สำหรับบ้านไหนที่มีลูกสาววัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ขอให้อ่านเรื่องราวนี้ไว้ และเป็นไว้เป็นอุทาหรณ์ชั้นดี เพื่อปรับใช้กับบุตรหลานท่านด้วยนะคะ
สืบเนื่องจากกระทู้เตือนภัยของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งระบุว่าครอบครัวของเธอสามารถจับพฤติกรรมของน้องสาว วัยเพียง 12 ปีได้ว่า ลับลอบปีกออกจากบ้านไปแคมป์คนงานข้างบ้าน เพื่อหลับนอน และได้เสียกับคนงานวัย 20 ปี และได้มีการแจ้งความเอาผิดเป็นที่เรียบร้อย แต่สิ่งที่ไม่สามารถย้อนกลับคืนได้เลย นั่นก็คือความบริสุทธิ์และแนวคิด ทัศนะคติของน้องสาว
สวัสดีค่ะ เราขอยืมไอดีเพื่อนมาตั้งกระทู้ อยากได้คำแนะนำและความคิดเห็นจากหลายๆความเห็น ขอเกริ่นแบบคร่าวๆนะคะ เราอายุ 24 ปี เรียนจบแล้ว มีน้องสาวอายุ12 ครอบครัวอยู่กันครบ พ่อ แม่ ลูกค่ะ
เหตุเกิดคือ ไม่กี่วันที่ผ่านมาบ้านเราจับได้ว่า น้องสาวเราแอบไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนงานก่อสร้างข้างบ้านค่ะ ย้ำว่าข้างบ้านเลยค่ะ ข้างๆบ้านมีผู้รับเหมามาเช่าที่ เพื่อสร้างแคมป์ให้คนงานก่อสร้าง ชายคนนั้นอายุ20 น้องเราเป็นคนเต็มใจไปหาเค้าเองค่ะ(แต่ก็ผิดกฎหมายอยู่ดีนั่นแหล่ะ)
ต้องบอกก่อนเลยว่าบ้านเราไม่เคยเลี้ยงน้องแบบกดดัน ไม่เคยคาดหวังเรื่องผลการเรียน ไม่เคยให้อดอยาก อยากกินอะไรก็ได้กิน ถึงจะมีฐานะปานกลางก็เถอะ ปล่อยให้เล่นเฟสให้คุยโทรศัพท์ได้แต่อยู่ในสายตา คุณพ่อคุณแม่ไปรับไปส่งตลอด กลับบ้านมาน้องก็อยู่กับเรากับแม่ตลอด นอนห้องเดียวกับแม่(คืออยู่กับแม่ตลอดเวลานอกจากตอนไปโรงเรียน แม่ไปตลาดมันก็ขอไปด้วยทุกวัน) ดูทีวีทำกิจกรรมปกติช่วงย็น
แต่หลังๆเราเริ่มสังเกตความผิดปกติค่ะ บ่นร้อนๆพยายามจะออกนอกตัวบ้าน แต่ก็ไม่ได้ออกรั้วบ้านนะคะ เราก็เข้าใจว่าอาจจะอยากออกไปคุยโทรศัพท์แบบไม่ให้แม่กับเราได้ยิน ตามประสาวัยรุ่น
เริ่มต้นเมื่อตั้นเดือนพฤษาคม ทั้งสองคนแอบจีบกัน แลกเฟสบุ๊คพูดคุยกัน และปลายเดือนพฤษภาคมก็เพิ่งได้เสียกัน จนล่วงเลยมาถึงวันที่จับได้ เพราะน้องเราเผลอหลับที่แคมป์ยันเช้า แอบเข้าบ้านไม่ทัน แม่เราตื่นตีห้าตื่นมาไม่เจอน้อง คือทั้งที่นอนอยู่ข้างๆแม่(ห้องแม่กับน้องอยู่ชั้นล่าง) เราหาทั่วบ้าน นางกลับเข้ามาเราก็ไม่ทันเห็นว่ามาจากตรงไหน(มันปีนกำแพงข้ามมา) มันบอกก็หลับอยู่หน้าบ้านเนี่ยข้างในมันร้อน -,- จนเราแย่งมือถือน้องมาดู น้องดูรนๆแต่ก็ไม่กล้าขัดเรา เราอ่านแชทล่าสุด เราจับใจความได้ว่าผู้ชายคนนั้นต้องอยู่แถวนี้ และอาจเป็นข้างบ้านด้วย ห๊ะ!ข้างบ้าน
