ.ต.อ.โอฬาร สุขเกษม ผกก.3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ขยายความเพิ่มเติมว่า มีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้มีการตรวจสอบเพจที่มีการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ต่างๆ ว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดหรือไม่
เบื้องต้นจากข้อมูลที่เจ้าหน้าที่มีและตรวจสอบอย่างละเอียดกว่า 10 เพจนั้น ยังไม่พบว่ามีความผิดตามกฎหมายในข้อใด
อยากฝากประชาสัมพันธ์เหล่าแอดมิน หรือผู้ก่อตั้งเพจว่า หากเพจของเราเป็นเพียงการแชร์ด่านหรือแชร์จุดตรวจกับเพื่อนพ้องหรือผู้ใช้ถนนเท่านั้นก็ไม่เป็นไร
แต่หากเกิดกรณีการกระทำความผิด อาทิ ลักลอบขนยาเสพติด หรือลักขโมยรถของบุคคลอื่น แล้วจับกุมได้ภายหลัง พร้อมตรวจสอบว่าในโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใดๆ มีการกดไลค์ หรือติดตามเพจในลักษณะดังกล่าว พร้อมสารภาพว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้กระทำความผิดสามารถหลบหลีกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ก็ถือว่าเพจดังกล่าวสนับสนุนการกระทำความผิด
บอกกันถึงขนาดนี้แล้ว คงรู้ล่ะว่าแชร์-ไลค์ หรือส่งต่อข้อความที่ตั้งด่านไปสู่สาธารณะนั้นผิดหรือไม่ผิด
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
