จนทำให้พูดจาสื่อสารแบบคนปกติไม่ค่อยได้ อีกทั้งสภาพร่างกายตอนที่อาสาสมัครจากองค์กรการกุศลไปพบนั้นยังน่าสงสารยิ่งนัก มีบาดแผลไปทั่ว เนื้อตัวมอมแมมและมีกลิ่นเหม็น
รายงานระบุว่า ครอบครัวของหงโป่มีฐานะยากจน โดยพ่อมีอาชีพเป็นเจ้าของฟาร์มหมู พร้อมกับขับรถรับจ้างในเมือง ส่วนแม่นั้นมีอาการทางประสาท ทุกคนอยู่แบบอดยาก นอกจากนี้ ทุกๆวันพ่อของหงโป่จะเข้าเมืองเพื่อไปเก็บเศษอาหารที่ลูกค้ากินเหลือจากร้านอาหารหลายๆแห่ง เอามาแบ่งกินกันในครอบครัว และถ้าเหลือก็จะโยนให้หมูในฟาร์มกินต่อ
ครอบครัวมีลูกทั้งหมด 5 คน แต่เสียชีวิตไปแล้ว 3 ราย ซึ่งชาวบ้านคนหนึ่งระบุว่า สาเหตุการตายน่าจะเป็นเพราะอาการทางจิตของแม่หงโป่ ที่ชอบทำรุนแรงต่อลูก
"ฉันได้ยินเสียงแม่เขาเอาหัวลูกไปโขกกับกำแพงบ่อยๆเลย บางทีก็กระหน่ำโขกหลายครั้ง ซ้ำไปซ้ำมาแบบนั้น จนเด็กร้องไห้" หนึ่งในเพื่อนบ้านกล่าว
และทันทีที่เรื่องราวถูกเปิดเผยออกมา ชาวบ้านต่างพากันสงสารหงโป่ และนำเสบียงอาหาร พร้อมด้วยเสื้อผ้ามามอบให้
"ถ้าอุปการะเด็กได้ละก็ฉันจะรับเด็กคนนี้ไปเลี้ยงแล้ว ฉันอาจจะไม่รวย แต่อย่างน้อยฉันก็มีฐานะมากพอที่จะเลี้ยงเขาไม่ให้อดอยาก และส่งเขาเรียนจนจบได้" หนึ่งในอาสาสมัครจากองค์กรการกุศลกล่าว