เราออกตามทันที เข้าไปคุยกับผู้รับเหมาเอารูปให้เค้าดูว่าใช่คนงานที่นี่มั้ย(ตอนแรกเราคิดว่าคนพม่า จริงแล้วเป็นคนไทย ยังดีหน่อยสืบประวัติง่าย ถ้าหนีก็ยังตามจับง่าย) เค้าบอกใช่ เราอึ้ง อึ้ง อึ้ง ถามผู้ชายคนนั้นว่าทำอะไรน้องเรารึเปล่า เค้าบอกไม่ได้ทำคุยกันเฉยๆ แต่เรามาคาดคั้นน้องหนักๆ น้องยอมรับว่าหลังจากรอให้ทุกคนในบ้านหลับ ก็แอบปีนหน้าต่างในห้องนี่แหล่ะ(ชั้นล่าง)ออกไป และปีรั้วอีกทีเพื่อหาผู้ชายคนนั้น
แม่เราเป็นคนหลับสนิทค่ะ จะหลับแค่ห้าทุ่มถึงตีสาม เสียงอะไรนิดหน่อยแม่ไม่ได้ยินหรอก และก่อนที่แม่จะตื่นน้องสาวเราก็จะแอบปีนเข้ามา ตัวเราอยู่ชั้นสองไม่ได้ยินเลย) เราเอาแชทให้ตำรวจอ่าน ตำรวจบอกว่าถ้าขึ้นศาลก็บอกว่าถูกล่อลวงได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นชักชวนพาไปซื้อขนมที่เซเว่น หรือเติมตังโทรศัพท์ให้
เราสอนน้องตลอดว่าความสาวรักษาให้ถึงวันแต่งงานได้ก็ดี ถ้ารักษาไม่ได้ก็สัก 17-18 ปีพยายามยื้อเอาไว้ นี่เราสอนแบบพี่สอนน้องอ่ะ เพราะเราก็เสียตัว17-18เหมือนกัน5555 แต่มันก็โตเต็มวัยแล้ว สอนใส่ถุงยางนะถ้าเผลอมีอะไร คือว่าเราขอน้องเลยอ่ะให้พ้นช่วงม.ต้นไปก่อน เพราะร่างกายยังเด็กและสังเกตเพื่อนๆส่วนใหญ่ ที่มีอะไรกันในช่วงเด็กๆ เดี๋ยวก็เลิกกันอยู่ดี เราเป็นผญ.เสียตัวฟรี และมันเสี่ยงมาก (เราคบกับแฟนมาตั้งแต่ม.3 แต่ไม่ได้มีอะไรกันเลย คบกันมาเรื่อยๆ เราไม่เคยหนีออกจากบ้าน พ่อแม่มาจับเราได้เรื่องเรากับแฟนช่วงมหาลัย แต่ก็แค่ดุและให้คบกันต่อไป) นี่น้องเราตัวเล็กมากกกก ตามวัยเด็ก12 เรานี่สงสารน้องเลย มีอะไรกันเข้าไปได้ไงคะคู้ณณณ
-คือเราดำเนินคดีตามกฎหมายกับผช.คนนั้น และมาทราบภายหลังว่าไม่ได้คบกับน้องเราคนเดียว เด็กคนอื่นก็อายุ11-12ปี (มันเหมือนนักล่าความสาวเด็กเลย แต่ไม่ได้ข่มขืนนะ) เราไม่ได้เรียกร้องเงิน ทางเราไม่ยอมไกล่เกลี่ยใดๆทั้งสิ้นแต่อยากให้คุมขัง ถ้าให้การในชั้นศาลน้องเราควรพูดอย่างไร
-ตำรวจใช้วิธีโทร.ตามผช.ในเบื้องต้น (เรากลัวมันหนีอ่ะ) ทำไมตำรวจไม่มาพูดคุยถึงบ้านเลย ขอผู้รู้แนะนำด้วยค่ะ
-มีบางคนบอกว่าแม่เราดูแลน้องไม่ดี ปล่อยให้คลาดสายตา แบบนี้เราว่าก็ใกล้ชิดน้องสุดแล้วนะ น้องมันพยายามจะออกไปเอง
-มีบางครั้งตั้งแต่เกิดเรื่องนี้มา แม่เราโทษเราว่าชอบพูดเรื่องเพศให้น้องฟัง น้องเลยทำตามแบบอย่าง เช่น เตือนน้องเรื่องถุงยาง หรือข่าวประเภทข่มขื่น เราชอบยกกรณีตัวอย่าง(นินทา)เพื่อนเราที่ชอบมั่ว และมีแฟนหลายคนให้ฟัง หรือคนที่อยู่ละแวกบ้านที่ท้องไม่มีพ่อ แต่งงานตอนอายุ13 แต่เราเล่าให้ฟังและเตือนเสมอว่ามันไม่ถูกนะ ทำแบบนี้แล้วจะได้รับผลยังไง เสียอนาคตไรงี้ เราก็เถียงแม่ว่าเรื่องแบบนี้น้องควรรู้ได้แล้ว โตแล้วจะได้รู้ภัยสังคม รู้เรื่องเพศ เราทำผิดหรือถูก