ผู้เป็นแม่ได้บอกกับผู้ว่าฯ ด้วยใบหน้าที่เศร้า และน้ำตาซึมว่า เป็นห่วงลูกสาวมาก พร้อมก้มลงจูบที่เท้าของลูกสาวทั้งน้ำตา บอกให้ลูกรู้สึกตัวเร็วๆ ภาพนี้ได้สร้างความตื้นตันใจให้กับผู้ที่พบเห็นหลายคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
น.ส.นทกานต์ เป็นเด็กที่เรียนดี และมีความประพฤติดี ฐานะทางบ้านยากจน มารดาประกอบอาชีพรับจ้าง มีรายได้เพียงเดือนละ 6,000 บาท ขณะที่พ่อป่วยเป็นอัมพฤกษ์ไม่สามารถทำงานได้ และมีน้องอีก 2 คน ที่ผ่านมา น.ส.นทกานต์ยังได้ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระทางบ้านด้วยการเก็บของเก่าขาย และรับจ้างเลี้ยงเด็กด้วย
ทางด้านคุณหมอที่รักษาน้องก็ได้แจ้งว่า อาการช่วงแรกหลังเกิดอุบัติเหตยังสามารถพูดคุยได้ จากนั้นเริ่มซึม ไม่ดีขึ้น แพทย์จึงได้เอกซเรย์สมองพบว่าสมองส่วนหน้าบอบช้ำ ไม่ตอบสนอง จึงได้ผ่าตัดฉุกเฉิน หลังจากผ่าตัดก็ไม่มีปฏิกิริยาทางสมองแต่อย่างใด ทางการแพทย์เรียกว่าสมองตาย อย่างไรก็ตามแพทย์ยังได้เฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง