แอดขอชวนเพื่อนๆชาว teenee.com ไปชมภาพและเรื่องราวซึ้งๆที่จะสะท้อนคำว่า ‘แม่' ได้เป็นอย่างดีกันค่ะ ซึ่งเรื่องราวชวนน้ำตาคลอเรื่องนี้ถูกเผยแพร่เผยแพร่โดย สำนักข่าวRKU NEWS เป็นเรื่องราวของคุณแม่หัวใจแกร่งคนหนึ่ง ที่ จ.อ่างทอง ซึ่งดูแลลูกสาวซึ่งป่วยเป็นโรคปลายประสาทอักเสบแขนและขาอ่อนแรงมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา...ซึ่งเนื้อหาระบุว่า
‘ ลูกสาว อายุ 12 ปี ป่วยเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ แขนและขาอ่อนแรง และกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1...โดยคุณแม่คนนี้จะคอยดูแลในการย้ายห้องเรียนและเป็นกำลังให้ลูกตลอด จนการเดินทางเหมือนคู่แฝดกัน ไปไหนไปด้วย...
คุณแม่มีอาชีพรับไข่ไก่จากฟาร์มมาส่งขายให้กับลูกค้า มีรายได้เฉลี่ยเดือนละประมาณ 5,000 บาท ส่วนคุณพ่อของน้องรับราชการเป็นตำรวจประจำอยู่ต่างจังหวัด...
น้องเริ่มมีอาการแขนและขาอ่อนแรงมาตั้งแต่อายุได้ 1 ขวบเศษ คุณแม่จึงได้พาไปพบแพทย์ โดยแพทย์ลงความเห็นว่า น้องป่วยเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ และได้ส่งตัวไปรักษาอย่างต่อเนื่องที่โรงพยาบาลเด็ก...
ซึ่งจะต้องไปพบแพทย์ทุก ๆ 6 เดือน เพื่อตรวจร่างกายและรับยามารักษา คุณแม่จึงต้องมีหน้าที่คอยรับ-ส่ง และคอยดูลูกสาวที่นั่งอยู่บนรถวีลแชร์ตลอดเวลา...ในขณะที่ลูกเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียน โดยมีคณะครู อาจารย์ และเพื่อน ๆ พี่ ๆ คอยให้การช่วยเหลือกันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะใช้เวลาช่วงที่ลูกยังไม่ต้องย้ายห้องเรียน นำไข่ไปส่งให้กับลูกค้าและทำธุระส่วนตัว แล้วจะกลับมาส่งกับข้าวให้ลูกกินกับเพื่อน ๆ ในตอนกลางวัน...
โดยหลังจากนั้น คุณแม่ก็จะนั่งเฝ้าอยู่บริเวณหน้าห้องเรียน จนถึงช่วงเย็นที่ลูกเรียนหนังสือเสร็จ ก็จะมารับลูกขึ้นรถกลับบ้านพร้อมกันอย่างนี้ทุกวัน ...'
‘ ลูกสาว อายุ 12 ปี ป่วยเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ แขนและขาอ่อนแรง และกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1...โดยคุณแม่คนนี้จะคอยดูแลในการย้ายห้องเรียนและเป็นกำลังให้ลูกตลอด จนการเดินทางเหมือนคู่แฝดกัน ไปไหนไปด้วย...
คุณแม่มีอาชีพรับไข่ไก่จากฟาร์มมาส่งขายให้กับลูกค้า มีรายได้เฉลี่ยเดือนละประมาณ 5,000 บาท ส่วนคุณพ่อของน้องรับราชการเป็นตำรวจประจำอยู่ต่างจังหวัด...
น้องเริ่มมีอาการแขนและขาอ่อนแรงมาตั้งแต่อายุได้ 1 ขวบเศษ คุณแม่จึงได้พาไปพบแพทย์ โดยแพทย์ลงความเห็นว่า น้องป่วยเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ และได้ส่งตัวไปรักษาอย่างต่อเนื่องที่โรงพยาบาลเด็ก...
ซึ่งจะต้องไปพบแพทย์ทุก ๆ 6 เดือน เพื่อตรวจร่างกายและรับยามารักษา คุณแม่จึงต้องมีหน้าที่คอยรับ-ส่ง และคอยดูลูกสาวที่นั่งอยู่บนรถวีลแชร์ตลอดเวลา...ในขณะที่ลูกเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียน โดยมีคณะครู อาจารย์ และเพื่อน ๆ พี่ ๆ คอยให้การช่วยเหลือกันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะใช้เวลาช่วงที่ลูกยังไม่ต้องย้ายห้องเรียน นำไข่ไปส่งให้กับลูกค้าและทำธุระส่วนตัว แล้วจะกลับมาส่งกับข้าวให้ลูกกินกับเพื่อน ๆ ในตอนกลางวัน...
โดยหลังจากนั้น คุณแม่ก็จะนั่งเฝ้าอยู่บริเวณหน้าห้องเรียน จนถึงช่วงเย็นที่ลูกเรียนหนังสือเสร็จ ก็จะมารับลูกขึ้นรถกลับบ้านพร้อมกันอย่างนี้ทุกวัน ...'
อ่านจบแล้วก็คงต้องขอบอกว่า หัวจิตหัวใจ ของคุณแม่ น่ากราบ จริงๆ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
